Skip to main content
sharethis

ผลเลือกตั้งซ่อมหลักสี่มีนัยทางการเมืองหลากหลาย นอกจากชัยชนะของพรรคเพื่อไทย เรายังได้เห็นความพ่ายแพ้สุดเยินของพรรคพลังประชารัฐ เห็นคะแนนไหลกลับไปหาอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ในนามพรรคกล้า เห็นการปักหลักทางอุดมการณ์ของพรรคก้าวไกล และพรรคไทยภักดี ที่บางคนเรียกว่า “ซ้ายจัด” Vs “ขวาจัด”

พูดอีกนัยหนึ่ง ผลเลือกตั้ง กทม. สะท้อนทัศนคติคนชั้นกลางในเมือง แม้ยังมี “คะแนนจัดตั้ง” อยู่บ้าง จากการขยันลงพื้นที่ชุมชนของตัวผู้สมัคร แต่ฐานเสียงหลักมาจากกระแสนิยมต่อพรรค จากบทบาทในสภา หรือการแสดงความคิดเห็นออกสื่อ

เพราะสังคมเมืองต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องพึ่งพากัน มีความได้เปรียบของคนชั้นกลาง ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่ง ส.ส.วิ่งขอโครงการแหล่งน้ำคมนาคมช่วยเหลือการทำมาหากิน ไม่ต้องการให้ ส.ส.มางานบวชงานศพ (คิวทอดผ้ายาวอยู่แล้ว) การเลือกตั้งของคนชั้นกลางจึงมีทั้งด้าน “อุดมคติ” และด้านที่ลอยจากความเป็นจริงในสังคมชนบท จนมีแนวโน้มรังเกียจนักการเมืองจากชนบท ตามทฤษฎีสองนครา

คนชั้นกลางในเมืองเลือกนักการเมืองจากภาพลักษณ์ ตั้งแต่อดีตที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ (ไม่เลือกเราเขามาแน่) หรือเลือกพรรคฝาเข่ง ขณะที่อุดมการณ์หลักก็เป็นอนุรักษนิยม ชื่นชมคนดีมีศีลธรรมที่ไม่มาจากเลือกตั้งแบบป๋าเปรม-อานันท์ เห็นการเมืองเป็นเรื่องสกปรก เมื่อเกิดม็อบพันธมิตรนกหวีด จึงใส่เสื้อเหลือง จึงเป่าปี๊ดๆ ขัดขวางเลือกตั้งจนเกิดรัฐประหารเสียของซ้ำซาก

แม้มีคนชั้นกลางฟากประชาธิปไตย ไม่เอารัฐประหาร ก็เป็นเสียงข้างน้อย ถูกกลไกคนชั้นกลางในยุคนั้น เช่น สื่อ นักวิชาการ ให้ร้ายว่าทักษิณซื้อไปแล้ว

จนกระทั่งเลือกตั้ง 62 หลังรัฐประหารยาว 5 ปี จึงเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ อันดับแรกคือการเกิดพรรคอนาคตใหม่ “ธนาธรฟีเวอร์” ซึ่งแม้คะแนนส่วนหนึ่งมาจากไทยรักษาชาติถูกยุบ แต่ก็ชนะพรรคเพื่อไทยหลายจุดในเขตเมือง ขณะที่อีกหลายเขตก็เป็นที่ 2 ที่ 3 ทำให้ “ทะเลาะกันเอง” ในภายหลังว่า “ตัดคะแนน” จนเพื่อไทยแพ้

แต่เหตุการณ์หลายอย่างที่ตามมาภายหลัง เช่นการยุบพรรคแล้วคนรุ่นใหม่ลุกฮือ ทำให้เห็นว่าคะแนนอนาคตใหม่ไม่ใช่ “ตัดเค้ก” มาจากเพื่อไทยโดยตรง อาจมีส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เป็นคนเคยเลือกเพื่อไทย ที่เหลือเป็นคนรุ่นใหม่ เป็นคนชั้นกลางในเมืองที่ FC เพื่อไทยอาจเรียกว่า “สลิ่มกลับใจ” ไม่ไหวแล้วรัฐประหาร ไม่เอาการสืบทอดอำนาจ

จากอนาคตใหม่เป็นก้าวไกล พรรคที่เสนอแก้ไข 112 แก้รัฐธรรมนูญหมวด 1 หมวด 2 และสร้างประวัติศาสตร์ อภิปรายงบสถาบัน “ตั๋วช้าง” ถูกรุมกระหน่ำจากสื่อ IO กลไกรัฐ คะแนนเลือกซ่อมภาคใต้หายเกินครึ่ง

พรรคก้าวไกลจึงแถลงข่าวราวได้ชัยชนะ เมื่อได้ที่สอง 20,361 คะแนน ยินดีไปกับสุรชาติ เทียนทอง โดยไม่ขัดข้องหมองใจ เพราะนี่คือการพิสูจน์ว่าสามารถปักหลัก ปักพลังทางอุดมการณ์ นับจากนี้มีแต่จะเติบโต เป็นที่อกสั่นขวัญแขวนของพลังอนุรักษนิยม

ก้าวไกลสถาปนาตนเป็นพรรคของคนชั้นกลางฝ่ายประชาธิปไตย ทั้งจากแนวคิด ท่วงทำนอง การนำเสนอประเด็น การอภิปรายในสภา วิธีหาเสียง ซึ่งพิสูจน์ผ่านเงินบริจาคภาษี อันดับหนึ่งสองปีซ้อน

พูดอย่างนี้ FC เพื่อไทยอาจโกรธ นี่ไม่ได้หมายความว่าคนชั้นกลางไม่หนุนเพื่อไทย แต่เพื่อไทยเป็นพรรค Mass ที่คนเลือกหลากหลายกว่า

ปรากฏการณ์ที่สองที่เกิดขึ้นในเลือกตั้ง 62 คือคนชั้นกลางเก่าพันธมิตรนกหวีดพลิกชั่วข้ามคืน เทคะแนนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ไปให้พรรคพลังประชารัฐ ด้วยความโกรธและกลัว เมื่อเห็นภาพทักษิณจากฮ่องกง ฉีดไบก้อนฆ่าแมลงสาบตายเกลื่อน เพราะเชื่อว่าประยุทธ์เท่านั้นป้องกันภัยทักษิณได้ แต่อภิสิทธิ์ดันไม่เอาประยุทธ์ เคยสนับสนุนประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลก็อ่อนแอ ดีแต่พูด แพ้ยิ่งลักษณ์ถล่มทลาย

คนชั้นกลางเก่ากระทืบจิตวิญญาณ “ม็อบมือถือ” ไล่ รสช.สืบทอดอำนาจ เคยเรียกพรรคสามัคคีธรรมเป็นพรรคมาร กลับหนุนการดูดกวาดนักการเมืองที่พวกตัวเคยยี้ ทั้งหมดนี้เพื่อความเกลียดชัง

แต่ 3 ปีผ่านไป ก็เหลืออดเสียเอง ทั้งความล้มเหลวของรัฐบาล ทั้งความแตกแยกตกต่ำของพรรคพลังประชารัฐ “มาดามหลี” จึงแพ้ย่อยยับ อย่างไม่มีใครคาดคิด ว่าจะเหลือแค่แปดพัน

สันนิษฐานได้ว่า คะแนนส่วนหนึ่งไหลกลับไปพรรคกล้า ซึ่งก่อตั้งจากคนประชาธิปัตย์ คะแนนส่วนหนึ่งเตลิดไปกับหมอเหรียญทอง ขณะที่อีกส่วนก็เบื่อจนไม่มาใช้สิทธิ หรือกาไม่เลือกใคร

เลือกตั้งซ่อมหลักสี่ จึงประกาศนัยทางการเมืองหลายด้านพร้อมกัน นอกจากชัยชนะของพรรคเพื่อไทยที่แสดงความพร้อมตอบสนองความต้องการของคนหลากหลาย สร้างความหวัง “แลนด์สไลด์” บนความย่อยยับของพรรคพลังประชารัฐ ที่สมัยหน้าจะไม่สามารถเสนอชื่อประยุทธ์อีก

มันยังสะท้อนว่าทัศนะคนชั้นกลางในเมืองแตกเป็น 3 เฉด เฉดหนึ่งปักแนวคิดแหลมคมแบบก้าวไกล เฉดหนึ่งหวนหาจริตแบบประชาธิปัตย์ อีกเฉดสุดจัดถึงขั้นจะจับสามกีบปล่อยเกาะ

ซึ่งต้องบอกว่าหมอวรงค์ประสบความสำเร็จ ยิ่งกว่าพรรคกำนัน เพราะการเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ปลุกปฏิกิริยาตอบโต้จากฝั่งอนุรักษ์สุดโต่ง

แต่นับถอยหลังตามวันวัย อนาคตจบที่รุ่นใคร ก็รู้แก่ใจ

 

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์ www.khaosod.co.th/politics/hot-topics/news_6870309

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net