Skip to main content
sharethis

กรมคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงฯ เรียกแอดมินเพจเฟซบุ๊ก 'วาดหวังหนังสือ' ซึ่งมีการเสนอขายหนังสือนิทานวาดหวัง เข้าชี้แจงในวันที่ 12 ต.ค.นี้ หลังมีผู้ร้องเรียนอาจผิด พ.ร.บ.ขายตรงฯ ด้านผู้ริเริ่มโครงการนิทานอยากให้ภาครัฐอ่านก่อนตัดสิน เกรงลิดรอนเสรีภาพการอ่านของเด็ก-เยาวชน 

ภาพหนังสือเรียกเจ้าของเฟซ 'วาดหวังหนังสือ' ชี้แจง ของกรมคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงฯ สคบ.
 

สืบเนื่องจากวันนี้ (30 ก.ย. 64) กลุ่มเฟซบุ๊กสาธารณะ 'หนังสือวาดหวัง' ซึ่งเป็นเพจขายหนังสือนิทานวาดหวัง โพสต์ภาพ เอกสารจากคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ระบุว่า เนื่องด้วยได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคขอให้ตรวจสอบเพจ Facebook ชื่อ ‘วาดหวังหนังสือ’ ซึ่งมีการเสนอขายหนังสือนิทานวาดหวัง และรายการอื่นๆ ผ่านสื่อออนไลน์ว่าเป็นการประกอบธุรกิจฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 หรือไม่ 

จึงขอเรียนเชิญไปพบเจ้าหน้าที่โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ และนำส่งตัวอย่างหนังสือที่จำหน่ายดังกล่าว ภายในวันที่ 12 ต.ค. 2564 เวลา 10.00 น. ณ กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ที่สำนักงาน สคบ. ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ อาคารรัฐประศาสนภักดี ชั้น 5 ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ 

หลังมีโพสต์ข้อความ และเผยแพร่ภาพดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงวิดีโอคอลสัมภาษณ์กับ ศรีสมร โซเฟร หรือหมอน เจ้าของนามปากกา ‘สองขา’ นักเขียนหนังสือนิทานเด็ก และเป็นผู้เริ่มต้นและทำงานเพื่อให้มีหนังสือนิทานวาดหวัง 8 เล่มนี้ ถึงรายละเอียดและความรู้สึกต่อกรณี สคบ.สั่งเรียกสอบแอดมินเพจเฟซบุ๊ก 'หนังสือวาดหวัง' ดังกล่าว 

เจ้าของนามปากกา “สองขา” เล่าให้ฟังเบื้องต้นว่า เธอเพิ่งเห็นเอกสารเรียกให้ไปชี้แจงวันนี้ (30 ก.ย.) ซึ่งก็มีความกังวล และตกใจ เพราะไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมันผิดตรงไหน และรู้สึกเหมือนถูกกดดัน

“ยังไม่เข้าใจว่ามันผิดตรงไหน เพราะเราอยากให้มีเสียงดีๆ มีความหลากหลายในการอ่าน พอหนังสือคลอดออกมา เราก็ส่งให้โรงพยาบาล สถานีอนามัย หน่วยด้านหน้าโควิด กลุ่มเส้นด้าย เครือข่ายสลัม 4 ภาค โรงเรียน ห้องสมุด และอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนและส่วนรวมเป็นล็อตแรกๆ เลย เราก็ส่งๆ กำไรเราก็มอบให้กลุ่มต่างๆ เลยไม่เข้าใจว่าผิดตรงไหน และนึกไม่ออกว่าทำไมรัฐต้องมากดดัน” เจ้าของนามปากกา “สองขา” กล่าว

ผู้ริเริ่มโครงการหนังสือนิทานวาดหวัง กล่าวกับเราต่อว่า เบื้องต้นยังไม่มีการสั่งห้ามขายหนังสือแต่อย่างใด มีแต่การเรียกให้ไปชี้แจง

ขณะที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 64 ‘กัลยา โสภณพนิช’ โฆษกประจำตัวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สั่งตั้งทีมเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบชุดนิทานวาดหวังทั้ง 8 เล่ม เนื่องจากมองว่า อาจมีเนื้อหาบิดเบือน และทำให้เด็กเข้าใจคลาดเคลื่อนได้ 

หมอน กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า เธอเข้าใจความห่วงใยของข้าราชการ และเธอเองก็เคยทำงานเป็นครู แต่ขอตั้งข้อกังขาว่านี่เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการหรือไม่ เพราะหนังสือที่เธอขายเป็นหนังสือนิทาน ไม่ใช่หนังสือแบบเรียนที่ทุกคนต้องอ่านเพื่อสอบ 

นอกจากนี้ อยากให้ทางภาครัฐลองเปิดใจอ่านดูก่อน และมาคุยกันว่ามันมีปัญหาตรงไหน หลักฐานตรงไหน ไม่อยากให้รีบด่วนตัดสินว่า ‘ล้างสมอง’ โดยที่ยังไม่เคยได้อ่านจริงๆ เกรงจะเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพการอ่านหนังสือของเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรมี และเด็กจะเป็นคนเลือกเอง

“เข้าใจความห่วงใยของข้าราชการ...แต่อยากให้เขาเปิดอ่านดู ถ้ามีเครื่องหมายคำถามตรงไหน คุยกัน อย่าเพิ่งบอกว่าล้างสมอง ยุยงปลุกปั่นทำให้เกิดความแตกแยก ได้อ่านรึยัง ได้เห็นรึยัง มันผิดตรงไหน ...ไปจำกัดสิทธิของเด็กหรือเปล่า ที่จะได้อ่านอะไรที่หลากหลาย ไม่เคารพวิจารณญาณพ่อ-แม่ในการเลือกหานิทานให้ลูกรึเปล่า” 

“หนังสือเป็นเรื่องที่สนุก หลากหลายอยากให้ได้อ่าน ไม่ใช่มีแต่เรื่องต้องเป็นเด็กดี กตัญญูรู้คุณ ก้มกราบตามมารยาทไทย แต่เราทำอยากให้มีความหลากหลาย อย่าบังคับอ่าน… มันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ถ้าหนังสือไม่น่าอ่าน เด็กก็ไม่หยิบขึ้นมาอ่าน หรืออ่านแล้ว ไม่สนุก ไม่ดี หรือไม่ชอบ เด็กก็วางเอง และเด็กยังเล็กไม่มีสตางค์หรือไม่มีวิธีที่จะมาซื้อหนังสือผ่านเพจเอง พ่อแม่ผู้ใหญ่เป็นคนซื้อให้ พ่อแม่สกรีนชั้นหนึ่งแล้ว ถ้าไม่ดีหรือเห็นว่าไม่เหมาะ ก็คงไม่หยิบยื่นให้ลูกหลานอ่านหรอก” ผู้ริเริ่มโครงการนิทานวาดหวัง กล่าว 

สุดท้าย เจ้าของนามปากกา ‘สองขา’ เชิญชวนให้ทุกคนมาช่วยกันอ่าน ‘ไม่ว่าจะดอกไม้ หรือก้อนหิน’ ยินดีรับไปปรับปรุง อยากได้คนอ่านหนังสือเยอะๆ ให้หนังสือกระจายออกไป และอยากให้พ่อแม่และเด็กเป็นคนตัดสิน อ่านแล้วรู้สึกยังไง แต่ว่าอย่าเพิ่งเอาอะไรมาเล่นงานในสิ่งที่ยังไม่ใช่ 

ผู้ริเริ่มโครงการนิทานวาดหวัง กล่าวต่อว่า เธออยากขอร้องคนในแวดวงหนังสือ สมาคมเกี่ยวกับคนทำหนังสือ ออกมาเรียกร้องและต่อสู้เพื่อสิทธิการอ่านของเด็กและเยาวชน ยิ่งถ้าถูกรัฐบีบ และถ้าคนทำหนังสือกลัวขึ้นมา เสรีภาพจะถูกบีบลงไปอีก สุดท้ายเหลือแต่หนังสือแค่เพียงหยิบมือให้อ่าน ไม่มีความหลากหลาย เด็กจะไม่รักการอ่าน

“อยากขอร้องคนในแวดวงหนังสือ สมาคมนักเขียน ผู้ผลิตหนังสือแห่งประเทศไทย คนทำหนังสือเด็ก รักการอ่าน มีโครงการเยอะมาก สสส. มาช่วยกันส่งเสียงเรื่องนี้ไม่ใช่ว่ากลัวจะโดนจับ แต่ที่กลัวมากกว่าคือสิทธิในการอ่านของเด็กจะไปไหน จะถูกบีบไปถึงแค่ไหน และถ้าคนทำหนังสือไม่กล้าทำมันจะถูกบีบให้แคบลงไปอีก สุดท้าย เหลือหนังสือให้อ่านเท่านี้ เด็กมันจะรักการอ่านเหรอ” ผู้ริเริ่มหนังสือนิทานวาดหวัง ทิ้งท้าย

 

ซีรีส์นิทานวาดหวัง จำนวน 8 เล่ม (ที่มา ศรัญญู เทพสงเคราะห์)

ทั้งนี้ ‘นิทานวาดหวัง - ใฝ่ฝันถึงสิทธิ เสรีภาพ และอนาคตที่ดีกว่าของสังคมไทย’ เป็นนิทานที่บอกเล่าเนื้อหาทั้งในประเด็นเชิงสังคม ประวัติศาสตร์ สิทธิมนุษยชน และเสรีภาพ นำเสนอผ่านตัวการ์ตูนเข้าใจง่าย เหมาะตั้งแต่เด็กจนถึงผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 5-112 ปี

ซีรีส์ชุดนิทานวาดหวังมีทั้งหมด 8 เล่ม ประกอบด้วย เสียงร้องของผองนก เด็กๆ มีความฝัน จ จิตร แม่หมิมไปไหน? เป็ดน้อย สิบราษฎร แค็ก! แค็ก! มังกรไฟ และ ตัวไหน ไม่มีหัว “สองขา” ผู้ริเริ่มโครงการบอกว่าพิมพ์ออกมาจำหน่ายทั้งสิ้น 2,500 ชุดจากทั้งหมด 3,000 ชุด และรายได้ที่ได้จะนำไปบริจาคตามที่ต่างๆ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net