Skip to main content
sharethis

รัฐบาลจงใจทำสภาล่ม  'พิชัย' จี้ ส.ส.รัฐบาลหยุดต่อรองทางการเมือง

2 ก.ค. 2564 วันนี้ พิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า นอกจากรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จะล้มเหลวเรื่องการบริหารจัดการและควบคุมการระบาดของโควิด-19 ล่าสุด การเปิดประชุมสภา โดยประธานสภาฯ ในฝั่งของรัฐบาลเป็นผู้ต้องการให้เปิดสภา แต่ปรากฏว่าสภาล่ม มี ส.ส. แสดงตนเพียง 206 คน จากซึ่งจะครบองค์ประชุมต้องมีสมาชิก 242 คน ทำให้ไม่ครบองค์ประชุม ประธานสภาต้องสั่งปิดการประชุมทันที เป็นการเสียเครดิตในฝั่งรัฐบาลอย่างมาก และสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากจน แฮทแท็ก #สภาล่ม ขึ้นอันดับ 1 ทำให้รู้สึกกันว่าหากพลเอกประยุทธ์จะล้มเหลวทุกเรื่อง ล้มเหลวซ้ำซาก พลเอกประยุทธ์ควรลาออก หรือยุบสภา เลือกตั้งใหม่ เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินผลงานที่ล้มเหลวของพลเอกประยุทธ์ด้วยตัวเอง

พิชัยระบุว่า ทั้งนี้เรื่องที่น่าแปลก คือ ส.ส. ฝั่งรัฐบาลจำนวนมากทั้งจากพรรคพลังประชารัฐ และ พรรคภูมิใจไทยยังอยู่กันในสภา แต่กลับไม่ยอมแสดงตัว เหมือนตั้งใจจะหักหน้ากันเลย และคนที่ต้องเสียหน้าและเสียเครดิตที่สุดก็คือพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี และ พลเอกประวิตร หัวหน้าพรรค พปชร. รวมถึงนายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยด้วย ทำเหมือนต้องการจะต่อรองบางเรื่อง การกระทำดังกล่าวทำให้มีเสียงด่าทอไปยัง ส.ส. ฝั่งของรัฐบาลอย่างมาก และ มีการเรียกร้องกันว่าในเมื่อ ส.ส. ขี้เกียจประชุมและปล่อยให้สภาล่ม ก็น่าจะควรให้มีการยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่ เผื่อจะมี ส.ส. ใหม่ที่ขยันมากกว่าเข้ามาทำงานเพื่อประชาชนมากขึ้น ทั้งนี้ นักวิชาการบางท่านยังเชื่อว่าการตั้งใจทำให้สภาล่มแบบนี้ น่าจะเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายด้วย

"พลเอกประยุทธ์ต้องสำนักได้แล้วว่าตัวเองบริหารล้มเหลวทุกด้าน ทำอะไรก็เละไปหมด และลามไปเละถึงงานในสภาแล้ว ซึ่งถ้ายังไม่สำนึกหรือยังคิดไม่ได้ ก็แสดงชัดเจนว่าพลเอกประยุทธ์เป็น “ผู้นำพิการทางความคิด” อย่างแท้จริง ซึ่งถ้าคิดได้ต้องรู้แล้วว่าประชาชนส่วนใหญ่คิดอย่างไรกับพลเอกประยุทธ์ และอย่าอยู่เพื่อถ่วงความเจริญ ควรจะต้องหาทางลงได้แล้ว เพราะประชาชนเอือมละอาเต็มทีแล้ว ก่อนที่จะถูกประชาชนไล่ลง" พิชัยกล่าว

 

'ชวลิต' ระบุ เหตุสภาล่ม ทำลายกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติรุนแรงประชาชนไม่อาจให้อภัยได้

วันเดียวกัน ชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังในการประชุมสภา ฯ เมื่อวันพฤหัสที่ 1 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุประธานสั่งปิดการประชุมเร็วอย่างมีนัยยะทางการเมืองช่วยรัฐบาลหนีญัตติโควิด ทั้ง ๆ ที่มี ส.ส.ลงชื่อขออภิปรายถึง 33 คน แต่ยังไม่มีผู้ได้อภิปราย นอกจากผู้เสนอญัตติ 6 คน 6 ญัตติเท่านั้น โดยเห็นว่าเมื่อสภา ฯ มีมติรับเป็นญัตติด่วนแล้ว ก็ควรพิจารณาญัตติด่วนนั้นอย่างครบถ้วน ไม่ควรยกยอดไปอภิปรายถึงสัปดาห์ถัดไป ถือ เป็นความบกพร่องของการปฏิบัติหน้าที่ผู้ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม หรือไม่

ทั้งนี้ บ้านเมืองจะต้องฟังความเห็นสภา ฯ ยามศึก สงคราม สภา ฯ ซึ่งเป็นตัวแทนประชาชนจะไม่อุทิศเวลากับภารกิจสำคัญได้อย่างไร แม้ไม่ใช่สงครามโลก แต่คือ สงครามโรค ที่บ้านเมืองกำลังมีวิกฤต ประชาชนกำลังเดือดร้อนแสนสาหัส ญัตติด่วนด้วยวาจา 6 ญัตติที่มีสมาชิก พรรคการเมืองถึง 5 พรรค ยื่นญัตติสอบถามและเสนอแนะรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาโควิด เพิ่งอภิปรายไปได้เพียงผู้เสนอญัตติ 6 ท่านดังกล่าว และเวลาที่ประธานสภาสั่งปิด ก็เพียงแค่เวลาประมาณ 18.45 น.เท่านั้น

ในยามที่บ้านเมืองกำลังมีวิกฤตจากการระบาดของไวรัสโควิด ทำสถิติสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ จำเป็นที่สภา ฯ ซึ่งมาจากตัวแทนประชาชนควรอุทิศเวลาปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน ควรใช้เวลาทุกนาทีอย่างมีค่า ควรมีส่วนสำคัญในการให้ข้อเสนอแนะต่อฝ่ายบริหารรับไปพิจารณา ไม่ควรใช้แทคติกหลบเลี่ยงการรับรู้ถึงความเดือดร้อนของประชาชน

เมื่อวันพุธที่ 30 มิถุนายน 64 ที่ผ่านมา ส.ส. พรรคแกนนำรัฐบาลใช้แทคติกไม่กดคะแนนลงชื่อเป็นองค์ประชุมในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.วัตถุอันตราย ฯ จนสภา ฯล่ม แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลไม่มีความจริงใจที่จะรับข้อเสนอแนะของสมาชิก ไม่มีรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนรัฐบาลมารับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะเลยแม้สักท่านเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ทำหน้าที่ประธานได้สั่งปิดการประชุมทั้ง ๆ ที่มี ส.ส.ลงชื่อขออภิปรายถึง 33 คน ยังไม่ได้อภิปรายสักคนเดียวดังกล่าว นับเป็นการใช้ดุลพินิจที่มีข้อบกพร่อง และเป็นข้อสังเกตว่ามุ่งรับใช้การเมืองฟากฝั่งรัฐบาลมากกว่าการรับทราบปัญหาและข้อเสนอแนะแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนหรือไม่

"การปิดการประชุมอย่างไร้เหตุผลรองรับ ผมเห็นว่าเป็นการไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่ ในยามบ้านเมืองมีวิกฤต ทั้งวิกฤตโควิด และวิกฤตเศรษฐกิจ การกระทำดังกล่าวได้ทำลายศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัญญัติอย่างรุนแรง ประชาชนไม่อาจให้อภัยได้ นับว่าน่าผิดหวังและไม่ควรมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก" ชวลิตกล่าว

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net