Skip to main content
sharethis

DSI เตรียมสิ้นสุดการให้ความคุ้มครอง 'มึนอ' ภรรยา 'บิลลี่' ในฐานะพยาน ระบุ “ไม่ได้เป็นพยานปากสำคัญในคดีฆาตกรรมบิลลี่” มึนอชี้จำเลยทุกคนในคดียังรับราชการอยู่ ทั้งนี้ ตนและครอบครัวออยากเดินทางมาศาลทุกนัดเพื่อฟังการไต่สวนคดีอีก 8 นัดที่เหลือ จึงอยากให้ DSI คุ้มครองพยานต่อไป

 

25 พ.ค. 2566 เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2566 มูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้นำส่งจดหมาย ของพิณนภา พฤกษาพรรณ หรือมึนอ ภรรยาบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ ฉบับลงวันที่ 19 พ.ค. 2566 ถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ขอให้พิจารณาคุ้มครองพยานและครอบครัวของบิลลี่ต่อไป รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้กับตนเองและผู้ไว้วางใจร่วมเดินทางมารับฟังการพิจารณาคดีอุ้มฆ่าบิลลี่ที่ศาลทุกนัด เพื่อฟังการไต่สวนซึ่งจะมีอีก 8 นัด ในวันที่ 17 และ 24-27 ก.ค. 2566 และ 28 และ 30-31 ส.ค. 2566 ในคดีหมายเลขดำที่ อท.166/2565 ซึ่งเป็นคดีที่ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร กับพวกรวม 4 คน ตกเป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และข้อหาอื่นๆ เพื่อติดตามการสืบพยานและทวงถามถึงความยุติธรรมกับศาลให้ถึงที่สุด

มึนอ และ บิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ

มึนอเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 18 พค. 2566 ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ DSI ได้เดินทางไปพบพร้อมกับแจ้งว่าทางดี DSI เห็นว่าตนไม่ได้เป็นพยานปากสำคัญในคดีฆาตกรรมบิลลี่ จึงมาแจ้งว่าจะสิ้นสุดการดูแลและคุ้มครองพยานแล้ว  

ขณะที่จำเลย 1-4 ในคดีก็ยังรับราชการอยู่ทุกคน โดยส่วนตัวมึนออยากมาศาลทุกนัดเพื่อฟังการไต่สวนซึ่งจะมีอีก 8 นัด เพื่อติดตามการสืบพยานและทวงถามถึงความยุติธรรมกับศาลให้ถึงที่สุด โดยมึนอได้เขียนหนังสือขอความเป็นธรรมเรื่องนี้กับอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุถึงเหตุแห่งความหวาดกลัวและความไม่มั่นใจในความปลอดภัยในฐานะครอบครัวของบิลลี่ว่า “ภายหลังบิลลี่ถูกทำให้สูญหาย ครอบครัวต้องใช้ชีวิตอย่างลำบากเพราะถูกคุกคามอย่างต่อเนื่องรวมถึงมีการคุกคามทางสื่อบางช่องและมีการให้ข้อมูลเท็จทางสื่อสังคม ทำให้ผู้คนเข้าใจผิดและเกลียดชังครอบครัวบิลลี่”  อีกทั้ง “ปัจจุบันนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรจำเลยในคดีที่ทำให้บิลลี่เสียชีวิตยังรับราชการมีตำแหน่งสำคัญและทำงานเกี่ยวข้องในพื้นที่แก่งกระจาน ทำให้ครอบครัวบิลลี่โดยเฉพาะลูกๆมีความหวาดกลัวและต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวงและไม่มั่นใจในความปลอดภัย”

คดีนี้สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 17 เม.ย. 2557 พอละจี รักจงเจริญ หรือ บิลลี่ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง “บางกลอย-ใจแผ่นดิน” ได้ถูกจับกุมและถูกเอาตัวไปโดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในขณะนั้น กับพวก หลังจากนั้นไม่มีใครทราบชะตากรรมของบิลลี่อีกเลย จนกระทั่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) และอัยการ ได้ร่วมกันติดตามสอบสวนคดีดังกล่าวจนได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมอันควรเชื่อได้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่จับกุมบิลลี่ไปนั้น ได้ร่วมกันกระทำผิดต่อบิลลี่ ตามฟ้องคดีฆาตกรรมภายหลังพบชิ้นส่วนกระดูกของบิลลี่เมื่อปี 2562

มูลนิธิผสานวัฒนธรรม ขอเชิญชวนสื่อมวลชนและผู้สนใจร่วมติดตามเพื่อให้มั่นใจว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถคุ้มครองพยานครอบครัวของบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ และอำนวยความสะดวกในการมาศาลจนกว่าคดีจะถึงที่สุดและสามารถนำคนผิดมาลงโทษได้

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net