วันที่อยู่อาศัยโลก ภาคประชาชนเสนอมาตราการเฉพาะหน้ารับผลกระทบโควิด เสนอรัฐจัดหาที่อยู่อาศัยรองรับชั่วคราวระยะสั้น 3-6 เดือน ในเมือง ใกล้แหล่งประกอบอาชีพ โดยลดเงื่อนไขข้อจำกัดในการเข้าพัก จัดให้มีหน่วยงานมาส่งเสริม และพัฒนาอาชีพสำหรับคนตกงาน รวมทั้งต้องผ่อนปรน และลดเงื่อนไขในการเข้าถึงเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ส่วนมาตรการระยะยาวเสนอผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดลง รวมทั้งพัฒนานโยบายการจัดที่พักอาศัยสำหรับเช่าราคาถูกในเมือง ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มคนจนเมือง
4 ต.ค. 2564 วานนี้ (3 ต.ค. 64) เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลก (World Habitat Day) ประจำปี 2564 มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย สมาคมคนไร้บ้าน กลุ่มเพื่อนคนไร้บ้าน และเครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้ร่วมกันแถลงการณ์เกี่ยวกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ต่อคนไร้บ้านและผู้เช่าในห้องเช่าราคาถูก ซึ่งถือเป็นกลุ่มเปราะบาง ทั้งอาชีพและความมั่นคงด้านที่อยู่อาศัย ทำให้คนกลุ่มนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19
โดยทางมูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย สมาคมคนไร้บ้าน กลุ่มเพื่อนคนไร้บ้าน และเครือข่ายสลัม 4 ภาค ได้เสนอให้รัฐบาลมีแนวทางในการช่วยเหลือคนไร้บ้านและผู้เช่าในห้องเช่าราคาถูก ดังนี้
มาตราการเฉพาะหน้า
- กรณีผู้ที่ต้องออกจากห้องเช่า จากผลกระทบของภาวะวิกฤตโควิด ต้องจัดหาที่อยู่อาศัยรองรับชั่วคราวระยะสั้น 3-6 เดือน ในเมือง ใกล้แหล่งประกอบอาชีพ โดยลดเงื่อนไขข้อจำกัดในการเข้าพัก เพื่อให้สอดคล้องกับความเดือดร้อน และวิถีชีวิตในการประกอบอาชีพ
- จัดให้มีหน่วยงานมาส่งเสริม และพัฒนาอาชีพสำหรับคนตกงาน ทั้งผู้ที่หลุดออกมาจากห้องเช่า และผู้ที่ยังอยู่ในห้องเช่า แต่อยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก
- ให้มีจุดประสานงานประจำ ในพื้นที่ที่ให้ผู้เดือนดร้อนสามารถประสานขอความช่วยเหลือได้โดยสะดวก เช่น การหาที่พักอาศัย อาชีพ สิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอื่น ๆ อุปกรณ์ป้องกันโควิด การตรวจ การรักษาพยาบาล และการเข้าถึงการฉีดวัคซีน เป็นต้น
- ต้องผ่อนปรน และลดเงื่อนไขในการเข้าถึงเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้ผู้เดือดร้อนสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้ทันที
มาตรการระยะยาว
- ต้องผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดลง และมีมาตรการกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน และฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากให้ผู้คนอยู่ร่วมกับโควิดได้
- หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับชาติ และระดับท้องถิ่น ต้องพัฒนานโยบายการจัดที่พักอาศัยสำหรับเช่าราคาถูกในเมือง ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มคนจนเมือง ที่เป็นแรงงานผู้เกื้อหนุนหล่อเลี้ยงคนเมือง ให้มีโอกาสเข้าถึงสวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยราคาถูกจากรัฐ
โดยรายละเอียดมีดังนี้
แถลงผลสำรวจ และข้อเสนอต่อการแก้ปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มผู้เช่าห้องราคาถูก ในภาวะวิกฤตโควิด - 19
สถานการณ์วิกฤตโควิด - 19 ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปในทุกกลุ่ม หลายอาชีพต้องปิดกิจการ หลายคนต้องตกงาน หรือแม้จะประกอบอาชีพเดิมได้ แต่รายได้ก็ลดลงมาก การดำรงชีวิตที่ไม่ปกตินี้ ทำให้หลายครอบครัวต้องอยู่ในภาวะที่ยากลำบาก บางครอบครัวต้องล่มสลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนเปราะบางที่ไม่มีความมั่นคงในด้านอาชีพ ไม่มีความมั่นคงในด้านที่อยู่อาศัย
มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย สมาคมคนไร้บ้าน กลุ่มเพื่อนคนไร้บ้าน เครือข่ายสลัม 4 ภาค และทีมอาสาสมัครคนไร้บ้าน ได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือกลุ่มคนไร้บ้านที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตโควิด 19 และผลักดันให้เกิดจุดประสานงานเชิงรุกในพื้นที่สาธารณะ โดยมีการให้บริการช่วยเหลือในปัจจัย 4 การให้ความรู้ในเรื่องการรับมือกับภาวะโรคระบาด การสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันโรค และการผลักดันให้คนไร้บ้านได้รับการตรวจเชิงรุกรวมไปถึงการเข้าถึงวัคซีนอย่างทั่วถึง จากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลในจุดประสานงานย่อย พบว่านอกจากคนไร้บ้านที่อาศัยอยู่ในที่สาธารณะจะได้รับผลกระทบ แล้ว ยังมีประชาชนกลุ่มเปราะบางอื่นๆ ทั้งคนไร้บ้านหน้าใหม่ในพื้นที่สาธารณะ ผู้ที่อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด ประชาชนทั่วไป และยังพบว่ามีกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในห้องเช่า และบ้านเช่าราคาถูก ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มประชากรแฝงในพื้นที่ ที่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐ จนทำให้บางส่วนต้องหลุดออกมาจากห้องเช่าและมาอาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะ
จึงร่วมกันสำรวจกลุ่มผู้ที่หลุดจากห้องเช่า และกลุ่มผู้ที่ยังอยู่ในห้องเช่าราคาถูก ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 ในเขตเมือง จำนวน 9 จังหวัด คือ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี เชียงใหม่ ขอนแก่น กาญจนบุรี ชลบุรี จันทบุรี นนทบุรี และระยอง 216 กรณีตัวอย่าง พบว่าคนส่วนใหญ่ที่พักอาศัยในห้องเช่า หรือบ้านเช่าราคาถูก เป็นคนจากต่างจังหวัด ต่างอำเภอ ถึงร้อยละ 46 ลักษณะการพักอาศัยร้อยละ 66 เป็นลักษณะครอบครัว ขนาดของห้องเช่าส่วนใหญ่ขนาด 3.5 x 4 เมตร ก่อสร้างด้วยปูน ไม่มีการตบแต่ง หรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ราคาค่าเช่าห้อง อยู่ระหว่าง 1,000 – 2,000 บาทต่อเดือน และระยะทางจากที่พักอาศัย ถึงสถานที่ทำงาน อยู่ในระยะ 1- 5 กิโลเมตร มากถึงร้อยละ 79 และส่วนใหญ่ร้อยละ 43 ระบุว่า ไม่มีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จึงประเมินได้ว่า ผู้เช่าห้องส่วนใหญ่ต้องการเช่าห้องในเมือง ใกล้แหล่งงาน ถึงแม้สภาพห้องเช่าจะไม่กว้างขวางสะดวกสบายก็ตาม
จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดตลอด 2 ปีที่ผ่านมา และมาตรการของรัฐในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดส่งผลกระทบต่อผู้เช่าห้องอย่างชัดเจน จากการสำรวจระบุว่าร้อยละ 64 ประสบปัญหารายได้ลดลง จากการจ้างงานที่ลดลง และร้อยละ 10 ต้องตกงาน จึงส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้เช่าห้อง ซึ่งเห็นได้จากผลสำรวจที่ระบุว่า ผู้เช่าห้อง ไม่สามารถจ่ายค่าห้องเช่าได้อย่างปกติมากกว่าร้อยละ 60 และต้องออกมารับอาหาร หรือของบริจาคอื่น ๆ จากเอกชน และจากจุดประสานงานย่อยในที่สาธารณะ เพื่อแบ่งบาภาระค่าใช้จ่าย และมากไปกว่านั้น พบว่าผู้เช่าห้องร้อยละ 15 ต้องออกห้องเช่ามาใช้ชีวิตในที่สาธารณะ เป็นคนไร้บ้านหน้าใหม่ ซึ่งถ้าไม่มีนโยบาย หรือมาตรการในการช่วยเหลือสนับสนุน คนกลุ่มนี้อาจต้องกลายเป็นคนไร้บ้านถาวร หรือแม้แต่ผู้ที่ยังสามารถอยู่ในห้องเช่าได้ ข้อมูลจากการสำรวจ ก็ชี้ชัดว่าพวกเขาอยู่ในสภาวะที่เสี่ยงต่อการหลุดออกมาจากห้องเช่าได้ตลอดเวลา
เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกประจำปี 2564 มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย สมาคมคนไร้บ้าน กลุ่มเพื่อนคนไร้บ้าน และเครือข่ายสลัม 4 ภาค ซึ่งเป็นองค์กรภาคประชาชาชนที่ทำงานกับกลุ่มเปราะบางต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง จึงมีข้อเรียกร้องไปยังรัฐบาลเพื่อให้มีมาตรการในการสนับสนุน ช่วยเหลือ กลุ่มผู้เช่าห้องเช่าราคาถูก เพื่อให้เข้าถึงสิทธิพื้นฐาน มาตรการความปลอดภัยจากโรคระบาดโควิด-19 และการสนับสนุนด้านอื่น ๆ เพื่อให้ดำรงชีวิตในสถานการณ์วิกฤตได้ โดยมีข้อเสนอดังนี้
มาตราการเฉพาะหน้า
- กรณีผู้ที่ต้องออกจากห้องเช่า จากผลกระทบของภาวะวิกฤตโควิด ต้องจัดหาที่อยู่อาศัยรองรับชั่วคราวระยะสั้น 3-6 เดือน ในเมือง ใกล้แหล่งประกอบอาชีพ โดยลดเงื่อนไขข้อจำกัดในการเข้าพัก เพื่อให้สอดคล้องกับความเดือดร้อน และวิถีชีวิตในการประกอบอาชีพ
- จัดให้มีหน่วยงานมาส่งเสริม และพัฒนาอาชีพสำหรับคนตกงาน ทั้งผู้ที่หลุดออกมาจากห้องเช่า และผู้ที่ยังอยู่ในห้องเช่า แต่อยู่ในสภาวะที่ยากลำบาก
- ให้มีจุดประสานงานประจำ ในพื้นที่ที่ให้ผู้เดือนดร้อนสามารถประสานขอความช่วยเหลือได้โดยสะดวก เช่น การหาที่พักอาศัย อาชีพ สิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอื่น ๆ อุปกรณ์ป้องกันโควิด การตรวจ การรักษาพยาบาล และการเข้าถึงการฉีดวัคซีน เป็นต้น
- ต้องผ่อนปรน และลดเงื่อนไขในการเข้าถึงเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้ผู้เดือดร้อนสามารถเข้าถึงการช่วยเหลือได้ทันที
มาตรการระยะยาว
- ต้องผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดลง และมีมาตรการกระตุ้นให้เกิดการจ้างงาน และฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากให้ผู้คนอยู่ร่วมกับโควิดได้
- หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับชาติ และระดับท้องถิ่น ต้องพัฒนานโยบายการจัดที่พักอาศัยสำหรับเช่าราคาถูกในเมือง ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของกลุ่มคนจนเมือง ที่เป็นแรงงานผู้เกื้อหนุนหล่อเลี้ยงคนเมือง ให้มีโอกาสเข้าถึงสวัสดิการด้านที่อยู่อาศัยราคาถูกจากรัฐ
เชื่อมั่นในพลังประชาชน
เครือข่ายสลัม 4 ภาค
สมาคมคนไร้บ้าน
มูลนิธิพัฒนาที่อยู่อาศัย
กลุ่มเพื่อนคนไร้บ้าน
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)