Skip to main content
sharethis

ชาวบ้านกว่า 100 ชุมนุมหน้าที่ทำการอุทยานภูผาม่าน หลังเจ้าหน้าที่ไม่รับข้อเรียกร้องให้ถอนหมุดหลักเขตโครงการอนุรักษ์ที่ปักเข้ามาในพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน ยืนยันจะอยู่จนกว่าจะผู้มีอำนาจตัดสินใจมารับข้อเรียกร้อง หลังจากเจ้าหน้าที่ที่ร่วมประชุมอ้างว่าไม่มีอำนาจตัดสินใจ

ภาพการชุมนุมของชาวบ้าน โดยสำนักข่าวปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน

19 เม.ย.2566 ที่อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน (อช.ภูผาม่าน) ประชาชนประมาณ 100 คนจากหมู่บ้านซำผักหนามและชาวบ้านชุมชนหนองจาน ต.นาหนองทุ่ม อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น ที่ได้รับผลกระทบจากการปักหมุดเขตพื้นที่โครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของอุทยานล้ำเข้ามาในพื้นที่ทำกินร่วมกันชุมนุมข้ามคืนนับแต่วานนี้ (18 เม.ย.66) ที่หน้าบริเวณที่ทำการของอุทยานหลังจากไม่สามารถหาแนวทางร่วมกันในการแก้ปัญหาได้

ตัวแทนชาวบ้านจากหมู่บ้านซำผักหนาม ให้สัมภาษณ์ว่าในการประชุมเมื่อวานนี้ชาวบ้านมาร่วมประชุมกับทาง อช.และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) ตามที่ทางเจ้าหน้าที่มานัดหมายประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเอาไว้ตั้งแต่วันที่เจ้าหน้าที่มารับรายชื่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการปักหมุดเขตโครงการฯ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมระหว่างชาวบ้านและเจ้าหน้าที่อุทยานรวมถึง ผู้อำนวยการของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 ที่มาเป็นประธานที่ประชุม ทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่รับข้อเรียกร้องของชาวบ้านที่ให้ถอนหมุดหลักเขตโครงการออกจากพื้นที่ชาวบ้าน โดยทางเจ้าหน้าที่ก็อ้างเพียงเรื่องวัตถุประสงค์โครงการ ส่วนทางผอ.สำนักฯ อ้างเหตุผลว่าไม่มีอำนาจสั่งการ ทำให้การประชุมเจรจาล้มเหลวชาวบ้านจึงร่วมใจกันลุกเดินออกจากห้องประชุมและมาชุมนุมประท้วงที่หน้าที่ทำการอุทยาน

ตัวแทนชาวบ้านเล่าย้อนไปว่า ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.2566 ตัวแทนชาวบ้านจาก5 ชุมชน ที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูผาม่าน เช่น ชุมชนชำผักหนาม ชุมชนหนองจาน บ้านโคกยาวน้ำหนาว บ้านห้วยซ้อและห้วยม่วง ไปประชุมหารือแก้ไขปัญหาข้อพิพาทเรื่องการปักหมุดแนวพื้นที่โครงการอนุรักษ์ร่วมกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 (ขอนแก่น) โดยมีหัวหน้า อช.ภูผาม่าน พร้อมด้วยหน่วยงานราชการอื่นๆ เช่น นายอำเภอชุมแพ ปลัดอำเภอชุมแพ โดยมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธานการประชุมด้วย

ตัวแทนจากบ้านซำผักหนามกล่าวต่อว่าทั้งนี้ในการประชุมครั้งนั้นทางชาวบ้านได้เสนอให้รื้อถอนหลักหมุดออกจากที่ดินทำกินของชุมชน แต่หาข้อสรุปไม่ได้ว่าจะรื้อถอนหรือไม่ แต่มีข้อเสนอว่าให้ทำสำรวจว่ามีชาวบ้านผู้เดือดร้อนอยู่กี่รายพร้อมทำรายชื่อส่งให้อุสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 8 เพื่อได้ดำเนินการสำรวจตรวจสอบความถูกต้องของแนวเขตป่าที่ล้ำเข้ามาในพื้นที่ดินทำกินของชุมชน จนวันที่ 4 เม.ย.2566 จึงเจ้าหน้าที่เดินทางมายังศาลาประชุมกลางหมู่บ้านซำผักหนามเพื่อรับรายชื่อของผู้ที่ได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 50 รายไป และนัดหมายมาประชุมร่วมกันกับคณะกรรมการแก้ไขปัญหาอีกครั้งเมื่อวานนี้(18 เม.ย.)

ภาพการชุมนุมของชาวบ้าน โดยสำนักข่าวปฎิรูปที่ดินภาคอีสาน

ตัวแทนชาวบ้านเล่าว่าตอนแรกทางหัวหน้าอุทยานได้มาทำเวทีประชาคมร่วมกับชาวบ้านเรื่องโครงการนี้และได้บอกกับชาวบ้านว่าเขตของโครงการจะอยู่รอบนอกชุมชน ทางชาวบ้านเองก็ยินยอมให้ทำเพราะคิดว่าไม่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ของชาวบ้านและทางชาวบ้านเองก็ไม่ได้อยากมีปัญหากับเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว แต่เมื่อมีการปักหมุดเขตพื้นที่โครงการกลับปักเข้ามาในพื้นที่ของชุมชนซึ่งตอนนี้มีพื้นที่ของหมู่บ้านซำผักหนามเป็นพื้นที่นำร่อง

ตัวแทนชาวบ้านบอกอีกว่าวันนี้มีเจ้าหน้าที่มาพูดคุยกับชาวบ้านถึงทางออกแต่กลับเป็นเจ้าหน้าที่ที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ ชาวบ้านจึงจะชุมนุมอยู่ที่หน้าที่ทำการอุทยานนี้จะมีไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดจนกว่าจะมีเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจตัดสินใจมาร่วมหารือรับข้อเรียกร้องของชาวบ้าน เพราะหากปล่อยดำเนินการต่อไปเมื่อปักหมุดและทำรังวัดพื้นที่หาพิกัด GPS เมื่อเสร็จแล้วเรื่องก็จะเข้าสู่ขั้นตอนออกเป็นกฤษฎีกากำหนดเขตของโครงการ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net