Skip to main content
sharethis

เครือข่ายครู-นักเรียน ล่ารายชื่อใน change.org ร้อง กมธ.การศึกษา ให้เรียก รมว.ศึกษา เข้าชี้แจงและดำเนินการแก้ไขความเดือดร้อนของครู นักเรียน ผู้ปกครอง ที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากนโยบายการเรียนออนไลน์ในช่วง COVID-19

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 2564 นายจิราวุฒิ จิตจักร ครูโรงเรียนบ้านโพรงมะเดื่อวิทยาคม จังหวัดนครปฐม ในฐานะตัวแทนเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากการเรียนออนไลน์ ซึ่งประกอบด้วยครู นักเรียน และผู้ปกครอง ที่ได้ร่วมกันเข้าชื่อในแคมเปญ #จัดอุปกรณ์พร้อมอินเทอร์เน็ตคุณภาพให้กับครูและนักเรียนไทย ผ่านเว็บไซต์ change.org รวม 4,855 คน ยื่นหนังสือร้องเรียนกับนายวันนิวัติ สมบูรณ์ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย กรรมาธิการการศึกษา สภาผู้แทนราษฎร และนางสาวอรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ที่ปรึกษากรรมาธิการการศึกษา เพื่อขอให้ กมธ.การศึกษา เรียกนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าชี้แจงและดำเนินการแก้ไขความเดือดร้อนของครู นักเรียน และผู้ปกครองที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากนโยบายการเรียนออนไลน์ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิค-19 ได้แก่

(1) ขาดแคลนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต มือถือ โดยเฉพาะกลุ่มครูบรรจุใหม่หรือครูอัตราจ้าง และกลุ่มผู้ปกครอง ที่บางรายมีรายได้น้อย ถูกตัดลดเงินเดือน และถูกเลิกจ้าง ทำให้ไม่สามารถจัดซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต มือถือ ให้บุตรหลานใช้ในการเรียนออนไลน์อย่างเหมาะสมได้ 

(2) ภาระค่าใช้จ่ายสัญณาณอินเทอร์เน็ตที่มีคุณภาพ 

(3) การติดตามประเมินผลเยี่ยมเยียนนักเรียนจากการเรียนออนไลน์ กลายนี้เป็นค่าใช้จ่ายที่ครูต้องแบกรับเอง ทั้งค่าพาหนะ และค่าเชื้อเพลิง

นายจิราวุฒิ กล่าวว่า ปัญหาการเรียนออนไลน์เกิดขึ้นมาแล้วอย่างน้อย 2 ภาคการศึกษา แต่ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจน ความบอบช้ำและภาระที่เกิดขึ้น ตกอยู่กับครูและผู้ปกครองกลุ่มเปราะบางสายป่านสั้นซึ่งเป็นกลุ่มส่วนใหญ่ ไม่อาจรับผลกระทบอีกต่อไปได้ นักเรียนจำนวนมากถูกทิ้งไว้ข้างหลังเนื่องจากภาระการเรียนที่หนักขึ้น แต่ผลลัพธ์ในเชิงของการเรียนรู้บกพร่องลง 

นายวันนิวัติ กล่าวว่า หลังจากได้รับหนังสือร้องเรียนแล้วจะนำไปหารือร่วมกับนายนพคุณ รัฐผไท ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา เพื่อเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงถึงแผนการจัดการเรียนการสอนตลอดช่วง 1 ปี 6 เดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดการระบาดของโควิด-19 ในระลอกแรกจนถึงปัจจุบัน แม้ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยได้นำเสนอแนวคิดวิธีการแก้ไขปัญหาด้านการศึกษามาโดยตลอดแต่ไร้ผล รัฐบาลยังหูทวนลม ไม่ยอมรับฟังนำข้อเสนอไปปรับใช้ และในช่วงนี้ยังมีแนวโน้มที่จะล็อกดาวน์อีกครั้งแต่กระทรวงศึกษายังนิ่งเฉย ยิ่งซ้ำเติมให้เด็กเกิดความเครียด เนื่องจากผลการเรียนเสื่อมถอยลง และยังกระทบกับมุมมองต่อสภาพแวดล้อมของเด็ก จนผลเสียในมิติต่าง ๆ เริ่มกัดกร่อนเข้าไปในจิตใจของเด็กตามไปด้วย เช่น การไม่ได้พบปะเพื่อน ๆ เป็นเวลานาน ไม่ได้พูดคุยปรึกษาหารือกับครู ไม่ได้แสดงออกในกิจกรรมที่ชื่นชอบ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นในพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็ก ปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลกระทบให้เกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตของเด็กในอนาคตได้ 

นางสาวอรุณี กล่าวว่าการฆ่าตัวตายของเด็กนักเรียน ม.4 เนื่องจากความเครียดจากการเรียนออนไลน์ กระทรวงศึกษาธิการจะต้องมีคำตอบกับเรื่องนี้และจะต้องป้องกันไม่ให้เกิดเหตุที่น่าเศร้าเสียใจแบบนี้อีก วิกฤตการเรียนเป็นสิ่งสำคัญต้องเร่งแก้ไข ผู้ที่เกี่ยวข้องในส่วนของนโยบายหาทางออกโดยด่วน เพราะกังวลว่าการระบาดของโควิด-19 จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของการศึกษา รัฐบาลควรตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อฟื้นฟูการเรียนที่หายไปจากการบริหารโควิดผิดพลาดของรัฐบาลด้วย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net