Skip to main content
sharethis

‘วิโรจน์’ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. จากพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่สำรวจปัญหาการใช้งานสนามหลวง ยืนยันหากได้เป็นผู้ว่าฯ จะคืนให้ประชาชน เอารั้วเหล็กออก และเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก ด้านอัศวิน ขวัญเมือง แถลงลาออกผู้ว่าฯ กทม.หลังทำงานมา 5 ปีกว่า เตรียมลงสมัครพ่อเมืองหลวง เผยไม่ยึดติดอำนาจ แต่อยากสานต่อ และสร้างสิ่งใหม่ให้คนกรุง 

 

25 มี.ค. 65 ทีมสื่อก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนวันนี้ (24 มี.ค.) วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ในนามพรรคก้าวไกล เดินทางลงพื้นที่สำรวจปัญหาการใช้งานสนามหลวง ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นทั้งตลาดนัด และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ไปจนถึงการใช้ชุมนุมทางการเมืองครั้งประวัติศาสตร์ของไทยแทบทุกครั้ง แต่สภาพปัจจุบัน สนามหลวงกลับถูกปิดกั้นด้วยรั้ว ประชาชนไม่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวก ไม่มีม้านั่งหรือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ ไม่สามารถชุมนุมทางการเมืองหรือทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ นอกจากนี้ ยังมีการกั้นรั้วเหล็กรอบสนามหลวง ทำให้ประชาชนที่รอรถเมล์ ซึ่งผ่านสนามหลวงมากถึง 15 สาย ต้องลงมายืนเสี่ยงชีวิตรอบนถนน เนื่องจากทางเท้าแคบ ยืนไม่เพียงพอ

บรรยากาศการลงพื้นที่สนามหลวงของวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.

“คำว่า ‘หลวง’ หมายถึงเป็นของประชาชน ใช้เงินภาษีประชาชน เช่น ถนนหลวง ไฟหลวง สนามหลวงจึงเป็นสนามของประชาชน ต้องให้ประชาชนได้ใช้อย่างสะดวกไม่ปิดกั้น หากผมเป็นผู้ว่าฯ สนามหลวงจะเปิดใช้งานอย่างมีชีวิตชีวาเหมือนที่เคยเป็น เอารั้วกั้นออกให้หมด เปิดให้ประชาชนทำได้ทุกอย่างที่ถูกกฎหมาย ตั้งแต่เล่นว่าว ดูดวง ออกกำลัง ไปจนถึงกิจกรรมทางการเมือง” วิโรจน์ กล่าว 

วิโรจน์ ยืนยันอีกด้วยว่า การดูแลความสะอาดและความปลอดภัยของสนามหลวง ยังสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้รั้วกั้น สนามหลวงเป็นพื้นที่โล่ง ไม่มีใครซ่องสุมก่ออาชญากรรมได้ จึงไม่จำเป็นต้องมีรั้วเพื่อความปลอดภัย ใช้เพียงตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ดูแลลาดตระเวนตามความเหมาะสม และ กทม. ก็มีกล้องวงจรปิดรอบบริเวณอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังต้องเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้ประชาชน เช่น ม้านั่ง ก๊อกน้ำดื่ม รวมถึงสร้างห้องน้ำถาวร ไม่ใช่แค่รถสุขาเคลื่อนที่อย่างที่มีในปัจจุบัน

หลังจากเสร็จสิ้นการสำรวจพื้นที่ วิโรจน์กล่าวเชิญชวนประชาชนร่วมกันแสดงความคิดเห็น ออกแบบการใช้สนามหลวง ในฐานะพื้นที่ของประชาชน โดยติดแฮชแท็ก #สนามหลวงใช้ทำอะไรดี เพื่อเป็นแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่หลังจากกรุงเทพฯ มีผู้ว่าฯ คนใหม่

ทั้งนี้ สนามหลวงเคยใช้เป็นพื้นที่สาธารณะสารพัดประโยชน์มาตั้งแต่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 แต่ในปี 2555 ยุคของผู้ว่า ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ได้มีการออกระเบียบการใช้สนามหลวง โดยในระเบียบได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า อนุญาตเฉพาะ “งานประเพณีสําคัญของชาติโดยหน่วยงานของรัฐ เช่น งานรัฐพิธี งานพระราชพิธี การจัดการแข่งขันกีฬาไทยประจำปี” และห้ามจัดงานชุมนุมทางการเมืองโดยเด็ดขาด

‘อัศวิน’ แถลงลาออกผู้ว่าฯ กทม. เตรียมลงสมัครพ่อเมืองหลวง

สำนักข่าว Voice TV รายงานวันนี้ (24 มี.ค.) ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานครฯ (กทม.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง แถลงข่าวการลาออกจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ รมต.ลงนามรับทราบคำสั่งต่อไป โดยยังเผยว่า ต่อจากนี้จะเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ต่อไป ซึ่ง พล.ต.อ.อัศวิน ระบุว่า ไม่ได้ยึดติดกับอำนาจ เพียงแต่ต้องสานต่องานที่เริ่มต้นไปแล้วให้เสร็จ รวมถึงสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับชาวกรุงเทพฯ 

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง (ที่มา เฟซบุ๊ก ผู้ว่าฯ อัศวิน)

พล.ต.อ.อัศวิน ยืนยันว่าจะลงสมัครในนาม 'อิสระ' ไม่สังกัดกับพรรคการเมืองใดๆ อย่างไรก็ตาม ตนยังได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มรักษ์กรุงเทพ ซึ่งไม่มีใครเป็นนักการเมือง ทั้งยังกล่าวว่า จุดแข็งของตนคือด้วยประสบการณ์ที่ได้รับตำแหน่งมานาน ตนสามารถทำงานต่อได้ทันทีโดยไม่ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ พร้อมชูการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ เพราะตนเป็นนักปฏิบัติ ไม่ใช่นักประชาสัมพันธ์ จึงไม่ค่อยได้ประกาศผลงานว่าได้ทำอะไรมาแล้วบ้าง 

สำหรับภารกิจที่ยากที่สุดในการทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. พล.ต.อ.อัศวิน มองว่า ทุกเรื่องในกรุงเทพฯ ยากหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ความสะอาด พื้นที่สาธารณะ เเละสิ่งเเรกที่ผู้ว่าฯ กทม. ควรจะทำหลังจากได้รับเลือกตั้ง คือต้องทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือนโยบายใด ก็ต้องเริ่มทำทั้งหมด เเต่ถ้าตนได้เป็น จะนำนโบายมาสู่การปฎิบัติควบคู่กันไป 

เมื่อถามว่า ถ้าจะให้คะแนนการทำงานของตัวเองที่ผ่านมาตลอด 5 ปีเศษ เต็มสิบจะได้เท่าไหร่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า "อย่างน้อยผมก็ให้ตัวเองครึ่งหนึ่งไปแล้ว ที่ผมจะสมัครใหม่ ก็เพื่อจะทำที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งให้จบ 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในเวลา 5 ปี 5 เดือน 5 วัน ที่ทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. มา ภูมิใจผลงานใดมากที่สุด พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ภูมิใจทุกเรื่อง แต่ยังไม่ภาคภูมิใจเต็มที่ เนื่องจากยังทำให้ประชาชนไม่สุด เเต่ถ้าภูมิใจที่สุดคือ พี่น้องประชาชนได้รับความสะดวก สบาย ปลอดภัยขึ้น ซึ่งได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งจากประชาชนเเละหน่วยงานต่างๆ 

สำหรับการเลือกตั้งที่มีการเปิดตัวผู้สมัครมาแล้วหลายคน พล.ต.อ.อัศวิน มองว่า เป็นเรื่องที่ดี ที่คนกรุงเทพฯ จะได้มีตัวเลือกมากๆ

"ทุกคนที่ลงสมัครเป็นคนดี คนเก่งทั้งนั้น ประชาชนรักเเละชอบคนไหนก็เลือกคนนั้น เเต่ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ ก็หันมาหาอัศวิน เพราะกรุงเทพฯ ต้องไปต่อ" พล.ต.อ.อัศวิน กล่าว 

หลังจากนั้น พล.ต.อ.อัศวิน ได้ขึ้นรถออกจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร โดยก่อนเดินทางได้กล่าวว่า "กลับมาแน่นอน" 

ทั้งนี้ การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครฯ และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. 2565 ซึ่งในวันเดียวกันนั้น จะมีการเลือกตั้งนายกเมืองพัทยา พร้อมด้วยสมาชิกสภาเมืองพัทยา ด้วยเช่นกัน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net