Skip to main content
sharethis
  • ปัดตกไม่เป็นไร ‘ก้าวไกล’ ยื่นใหม่ ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองเเรงงาน 10 ฉบับ ย้ำชัด สานต่อภารกิจอนาคตใหม่ ยกระดับคุณภาพชีวิต คุ้มครองผู้ใช้เเรงงานให้คนเท่าเทียมกัน
  • จ่อยื่น กมธ.ป.ป.ช. ฟันรัฐบาล พ่วงฟ้องเเพ่งคลาสแอคชั่น ‘ประยุทธ์- จุรินทร์- เฉลิมชัย’ กรณีจงใจปกปิดการระบาด ASF ทำ หมูแพง-ฟาร์มเจ๊ง ระนาว

 

18 ก.พ. 2565 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ที่อาคารรัฐสภา พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย สุเทพ อู่อ้น, วรรณวิภา ไม้สน , ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล สัดส่วนเเรงงาน และ จรัส คุ้มไข่น้ำ ส.ส.จังหวัดชลบุรี เขต 6 พรรคก้าวไกล เเถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีพรรคก้าวไกลยื่นร่างกฎหมายเกี่ยวกับคุ้มครองเเรงงาน จำนวน 10 ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎร โดยมี สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้เป็นผู้รับเรื่อง 

พิธา กล่าวว่า การยื่น ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองเเรงงาน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของพรรคก้าวไกล ครั้งแรกเคยยื่นในสมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่ เเต่มีการให้เหตุผลว่าเป็นร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเงิน ต้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาก่อนส่งเข้าสู่สภาจากนั้นก็ถูกปัดตกไป ในครั้งนี้จึงเป็นความพยายามอีกครั้งของ ส.ส.ปีกเเรงงานเเละคณะทำงานของพรรคก้าวไกล โดยได้แยกกฎหมายออกเป็น 10 ฉบับ ก่อนยื่นครั้งที่ 2 สาระสำคัญของ ร่างพ.ร.บ.ทั้ง 10 ฉบับ มีสาระสำคัญมุ่งพัฒนาชีวิตผู้ใช้เเรงงานทั่วประเทศ และการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยมีเป้าประสงค์ว่า หาก ร่างพ.ร.บ.ทั้ง10 ฉบับ ผ่าน จะทำให้ผู้ใช้เเรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ที่ดี เเรงงานได้รับความคุ้มครองการทำงานมากขึ้น 

ขณะที่ สุเทพ กล่าวว่า ในครั้งเเรกเรายื่นไป 7 ฉบับ เเต่โดนนายกรัฐมนตรีปัดตกไป ครั้งนี้พรรคก้าวไกลมาสานงานต่อจากอดีตพรรคอนาคตใหม่เพื่อทำให้สำเร็จ โดยเรามีการแก้ไขรายมาตรา ทั้ง 10 ฉบับ ในฉบับเเรก เเก้ไขในมาตรา 4 ว่าด้วยการบังคับใช้ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานในหน่วยงานราชการ ราชการภูมิภาคและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งปัจจุบันไม่ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายฉบับนี้ เราต้องการให้มีการคุ้มครองอย่างครอบคลุมทุกกลุ่ม 

ฉบับที่ 2 มาตรา 5 เรื่องการจ้างเเรงงาน, ฉบับที่ 3 มาตรา 15 ให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างเท่าเทียมเป็นธรรมไม่เลือกปฏิบัติ, ฉบับที่ 4 มาตรา 23 เเก้ไขในเรื่องชั่วโมงการทำงานต้องไม่เกิน 50 ชั่วโมง, ฉบับที่ 5 มาตรา 28 ให้ลูกจ้างมีวันหยุดใน 1 สัปดาห์ อย่างน้อย 2 วัน, ฉบับที่ 6 มาตรา 30 ในเรื่องใช้สิทธิวันลาหยุดพักผ่อน ปรับเป็นปีละ 10 วัน, ฉบับที่ 7 มาตรา 41 ในเรื่องสิทธิการลาคลอดบุตรเพิ่มเป็น 180 วัน โดย 90 วันเเรกเป็นของเเม่ เเละ 90 วันหลังเป็นของพ่อหรือเเม่ให้ตกลงกันเองในการเลี้ยงดูบุตร, ฉบับที่ 8 มาตรา 53 เรื่องของการทำงานล่วงเวลาควรต้องเป็นอัตราที่เท่าเทียมกัน, ฉบับที่ 9 มาตรา 57 ให้มีการปรับค่าจ้างประจำปีให้ล้อกับค่าครองชีพ, ฉบับที่ 10 มาตรา 23/1 เน้นในเรื่องของการจ้างงานในสถานประกอบการ ต้องมีการจ้างงานเป็นรายเดือนทั้งหมด

ด้านเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร  กล่าวว่า มารับเรื่องเเทน ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้เเทนราษฎร ที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนี้ โดยจะนำไปเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร เเละเข้าสู่กระบวนการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในการตรวจสอบข้อกฎหมายเพื่อบรรจุเป็นวาระต่อไป รวมไปถึงขอเป็นกำลังใจให้เเก่สมาชิกทุกท่านที่ร่วมกันเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน

จ่อยื่น กมธ.ป.ป.ช. ฟันรัฐบาล พ่วงฟ้องเเพ่งคลาสแอคชั่น ‘ประยุทธ์- จุรินทร์- เฉลิมชัย’ กรณีจงใจปกปิดการระบาด ASF ทำ หมูแพง-ฟาร์มเจ๊ง ระนาว

วันเดียวกัน (18 ก.พ.65) ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในประเด็นการปกปิดข้อมูลของภาครัฐเกี่ยวกับการเเพร่ระบาดของโรคอหิวาแอฟริกาในสุกร (ASF) จนส่งผลกระทบอย่างมหาศาล 

ปดิพัทธ์ กล่าวว่า จากที่ตนอภิปรายเมื่อวาน (17 ก.พ. 65) และที่ทางส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านหลายท่านได้นำเสนอหลักฐาน ได้มีการชี้เเจงจากรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังคงไม่ยอมรับเหมือนเดิมและยืนยันว่ารัฐบาลมีแนวทางในการป้องกันการระบาดของ ASF อย่างดีที่สุด ด้านทางอธิบดีกรมปศุสัตว์ ระบุว่า ไม่มีการเเพร่ระบาดของ ASF ส่วน ประภัสร์ โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ออกมาชี้เเจงว่า กรณีเนื้อหมูแพงเป็นกลไกราคาทางตลาด ไม่เกี่ยวข้องกับการระบาดของ ASF

“ในเมื่อไม่มีการยอมรับผิด ไม่มีเเม้เเต่คำขอโทษ สิ่งที่พรรคก้าวไกลจะดำเนินการต่อไปหลังนี้ ประเด็นเเรก ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามตำแหน่ง หน้าที่ในการประกาศการอุบัติของ ASF ในประเทศไทยเพื่อลดความเสียหายที่จะต้องเกิดขึ้นต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร แต่ละเว้น ไม่ปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่ประกาศการอุบัติของ ASF ในประเทศไทย ซึ่งเป็นการโดยมิชอบจนเกิดความเสียหายแก่พี่น้องประชาชนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในประเทศ ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ต้องได้รับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157”

ประเด็นที่สอง รัฐมนตรีซึ่งเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ มีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามตำแหน่งหน้าที่ในการสั่งการให้ข้าราชการในสังกัดของตน ประกาศการอุบัติของ ASF ในประเทศไทยเพื่อลดความเสียหายที่จะต้องเกิดขึ้นต่อผู้เลี้ยงสุกรและเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรแต่ละเว้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ โดยไม่สั่งการให้ข้าราชการในสังกัดของตนประกาศการอุบัติของโรค ASF เป็นการโดยมิชอบจนเกิดความเสียหายแก่พี่น้องประชาชนเกษตรกรเลี้ยงสุกรในประเทศ จะต้องได้รับโทษตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172

ประเด็นที่สาม หากปรากฏว่ามีรัฐมนตรีหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่คนใดรับเงินหรือประโยชน์อื่นใดจากการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา  173 174 และ 175

“พรรคก้าวไกลจะยื่นเรื่องนี่ต่อ กมธ.ป.ป.ช. เพราะยังมีหลายประเด็นที่น่าสงสัย เพื่อนำหลักฐานมาตรวจสอบ เชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้เเจง ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ทางฝ่ายกฎหมายของพรรคก้าวไกล เเละทาง กมธ.ป.ป.ช. จะมาชี้เเจงความคืบหน้าเป็นระยะต่อไป” ปดิพัทธ์ กล่าว พร้อมระบุว่า ความเสียหายที่พี่น้องประชาชนได้รับมากกว่าแค่การชดเชย 75% เเต่มันคือชีวิตของพวกเขาด้วย ดังนั้น พรรคก้าวไกล ขอประกาศพร้อมเป็นตัวกลางให้พี่น้องประชาชนนำความเดือดร้อนมาร้องเรียนเพื่อนำไปสู่การฟ้องทางเเพ่งแบบหมู่ ( class action) เพื่อให้ประชาชนสามารถรวมกลุ่มกันฟ้องได้ 

“ในการดำเนินการครั้งนี้ พรรคก้าวไกลตั้งเป้าดำเนินคดีไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี เเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรเเละสหกรณ์ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร เเละนายจุรินทร์ ยังไม่เคยมีความเห็นต่อการระบาด ASF เลย ทั้งที่มีชื่ออยู่ในคณะกรรมการวิชาการป้องกันควบคุมโรค ASF ส่วนจะเรียกร้องความเสียหายแค่ไหน จะขอไปสรุปในทุกมิติก่อน เนื่องจากมหาศาลมาก แต่ยืนยันว่าเราจะเดินหน้าในการดำเนินคดีเเน่นอน” ปดิพัทธ์ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net