Skip to main content
sharethis

ระบบ DMC คืออะไรทำไมเด็กคนหนึ่งถึงไม่ได้เข้าเรียนเพราะไม่มีประวัติในระบบ แล้วระเบียบ กระทรวงศึกษาฯ ว่าไว้อย่างไรเรื่องมอบหลักฐานเพื่อเข้าเรียน ต้องมีพ่อ แม่ ผู้ปกครอง พาเด็กมามอบตัวพร้อมหลักฐานประวัติหรือไม่  

นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.2566 เกิดประเด็นธนลภย์ ผลัญชัย หรือ “หยก” นักกิจกรรมเยาวชนอายุ 15 ปี ถูกครูและรองผู้อำนวยการของโรงเรียนอุดมศึกษาพัฒนา (ตอพ.) การเรียกไปคุยในห้องและยังบอกไล่เธอออกจากโรงเรียน แม้ว่าเธอจะสอบเข้าได้เป็นอันดับหนึ่งของสายการเรียนภาษาจีนและเริ่มเข้าเรียนมาแล้ว 3 สัปดาห์พร้อมจ่ายค่าเทอมไปแล้วนับตั้งแต่ได้รับการปล่อยตัวจากสถานพินิจบ้านปรานีจากคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ตามมาตรา 112 ที่ขณะนี้ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง

ทำให้เช้าวันต่อมาธนลภย์ต้องยืนยันการที่จะได้รับการศึกษาของตัวเองโดยการปีนประตูเพื่อเข้าเรียนและเริ่มมีสื่อติดตามคำชี้แจงจากทางโรงเรียนว่าเหตุใดทางรองผู้อำนวยการโรงเรียนจึงประกาศไล่ธนลภย์ออกจากโรงเรียน แต่ไม่มีคำตอบเรื่องนี้จากทางโรงเรียน จนกระทั่งถึงช่วงกลางดึกของวันที่ 14 จึงมีสื่อไปพบว่าทางโรงเรียนออกแถลงการณ์เรื่องนี้

ทั้งนี้ในแถลงการณ์ของโรงเรียนให้เหตุผลเรื่องที่ให้ธนภลย์ออกจากโรงเรียนไว้เพียงเรื่องเดียวคือธนภลย์ไม่ได้นำแม่ของเธอซึ่งเป็นผู้ดำเนินการขอผ่อนผันการมอบตัวไว้มาเป็นผู้ดำเนินการมอบตัวเธอเข้าเรียนด้วยตนเองในวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา เพราะทางโรงเรียนจะต้องยืนยันข้อมูลจำนวนนักเรียนในระบบ DMC ให้ทันภายในวันที่ 10 มิ.ย.2566 ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไม่มีข้อมูลของธนลภย์อยู่ในระบบดังกล่าว

ส่วนประเด็นเรื่องพฤติกรรมของธนลภย์นั้นในแถลงระบุว่าทั้งเรื่องไม่ใส่เครื่องแบบ ย้อมผม ไม่เข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนนั้นทางโรงเรียนไม่เคยปฏิเสธการรับเข้าเรียนแม้นักเรียนจะไม่ให้ความร่วมมือในการปรับพฤติกรรมก็ตาม

ทำให้เกิดประเด็นคำถามตามมาว่าแล้วระบบ DMC คืออะไร สำคัญกับการที่นักเรียนคนหนึ่งจะได้หรือไม่ได้เข้าเรียนจริงหรือไม่ และจำเป็นหรือไม่ที่เด็กคนหนึ่งจำเป็นต้องมี “พ่อ แม่หรือผู้ปกครอง” เป็นผู้ดำเนินการมอบตัวเด็กที่สอบเข้าเรียนได้แล้ว

ระเบียบ ศธ.ไม่ระบุว่าต้องมี “พ่อแม่” เป็นคนมอบตัว นร.เท่านั้น

เริ่มจากประกาศของทางโรงเรียนเองเท่าที่ผู้สื่อข่าวสืบค้นพบว่ามีการแจ้งไว้อย่างเป็นทางการบนเฟซบุ๊กของโรงเรียนเมื่อ 30 มี.ค.2566 กำหนดประเภทเอกสารในวันมอบตัวไว้ได้แก่

  1. ใบมอบตัวจากระบบมอบตัว
  2. สำเนาทะเบียนบ้านนักเรียน หากไม่มีใช้สำเนาบัตรประชาชน
  3. สำเนาทะเบียนบ้านบิดาและมารดา หรือบัตรประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางหากเป็นชาวต่างชาติ หรือสำเนาใบสูติบัตร(กรณีหย่าร้าง,หายสาบสูญ,เสียชีวิต) หรือสำเนาใบมรณะบัตรกรณีเสียชีวิต
  4. สำเนาใบแสดงผลการเรียนฉบับสมบูรณ์ หากไม่มีใช้สำเนาใบประกาศนียบัตรหรือหนังสือรับการเป็นนักเรียนหรือเอกสารแสดงผลการเรียนอื่นๆ

แต่ไม่พบประกาศนี้บนเว็บไซต์ ซึ่งอาจเป็นได้ว่าเว็บไซต์มีการกำหนดให้หน้าข่าวประชาสัมพันธ์ของเว็บไซต์โรงเรียนแสดงผลเพียงแค่ 6 ข่าวล่าสุดเท่านั้น

ต่อมาในประเด็นเรื่องระบบ DMC ที่ทางโรงเรียนอ้างไว้มีชื่อเต็มของระบบคือ “ระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล (Data Management Center : DMC)” ตามที่ระบุไว้ในคู่มือการใช้งานที่ออกโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพัฒนา (สพฐ.) ระบุไว้ว่าคือระบบที่ สพฐ.สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล ข้อมูลพื้นฐานของโรงเรียนสำหรับขอรับงบประมาณเงินอุดหนุนรายหัวตามโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่อนุบาลจนจบการศึกษาขึ้นพื้นฐานโดยเน้นการมีตัวตนอยู่ในในโรงเรียน ณ วันที่ยืนยันรับรองข้อมูลการมีตัวตนและข้อมูลพื้นฐานอื่นๆ เพื่อใช้วางแผนการบริหารจัดการกำหนดนโยบายและเชื่อมโยงข้อมูลไปยังหน่วยงานอื่นๆ

จากคู่มือมีการระบุถึงเรื่องวันสุดท้ายของการกรอกข้อมูลเข้าระบบ DMC ไว้ว่าจะต้องกรอกข้อมูลของแต่ละเทอมให้ครบไว้ด้วย สำหรับเทอม 1 คือวันที่ 10มิ.ย.ในแต่ละปี ส่วนเทอม 2 เป็นวันที่ 10 พ.ย. และจะต้องมีกรอกอีกครั้งในเดือนเมษายนซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมสองก่อนขึ้นปีการศึกษาใหม่

ส่วนประเด็นทางกฎหมายที่ใช้รองรับระบบ DMC มีการแนบเอกสารกฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอยู่ในคู่มือของ สพฐ.ดังกล่าวด้วย พบว่ามีกฎหมายที่เกี่ยวกับการยื่นหลักฐานเข้าเรียนอยู่ 2 ฉบับคือ “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียนนักศึกษาเข้าเรียนในสถาบันการศึกษา พ.ศ.2548” และ “ระเบียบกระทรวงศึกษาว่าด้วยทะเบียนนักเรียน พ.ศ.2535” (ส่วนที่ 5 ของคู่มือตั้งแต่หน้า 105 หน้า)

ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียนนักศึกษาเข้าเรียนในสถาบันการศึกษา พ.ศ.2548 มีพูดถึงชนิดหลักฐานที่ใช้ยื่นกับโรงเรียนมีการกำหนดไว้ในข้อ 6 ที่กำหนดประเภทเอกสารที่นักเรียนนักศึกษาจะต้องนำมาลงหลักฐานทางการศึกษาโดยจะต้องมี “ อย่างหนึ่งอย่างใด” ตามลำดับดังต่อไปนี้

(1) สูติบัตร

(2) กรณีที่ไม่มีหลักฐานตาม (1) ให้เรียกหนังสือรับรองการเกิด บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน หรือหลักฐานที่ทางราชการจดทำขึ้นในลักษณะเดียวกัน

(3) ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานตาม (1) หรือ (2) ให้เรียกหลักฐานที่ทางราชการออกให้ หรือ เอกสารตามที่กระทรวงศึกษาธิการกำหนดให้ใช้ได้

(4) ในกรณีที่ไม่มีหลักฐานตาม (1) (2) และ (3) ให้บิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือองค์กรเอกชน ทำบันทึกแจ้งประวัติบุคคล ตามแบบแนบท้ายระเบียบนี้ เป็นหลักฐานที่จะนำมาลงหลักฐานทางการศึกษา

(5) ในกรณีที่ไม่มีบุคคลหรือองค์กรเอกชนตาม (4) ให้ซักถามประวัติบุคคลผู้มาสมัครเรียนหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำลงรายการบันทึกแจ้งประวัติบุคคลแนบท้ายระเบียบนี้เป็นหลักฐานที่จะนำมาลงหลักฐานทางการศึกษา

ส่วนระเบียบกระทรวงศึกษาว่าด้วยทะเบียนนักเรียน พ.ศ.2535 ข้อ 13 มีการระบุถึงข้อมูลที่ใช้ในการลงทะเบียนวันเดือนปีเกิดในทะเบียนนักเรียนใหม่ไว้ว่าให้สถานศึกษาเรียกเอกสารประกอบการลงทะเบียนตามลำดับความสำคัญ คือ สูติบัตรจริงหรือสำเนา หรือสำเนาทะเบียนคนเกิด หากไม่มีให้เรียกสำเนาทะเบียนบ้านฉบับที่เจ้าบ้านยึดถือไว้เท่านั้น

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวสืบค้นเพิ่มเติมเพื่อหากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อีก ยังไม่พบว่ามีกฎหมายฉบับใหม่กว่าระเบียบของกระทรวง ศธ.ทั้งสองฉบับนี้ที่มีการประกาศใช้ในปัจจุบัน

จะเห็นได้ว่าตามระเบียบ ศธ.ทั้งสองฉบับดังกล่าวที่มีสถานะเป็นกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ในขณะนี้เอง กำหนดไว้เพียงแค่ให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองหรือองค์กรเอกชน เข้ามามีบทบาทหน้าที่ในการให้ข้อมูลประวัติของเด็กที่จะเข้าเรียนก็ต่อเมื่อเด็กที่จะเข้าเรียนไม่มีเอกสารสูติบัตรที่ระเบียบ ศธ.ว่าด้วยหลักฐานในการรับนักเรียนฯ ให้ความสำคัญที่สุดไว้ในข้อ 6 (1) หรือที่สำคัญรองลงมาอย่างบัตรประชาชนที่ระบุไว้ใน (2) ของระเบียบ ศธ.เท่านั้น และระเบียบ ศธ.ฉบับนี้ยังเปิดโอกาสให้เด็กเป็นผู้ให้ข้อมูลประวัติตัวเองได้โดยการให้สัมภาษณ์ตาม (5) อีกด้วย

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net