Skip to main content
sharethis

ประมวลสถานการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ #ม็อบ2กันยา D-Day กินข้าวเย็น-กด PopCat ไล่เผด็จการ แยกอโศกมนตรี ไฮไลท์อยู่ที่การปราศรัยชุดใหญ่วิจารณ์ประยุทธ์ และการกลับมาของณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ด้าน บก.ลายจุด เผยจะมีเวทีชุมนุมที่แยกอโศกต่อเนื่องจนกว่าประยุทธ์จะลงจากตำแหน่ง   

 

2 ก.ย. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (2 ก.ย.) เมื่อเวลา 18.12 น. ประชาชนรวมตัวที่แยกอโศกมนตรี สถานที่จัดการชุมนุม 'D-Day' กินข้าวเย็นไล่เผด็จการ นัดรวมตัวโดย สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ การจัดกิจกรรม 'D-Day' กินข้าวเย็นไล่เผด็จการ เกิดขึ้นวันเดียวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรีรายบุคคลที่รัฐสภา แยกเกียกกาย 

บก.ลายจุด ชวนกด PopCat ไม่เอาประยุทธ์

สมบัติ บุญงามอนงค์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บริเวณแยกอโศก สถานที่จัดการชุมนุม ม็อบ2กันยา D-Day กินข้าวเย็นไล่เผด็จการ ระบุว่าวันนี้การชุมนุมจะเป็นรูปแบบตลาดนัดการเมือง หรือ Mobfest แต่ละกลุ่มจะใช้ความชำนาญ ความสนใจของตัวเอง มาสร้างสรรค์กิจกรรมตลาดนัดการเมืองที่อโศก

สมบัติ บุญงามอนงค์

สำหรับกำหนดการทำกิจกรรมวันนี้ได้ผู้จัดมือดี คือ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาจัดการโปรแกรมปราศรัย โดยจะมีผู้ปราศรัยทั้งสิ้น 10 คน 

ส่วนของสมบัติ ระบุว่า ตนมีหน้าที่จัดกิจกรรมแจกคิมบับ หรือข้าวปั้นห่อส่าหร่ายแบบเกาหลี ให้ผู้ชุมนุมที่มาเล่น PopCat วันนี้ 

สมบัติ กล่าวถึงการเล่น PopCat ว่าตนจะมาชวนคนในพื้นที่ชุมนุม และคนที่อยู่ที่บ้าน มาร่วมกด PopCat กัน ซึ่งจุดประสงค์ของการเล่นนี้เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และสื่อสารไปยังชาวโลกว่า ประชาชนชาวไทยต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงผู้นำมากขนาดไหน โดยจะกดพร้อมกันจนกว่าจะขึ้นอันดับหนึ่งของโลก 

"ไฮไลท์วันนี้เราต้องการส่งสัญญาณ เรื่องใหญ่ก็คือว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น มีแนวโน้มที่พรรคร่วมรัฐบาลจะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ต่อไป นั่นเป็นเรื่องของฝ่ายการเมือง แต่ฝ่ายประชาชน เราจะยืนยัน ไม่เห็นด้วยที่พลเอก ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป" สมบัติ กล่าว

ฉะนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นที่อโศก เราจะเรียกว่าป้อมค่าย ซึ่งจะคู่ขนานไปกับสมรภูมิที่เดินแดง หมายความว่าหลังจากนี้ที่แยกอโศก จะมีการจัดกิจกรรมไล่พลเอก ประยุทธ์ ทุกวันตอนเย็น ทำให้เหมือนกับที่สามเหลี่ยมดินแดง แต่จะไม่ให้มีความรุนแรง ทำกิจกรรมลักษณะ Mobfest ต่อเนื่องกันไป 

สิ่งที่กระทรวงศึกษาควรทำคือการปลูกฝังประชาธิปไตย 

เวลา 17.00 น. ปูน ธนพัฒน์ กาเพ็ง นักกิจกรรมการเมืองคนรุ่นใหม่ ทีมทะลุฟ้า ขึ้นปราศรัยบนรถเครื่องเสียง ม็อบ2กันยา D-Day กินข้าวเย็นไล่เผด็จการ แยกอโศก

ปูน ธนพัฒน์ กาเพ็ง นักกิจกรรมการเมืองคนรุ่นใหม่ ทีมทะลุฟ้า

ปูน กล่าวถึงระบบการศึกษาไทยตอนนี้ว่า มีแต่วิชาเรียน หลักค่านิยม 12 ประการ วิชาหน้าที่พลเมือง และประวัติศาสตร์ที่มีแต่ทหารยึดอำนาจ แต่สิ่งตนต้องการคือการศึกษาที่ปลูกฝังรากฐานแนวคิดประชาธิปไตย ตระหนักในสิทธิเสรีภาพ และให้ทุกคนกล้าคิดกล้าทำกล้าแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา 

"ผมไม่ต้องการให้เด็กรุ่นใหม่อย่างผม โตขึ้นไปสอบนายร้อย จปร. และมาขับรถถังไปรัฐประหารเหมือนประยุทธ์ จันทร์โอชา เราไม่ต้องการเห็นอะไรแบบนี้ ผมอยากเห็นเด็กรุ่นใหม่ที่เคารพการเลือกตั้งกาบัตรในคูหาโดยมีรัฐธรรมนูญรับรอง ซึ่งเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน" ปูน กล่าว

ปูน กล่าวต่อว่า ต่างประเทศเขาจัดวัคซีนให้นักเรียน และนักศึกษา เพื่อให้กลับเข้าไปเรียนได้ แต่ประยุทธ์ ดีแต่แจกเงินเยียวยาเท่านั้น แต่นี่ก็เป็นหนี้ของพวกเราในอนาคตอีกที ดังนั้น สิ่งที่เราต้องการคือประชาธิปไตยสากล และวัคซีนที่ดีอีกด้วย  

ไม่เอาแล้วประชาธิปไตยเก่าๆ ที่ข้าราชการรับใช้นายกฯ กดหัวประชาชน อยากได้ประชาธิปไตยใหม่ๆ ตามหลักสากล 

นอกจากนี้ ปูน กล่าวด้วยว่า แม้ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่สามารถไล่ประยุทธ์ออกไปได้ แต่ตนจะเดินหน้าขับไล่พลเอกประยุทธ์ต่อไป

"ปล่อยให้ประเทศนี้ขับเคลื่อนโดยประชาชนคนรุ่นใหม่และคนรุ่นเก่าที่รักประชาธิปไตย เราจะนำพาชาติไทยกลับไปสู่ความเจริญงดงามอย่างที่เคยเป็น เราจะเดินหน้าขับไล่ประยุทธ์อย่างเข้มข้น โดยมีคนรุ่นใหม่ และคนเสื้อแดงรุ่นเก่าจับมือไปสู่ประชาธิปไตย เราจะไม่ถอยหลังแม้แต่ก้าวเดียว และเราจะสู้ๆ จนกว่าประเทศไทยจะได้ประชาธิปไตย ชัยชนะจะเป็นของประชาชนอย่างแน่นอน" นักกิจกรรมรุ่นใหม่ กล่าว

วิธีเดียวที่จะทำให้ความไม่เป็นธรรมจบลง คือยกเลิก 112

เวลา 17.25 น. ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ หรือเป๋า iLaw ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีแยกอโศก โดยเริ่มจากการกล่าวถึงนักกิจกรรมที่ถูกคุมขังอยู่ในขณะนี้ และติดโควิด-19 ในเรือนจำ ยิ่งชีพกล่าวว่าเพื่อนๆ นักกิจกรรมที่อยู่ในเรือนจำขณะนี้ บอกกับเขาว่ากิจกรรมเรียกร้องให้ #ปล่อยเพื่อนเรา นั้นเป็นการส่งเสียงให้ผู้มีอำนาจได้ยินก็จริง แต่เมื่อปล่อยออกมาก็นำกลับเข้าไปคุมขังใหม่ได้ ซึ่งหากจะแก้ ต้องแก้ไขที่ต้นตอสาเหตุ นั่นคือ กฎหมายอาญามาตรา 112

ยิ่งชีพ อัชฌานนท์ หรือเป๋า iLaw (ภาพจาก กันต์ แสงทอง)

วิธีเดียวที่จะทำให้เราไม่ต้องพูดคำว่าปล่อยเพื่อนเราแล้ว วิธีเดียวที่จะทำให้คดีความที่ไม่เป็นคดีความจบลงไป เราเปลี่ยนคำว่า ‘ปล่อยเพื่อนเรา’ แก้ปัญหาที่ต้นตอ ยกเลิก 112 ครับ” ยิ่งชีพกล่าว พร้อมระบุว่ากฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้และทำความเข้าใจประวัติศาสตร์การเมืองไทย เป็นมรดกของคณะรัฐประหาร โดยเฉพาะการรัฐประหารใน พ.ศ.2519 ที่แก้ไขกฎหมายนี้ให้มีโทษจำคุกสูง 3-15 ปีเทียบเท่าข้อหาการก่อกบฎหรือฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา ซึ่งข้อหาฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาเป็นข้อหาเดียวกับกรณีของอดีต #ผู้กำกับโจ้

ยิ่งชีพขอให้ประชาชนอย่าลืมการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค. 2563 อย่าลืม ส.ส. ที่มายกมือขอคะแนนเสียง อย่าลืมว่าพวกเขาเหล่านั้นหาเสียงอย่างไร บอกกับพี่น้องประชาชนว่าจะไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ใช่หรือไม่ ซึ่งหากนับเสียง ส.ส. ในสภา รวมเสียง ส.ส. งูเห่าและ ส.ส. พรรคร่วมรัฐบาลที่เคยบอกว่าจะไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ก็อาจยังพอมีความหวัง เพราะการยกมือโหวตไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ มีเพียงเสียง ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น จึงขอให้ประชาชนทุกคนจดจำบรรดา ส.ส.เหล่านี้ไว้ ก่อนลงจากเวที ยิ่งชีพได้ขอให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมในวันนี้ ตะโกน 1 คำให้แก่ ส.ส.งูเห่า และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยยิ่งชีพให้สัญญาณ นับ 1 2 3 ก่อนที่ประชาชนจะพร้อมใจกันตะโกนหลากหลายถ้อยคำ เพื่อส่งเสียงให้ดังไปถึงบุคคลเหล่านั้น

ประยุทธ์พาสถาบันกษัตริย์พัง

อรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ ขอนแก่น ผู้แทนพรรคก้าวล่วง ขึ้นปราศรัยบนรถเครื่องเสียง ม็อบ2กันยา D-Day กินข้าวเย็นไล่เผด็จการ ทั้งนี้ นี่เป็นการกลับมาจับไมค์ปราศรัยอีกครั้งของครูใหญ่ หลังห่างหายไปนานอีกด้วย 

อรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ขอนแก่น นักกิจกรรมถิ่นอีสาน (ที่มา ไลฟ์สด Friends Talk)
 

ครูใหญ่ เล่าถึงความรู้สึกหลังเห็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่รัฐสภาเมื่อ 31 ส.ค. 64 ของณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.ก้าวไกล ที่ออกมาเปิดโปงยุทธวิธีการปฏิบัติการข่าวสาร และช่วงหนึ่ง มีการฉายสไลด์เผยให้เห็นรายชื่อนักกิจกรรมและนักการเมืองที่รัฐบาลมีการส่งคนติดตาม โดยกล่าวหาว่าเป็น ภัยต่อความมั่นคง ซึ่งในนั้นมีภาพของ ครูใหญ่ ขอนแก่น รวมอยู่ด้วย 

ครูใหญ่ ฝากคำถามถึงรัฐบาลว่า 'ผมผิดอะไร ไก่ผมยังไม่กล้าเชือด และจะเป็นภัยความมั่นคงของใคร ถ้าไม่ใช่ความมั่นคงในใจมึง ผมสวดมนต์ทุกวัน ดังนั้น ผมจะทำอะไรผิด'

วันนี้ตนมาไล่คนที่สร้างหนี้ให้กับประเทศ ขอโทษครับ สมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ประชาชนมีหนี้ครัวเรือน นั่นหมายความว่าประชาชนมีเครดิตจึงสามารถกู้หนี้ได้ เป็นหนี้ที่มีปัญญาจ่าย ตอนนี้ประชาชนจนลงด้วยการบริหารงานของนายกประยุทธ์ ไม่มีเครดิตแม้แต่จะกู้ ต้องรอเงินเยียวยา

ประยุทธ์จะเข้ามาเพื่อปฏิรูปตำรวจ ปี 48-49 ท่านถูกกล่าวหาเป็นขี้ข้าทักษิณ แต่ปีนี้เป็นขี้ข้าเผด็จการ ตำรวจคือคนหน้าด่านที่เอามาปราบประชาชนเสมอ แต่ตนจะเป็นมิตรกับตำรวจ ผู้ประกอบอาชีพตำรวจไม่ใช่คนชั่วร้าย แต่องค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ทำงานภายใต้สำนักนายกฯ นำโดยประยุทธ์ ตะหากที่ชั่วร้าย ถ้าประยุทธ์ ตั้งใจปฏิรูปจริง คนอย่างผู้กำกับโจ้ คงไม่ได้ดิบได้ดี ถ้าปฏิรูปตำรวจจริง คงไม่เห็นโผโยกย้ายตำรวจที่ยึดโยงกับจิตอาสา 904 

ครูใหญ่ วิจารณ์ประยุทธ์ต่อว่า ไม่มีสมัยไหนที่รัฐบาลจะนำพาสถาบันกษัตริย์ตกต่ำเท่ากับยุคสมัยนี้ ไม่มียุคไหนที่รัฐบาลประชาธิปไตยโอนย้ายกองกำลังทหารไปให้สถาบันกษัตริย์ ไม่มีรัฐบาลไหนแล้ว ที่รัฐบาลจะออกกฎหมายโอนย้ายทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ไปเป็นทรัพย์สินส่วนพระองค์ ดังนั้นแล้ว ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูง ดึงฟ้าลงมาต่ำ เอาสถาบันมาหากิน ‘ผมจึงไม่สามารถให้ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป’

ณัฐวุฒิ : กูมาไล่มึงแล้ว

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขึ้นปราศรัยบนรถเครื่องเสียง ม็อบ2กันยา D-Day ไล่เผด็จการ เวลา 19.15 น. ระบุว่า ตนจะมาพูดเรื่องประยุทธ์ ซึ่งผมมีปัญหากับประยุทธ์คนเดียวเท่านั้น 

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. (ที่มาไลฟ์สด Voice TV)
 

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ระบุว่า การชุมนุมโดยสันติ เป็นสิทธิโดยชอบตามรัฐธรรมนูญ มีแต่ผมกับเด็กจับนักจับหนา เด็กชุมนุมกันมาจะจับแต่ทะลุแก๊ซ แต่ปล่อยพวกเที่ยวบาร์เป็นคลัสเตอร์ใหม่ เด็กๆ ชุมนุมกันมาจนวันนี้ไม่เห็นมีคลัสเตอร์ม็อบ โควิด-19 รอบสามคนใหญ่คนโตคนร่ำรวยเที่ยวผับกับสาว หน๊อยแนะ “จับแต่ทะลุแก๊ส ปล่อยทะลุกี” หมายถึงโลกีย์ 

วันนี้มีคนมาถามรัฐบาลมีรอยร้าว ประยุทธ์ กับธรรมนัส ซัดกันจะเชื่อใครดี ผมบอกว่าอย่าไปเชื่อใจ อย่าไปเชื่อพวกนั้น นั่นเป็นการสู้กันระหว่างเอดส์ กับมะเร็ง ใครชนะประเทศไทยก็ยังโคมาอยู่ดี เอางี้ ไม่ว่าความขัดแย้งจะนำมาสู่อะไร เราในฐานะประชาชนจะเอาความเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยเท่านั้น ไม่เอาอำนาจนอกระบบ ไม่เอาวิธีเหนือรัฐธรรมนูญ ถ้านายกฯ ลาออก ก็ต้องเอาแคนดิเดตจากนักการเมือง ถ้าไม่ได้ ก็ต้องเอานายกฯ คนนอก แต่นายกคนนอกของผม ต้องมาจาก ส.ส.ในสภาเท่านั้น สองอย่างนี้ถึงจะเป็นไปตามหลักการ ถ้าเราไม่เอา อำนาจนอกระบบจะกลับมา เข้ามาแทรกแซง เข้ามากำหนดเกม และเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เราต้องสู้กันหนักอีก 

ประเทศไทยสภาพตอนนี้ย่ำแย่ อธิบายในเชิงหลักการไม่ได้ ประชาชนจึงต้องออกมาช่วยกันอีกครั้ง ยืนร่วมกับพี่น้องอีกครั้ง ที่ออกมายืน ก็ขอให้รับทราบด้วยครับว่า จำนวนครั้ง X จำนวนคดี ตำรวจไม่ได้ขยันคลุมถุงดำเท่านั้น แต่ขยันดำเนินคดีอีกด้วย 

ประเทศสมัยประยุทธ์จันทร์โอชา ชิบหายทุกอย่าง ประกาศปฏิรูปตำรวจ อยู่มาเกือบ 8 ปี ทำอะไรได้บ้าง ตำรวจเมื่อก่อนปราบผู้ร้ายขนยาที่สามเหลี่ยมทองคำ เหลือแค่ปราบเด็กสามเหลี่ยมดินแดง ทำหยั่งกะเด็กเป็นโจร นี่ลูกหลานทั้งนั้น เกือบ 10 กว่าปีตอนนั้นสู้กับคนเสื้อแดง ตอนนี้สู้กับเด็ก 14-15 ปี แถมประยุทธ์จะอยู่จนเด็กสองขวบ เอาขวดนมมาตี คฝ.อีกตะหาก

"ไม่ได้สำนึกเลยว่า ชาติที่ไม่มีอนาคตให้มันเจ็บปวดขนาดไหน ไม่ได้สำนึก การครองและยึดอำนาจและสืบทอดอำนาจมันทำลายชีวิตคน ทำลายเกียรติศักดิ์ศรีมนุษย์แค่ไหน" ณัฐวุฒิ กล่าว  

ประยุทธ์คิดว่าตัวเองฉลาด จะปฏิรูปกองทัพ แต่นายประยุทธ์ได้ทำให้กองทัพ ไม่ใช่กองทัพของประชาชน แต่กองทัพเป็นศัตรูของประชาชน ประชาชนต้องการเตียง ต้องการวัคซีน ต้องการให้สร้างห้อง ICU แต่ประยุทธ์ สร้างได้แค่ห้อง IO 

ณัฐวุฒิ ซัดรัฐบาลถึงความล้มเหลวในการบริหารจัดการวิกฤตโควิด-19 ด้วยว่า ทุกคนมาที่นี่เพราะเจ็บปวด ไม่ต้องรอโควิด-19 หายไปและจะให้ประยุทธ์อยู่ต่อ ผมฟันธงโควิด-19 ไม่มีวันดีขึ้น ผิดพลาดตั้งแต่ต้น และผิดพลาดตลอด ไม่จัดหาวัคซีนคุณภาพ ไม่เข้าโครงการ COVAX หยิบจับการแก้ปัญหา พังไม่มีชิ้นดี ซื้อ ATK เจ๊ง วัคซีนเขาให้ เอาไปแจกบุคลากรทางการแพทย์ ยังเจ๊ง 

ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ถ้าประยุทธ์รอดจากอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ตนจะชวนประชาชนออกมาไล่จนกว่าจะออกไป 

คนรุ่นใหม่คือพลังบริสุทธิ์ที่ต้องหยัดยืนรักษา

ณัฐวุฒิ ขอพูดถึงคนรุ่นใหม่ที่ออกมาต่อสู้ทางการเมือง ยืนหยัดอย่างกล้าหาญ และถูกกระทำอย่างเจ็บปวดจนถึงวันนี้ การต่อสู้ของคนหนุ่มสาวในเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา พวกเขาถูกทำร้าย ถูกอธิบายความหมายว่าเป็นพลังอันตราย แต่ขอยืนยันว่าพวกเขาคือพลังบริสุทธิ์ุที่งดงาม เป็นพลังของประเทศที่ต้องรักษาไว้

 

เด็กไม่ได้ทำอะไรนอกจากออกมารวมตัวกันและประกาศว่าจะไม่มีใครมากดหัวเขาอีกต่อไป ถ้าเยาวชนทำผิดต้องให้โอกาส ไม่ใช่ต้องฟาดฟัน เอาเยาวชนไปขังไว้ มีแต่จะสร้างรอยแผลต่อประเทศ มีแต่ความเจ็บปวด 

ผู้มีอำนาจทั้งหลายกำลังตีโจทย์ผิด เข้าใจสถานการณ์พลาด ตั้งตัวเป็นศัตรูกับคนหนุ่มสาวที่เป็นประชาชนของประเทศ และคนหนุ่มสาวที่โตขึ้นมาเขาคิดไปในทางเดียวกัน ขังเพนกวินได้ แต่ก็จะมีนกตัวอื่นๆ ออกมาสู้อยู่ดี อำนาจไม่สามารถลบอนาคตได้ ตอนนี้บ้านเมืองอยู่ในสายลมแห่งความเปลี่ยนแปลง 

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลง ตนพยายามพูดตลอดคือสังคมนี้ต้องอยู่กันด้วยกฎเกณฑ์แห่งความแตกต่าง ไม่มีอำนาจใดสูญสลาย ถูกโค่นล้มหายไป ต้องอยู่ให้เป็นที่เป็นทางภายใต้กติกาที่ถูกต้อง

"ผู้มีอำนาจทั้งหลาย ใครคิดจะอุ้มประยุทธ์ อยู่ ใครคิดจะเอาประยุทธ์นั่งตักไว้คิดดูดีๆ ประยุทธ์เป็นศูนย์รวมความเกลียดชัง ...เป็นนายกฯ ที่กู้เงินสูงสุด เป็นนายกโกงอำนาจสูงสุด ที่ร่างรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจให้ตัวเอง แกงประชาชนตั้งแต่วันแรก เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน เกือบ 8 ปียังไม่นานอีกหรือไง เป็นนายกฯ ที่แสดงความกุ๊ยทะลุขีดจำกัดของกุ๊ยโดยทั่วไป" ณัฐวุฒิ กล่าว

ณัฐวุฒิ กล่าวว่า อำนาจต้องไม่อยู่บนหัวประชาชน แต่ต้องอยู่ในหัวใจประชาชนเท่านั้น และการจะอยู่ในหัวใจประชาชนไม่ใช่เข้าไปด้วยอำนาจกระบอกปืน ต้องเข้าไปด้วยความจริงใจ และความรักต่อประชาชน ประชาชนถืออำนาจสูงสุดของประเทศ และประยุทธ์ต้องออกไปเดี๋ยวนี้นี่คือคำสั่งของประชาชน เผด็จการจงพินาศนี่คือคำสั่งของประชาชน  

สิ่งเดียวที่สามารถทำเพื่อผู้เสียชีวิต ปี 53

สุดท้าย หลายคนถามว่า ณัฐวุฒิต้องใส่เสื้อสีแดงออกมาสู้หรือไม่ การใส่เสื้อสีแดงของเขา อาจทำให้พี่น้องคนอื่นๆ ที่ไม่เห็นด้วยกับการต่อสู้ของคนเสื้อแดงแสลงใจ แต่ณัฐวุฒิยืนยันว่าเขาจะใส่ เพื่อพี่น้องที่ร่วมต่อสู้กันมาในปี 53 และต้องเสียชีวิต นี่เป็นสิ่งที่ทำเพื่อเขาได้ พวกเขาถูกฆ่าตายในถนนกลางกรุง เอาผิดกับใครไม่ได้  

“สู้ด้วยกันเถอะ ผมไม่สู้ก็ได้ ให้ไปยืนตรงมุมก็ได้ ไม่ต้องเดินมาบนเวทีก็ได้ แต่ขออย่าให้ผมถอดเสื้อสีแดงได้ไหม ผมต้องใส่ให้พี่น้องที่ถูกฆ่าตาย นี่คือสิ่งเดียวที่จะทำให้พี่น้องได้ พี่น้องผมถูกยิงตายด้วยเสื้อสีนี้ ด้วยหัวใจและจิตวิญญาณที่เขาเป็นคนเสื้อแดง มีเหตุผลเดียวเท่านี้… เสื้อตัวนี้ห่มคลุมวิญญาณที่ถูกรัฐฆ่าตาย” ณัฐวุฒิ กล่าว 

สำหรับพรุ่งนี้ (3 ก.ย.) ณัฐวุฒิ แจ้งว่าจะไม่มีการชุมนุมที่แยกอโศก เนื่องจากจะให้ทางแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมจัดกิจกรรมทางการเมืองที่แยกราชประสงค์ และจะกลับมาอีกเมื่อไร ให้ติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดอีกที 

เวลา 19.54 น. วงสามัญชนขึ้นเล่นดนตรีสด ขับกล่อมบทเพลง เช่น ‘เราคือเพื่อนกัน’ (ปล่อยเพื่อนเรา) บทเพลงของสามัญชน ฯลฯ จากนั้น หลังจบเพลง บทเพลงของสามัญชน ณัฐวุฒิ ประกาศยุติกิจกรรม อวยพรให้ผู้ชุมนุมเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net