Skip to main content
sharethis

มีเหตุแจ้งเมื่อ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา นักกิจกรรมหญิงอายุ 22 ปี จักรยานยนต์ถูกตัดสายคลัตช์จนเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่-เกิดเหตุทำร้ายเยาวชนวัย 13 ปี เบื้องต้น ทั้ง 2 กรณียังไม่ทราบตัวผู้กระทำผิด

 

25 ต.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งวานนี้ (24 ต.ค.) 'พิมพ์' แทนฤทัย แท่นรัตน์ นักกิจกรรมการเมืองอายุ 22 ปี ระบุรถจักรยานยนต์ของเธอถูกตัดสายคลัตช์จนเกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่ เมื่อช่วงค่ำ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับ 'พิมพ์' เป็นนักกิจกรรมจากกลุ่ม 'ภาคีเซฟบางกลอย' และเฟมินิสต์ปลดแอก รวมถึงร่วมผลักดันประเด็นการเมืองและสิทธิมนุษยชนอีกหลายประเด็น เช่น สมรสเท่าเทียม สิทธิที่ดินทำกินของชาวชาติพันธุ์ วันผู้สูญหายสากล และอื่นๆ

แทนฤทัย แท่นรัตน์ หรือพิมพ์ นักกิจกรรมภาคีเซฟบางกลอย อายุ 22 ปี

แทนฤทัย ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2565 เวลาประมาณ 21.00 น. เธอและเพื่อนนักกิจกรรมอื่นๆ นัดพบและรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหาร 'แมคโดนัลด์' สาขาถนนราชดำเนิน เธอกล่าวว่า ตอนที่เดินทางไปถึงร้านแมคฯ ด้วยรถจักรยานยนต์ เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่ประจำอยู่บริเวณดังกล่าวแจ้งให้พิมพ์นำรถเข้าไปจอดในโรงเรียนสตรีวิทยา โดยอ้างว่าเพื่อเตรียมความเรียบร้อยระหว่างขบวนเสด็จเคลื่อนผ่าน

นักกิจกรรมอายุ 22 ปี กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ดำเนินไปจนกระทั่งรับประทานอาหารเสร็จ  'สายน้ำ' นักกิจกรรม และพิมพ์ นำรถจักรยานยนต์ออกมาจากโรงเรียนสตรีวิทยา และขับออกไปที่สะพานซังฮี้ เนื่องจากมีนัดพบกับเพื่อน โดยแทนฤทัย เล่าด้วยว่า ตอนที่กำลังขับรถออกมา 'สายน้ำ' เพื่อนของเธอเป็นคนขับ และแทนฤทัย เป็นผู้ซ้อนท้าย

แทนฤทัย กล่าวต่อว่า แต่ระหว่างที่กำลังขี่รถบนถนน ได้เกิดอาการผิดปกติกับรถมอเตอร์ไซค์ โดยมีอาการกระชากและเปลี่ยนเกียร์ไม่ได้ ส่งผลให้รถล้มหวิดเข้าไปใต้ท้องรถยนต์ โดยแทนฤทัย ที่เป็นผู้ซ้อนท้าย ได้รับบาดเจ็บโดยหัวกระแทกพื้นอย่างแรง แต่เธอระบุว่าโชคดีที่ใส่หมวกกันน็อค ขณะที่ผู้ขับขี่มีบาดแผลถลอกที่ขาเล็กน้อย และมีอาการระบม

'พิมพ์' ส่งภาพสายคลัตช์ที่เธออ้างว่าถูกตัดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2565

นักกิจกรรมคนเดิมเล่าว่า หลังจากเกิดเหตุมอเตอร์ไซค์ล้ม มีการตรวจสอบพบว่าสายคลัตช์ซึ่งเป็นของเปลี่ยนใหม่เมื่อ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา มีรอยกระชาก และรอยขาดบริเวณยางหุ้ม ซึ่งไม่ใช่รอยที่เกิดจากการใช้งานทั่วไป จึงส่งผลให้ล้อล็อก และเกิดอุบัติเหตุรถล้มข้างต้น

สายน้ำ (สงวนชื่อและนามสกุล) นักกิจกรรมวัย 18 ปี ที่ขับรถมอเตอร์ไซค์ให้พิมพ์ กล่าวสอดคล้องกันว่า จากการตรวจสอบที่สายคลัตช์ดูเป็นรอยกระชากขาดบริเวณที่ยางหุ้มสาย 

สายน้ำ มองว่าดูเหมือนรีบทำ ซึ่งสายคลัตช์ไม่ได้ขาดออก และมองว่าไม่ได้ตั้งใจทำให้ขาด เพราะถ้าสายคลัตช์ขาดแต่แรก เครื่องยนต์ของรถมอเตอร์ไซค์จะสตาร์ทไม่ติด 

สายน้ำ กล่าวว่าเขาได้ลองกลับไปถามเจ้าหน้าที่บริเวณโรงเรียนสตรีวิทยาว่ามีใครเข้ามาตรงที่มอเตอร์ไซค์ของพิมพ์จอดอยู่หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตอบกลับมาว่าไม่ได้เป็นคนทำ

แทนฤทัย กล่าวเน้นย้ำว่า หลังเกิดเหตุการณ์ที่ถูกตัดสายเบรกรถมอเตอร์ไซเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว (ส.ค.) ทำให้เธอเปลี่ยนมาใช้มอเตอร์ไซค์คันใหม่ และตรวจความเรียบร้อยจักรยานยนต์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง เนื่องจากเธอยังคงหวาดระแวงและกังวลความปลอดภัยในชีวิต

นอกจากนี้ นักกิจกรรมคนเดิมระบุว่ายังไม่ทราบแน่ชัดว่าใครเป็นคนลงมือตัดสายคลัตช์ แต่คาดว่าเป็นช่วงที่รถมอเตอร์ไซค์จอดที่โรงเรียนสตรีวิทยา เพราะก่อนหน้าที่เธอจะมาที่ร้านแมคฯ รถยังคงขับขี่ได้เป็นปกติไม่มีปัญหา

พิมพ์ กล่าวด้วยว่า เธอไม่เคยมีเรื่องบาดหมางรุนแรงกับใครมาก่อน แต่กังวลว่าอาจเป็นเพราะบทบาทนักกิจกรรมการเมือง อาจทำให้เธอตกเป็นเป้าหมายความรุนแรง และพยายามทำให้เธอตกอยู่ในอันตราย

เยาวชนถูกทำร้าย ไม่ทราบสาเหตุ

เมื่อ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 3.00 น. 'เอีย' (สงวนชื่อ-นามสกุล) เยาวชนอายุ 13 ปี และผู้เคยเข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองหลายครั้ง แจ้งผู้สื่อข่าวว่าถูกกลุ่มบุคคลปริศนา 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คัน เข้ามาทำร้ายระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์บริเวณพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน

เยาวชนอายุ 13 ปี เล่าว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงกลางดึก ขณะที่เขาขับรถจักรยานยนต์ติดไฟแดงที่แยกราชวิถี และเห็นมีคนขับรถจักรยานยนต์มาจากทาง สน.ดุสิต มามองหน้า เขารู้สึกไม่ไว้ใจจึงพยายามขับมาหน้าพระตำหนักจิตรลดาฯ เพราะเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่ แต่คนกลุ่มนั้นยังคงขับมอเตอร์ไซค์มาประกบ และบอกให้เขาจอด

เยาวชนอายุ 13 ปี ระบุว่า พอจอดรถแล้ว ชายกลุ่มดังกล่าวมีการหยิบมีดจ่อ และต่อยเข้าที่หน้าของเขา พร้อมกับพูดว่า "มึงเก่งเหรอ" นอกจากนี้ เอีย ระบุด้วยว่า เขาสังเกตเห็นว่าทุกคนที่เข้ามาพยายามทำร้ายเขา พกอาวุธปืน แต่ไม่ทราบชนิด

เอีย เผยว่าก่อนที่กลุ่มคนที่เข้ามาทำร้ายจะจากไป มีคนหนึ่งบอกเขาว่า "มึงมาแก้ใหม่ได้" ซึ่งเขาไม่เข้าใจความหมายว่าหมายถึงอะไร

เยาวชนอายุ 13 ปี สังเกตเห็นว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่ทางฝั่งตรงข้ามพระตำหนักจิตรลดาฯ แต่ไม่มีการเข้ามาช่วยเหลือเขาแต่อย่างใด  

ล่าสุดวันนี้ (25 ต.ค.) เอีย เดินทางไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันที่ สน.ดุสิต ต่อกรณีที่ถูกทำร้ายเมื่อ 22 ต.ค. 2565 ไว้เป็นหลักฐาน โดยมี ร้อยตำรวจเอก ชวะฤทธิ์ จันทร์เกิ้น พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต เป็นผู้รับแจ้งความ

สำหรับ 'เอีย' เป็นหนึ่งใน 280 เยาวชนที่ถูกดำเนินคดีทางการเมือง นับตั้งแต่มีการชุมนุมประท้วงขับไล่รัฐบาล นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปี 2563 เป็นต้นมา ปัจจุบัน ‘เอีย’ ถูกดำเนินคดีทั้งสิ้น 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ถูกตั้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ขณะกำลังปั่นจักรยานกลับบ้านผ่านสถานที่ชุมนุม 13กันยา64 ที่ดินแดง และครั้งที่ 2 ถูกตั้งข้อหา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และร่วมมั่วสุมใช้กำลังประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง จากการเข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง เมื่อ 15 เม.ย. 2565

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net