Skip to main content
sharethis

ม็อบเฟสและแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมแถลงยกเลิกมาตรา 112 ที่ปิดกั้นไม่ให้วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ ลงโทษแรงเกินสัดส่วน และถูกนำมาใช้กลั่นแกล้งทางการเมือง พร้อมเปิดตัวฐานข้อมูลคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้านอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ที่จัดงานถูกปาระเบิดกลางดึก ได้รับความเสียหายเล็กน้อย

เปิดตัวเว็บไซต์ฐานข้อมูลคดีหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ

เวลา 09.38 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ กลุ่มนักกิจกรรมที่ถูกดำเนินคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 รอบล่าสุดร่วมกันแถลงเปิดตัวเว็บไซต์ฐานข้อมูลเกี่ยวกับคดีหมิ่นประมาทกษัตริย์ โดยมีพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง, ชลธิศ โชติสวัสดิ์, ชนินทร์ วงษ์ศรี, เบนจา อะปัญ, อัครพล ตีบไธสง, เกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ และณวรรษ เลี้ยงวัฒนา

ชนินทร์ วงษ์ศรีเป็นผู้อ่านแถลงการณ์ของกลุ่มเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจาก มาตรา 112 สรุปความได้ว่า เสรีภาพในการแสดงความเห็นเป็นองค์ประกอบหลักในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย แม้ว่ากษัตริย์จะเป็นผู้ใช้อำนาจสูงสุด แต่อำนาจสูงสุดนั้นเป็นของประชาชน อีกทั้งสถาบันกษัตริย์ก็ดำรงอยู่ได้ด้วยเงินภาษีของประชาชน กิจการของสถาบันกษัตริย์จึงเป็นประเด็นสาธารณะที่กระทบกับประชาชน ประชาชนจึงต้องตรวจสอบสถาบันกษัตริย์ได้อย่างเสรี แต่ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กลับมีเนื้อหาปิดกั้นไม่ให้วิจารณ์สถาบันกษัตริย์ และลงโทษแรงเกินสัดส่วน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมากฎหมายนี้ยังถูกนำมาใช้กลั่นแกล้งทางการเมือง ผู้ที่ถูกดำเนินคดีล้วนเป็นประชาชนที่รักประชาธิปไตทั้งสิ้น

ชนินทร์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันสิทธิมนุษยชนสากลและเป็นวันรัฐธรรมนูญ เหล่านักศึกษาและประชาชนที่ถูกปิดกั้นด้วยมาตรา 112 จึงรวมตัวกัน เพื่อให้ยกเลิกและยุติการดำเนินคดี รวมถึงล้างมลทินและชดเชยเยียวยาให้แก่ผู้ที่ถูกดำเนินคดีจากกฎหมายป่าเถื่อนล้าหลัง เพื่อคืนควายุติธรรมแก่สังคม เพื่อให้กระบวนการประชาธิปไตยของไทยเดินหน้าต่อไปได้ และลดความขัดแย้งในสังคมไทยลง

ด้านพริษฐ์ตอบคำถามสื่อมวลชนว่า ที่ผ่านมาหากการใช้มาตรา 112 ยังดำเนินต่อไป จะทำให้กษัตริย์ของเราตกเป็นที่ครหาว่าใช้กฎหมายปิดปากประชาชนที่ออกมาเรียกร้องการปฏิรูปสถาบัน ถ้าเราอยู่ในระบอบประชาธิปไตยเราไม่จำเป็นต้องทำร้ายกันด้วยกฎหมาย หรือทำร้ายร่างกายกัน เราสามารถแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างกันและอยู่ร่วมกันได้ ไม่มีความจำเป็นต้องใช้กฎหมายนี้มาพรากอิสรภาพของคนที่แสดงความเห็น รวมถึงไม่ต้องเอาระเบิดมาปาคนที่เห็นต่าง

พริษฐ์ยกเหตุการณ์เมื่อช่วง 03.00 น. วันนี้ว่า มีคนเอาระเบิดมาปาอยู่ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ทำให้เกิดความเสียหายเล็กน้อย ยังดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ และขอให้ผู้ที่จะใช้ความรุนแรงหยุดพฤติกรรมดังกล่าวเพื่อไม่ให้สถานการณ์การเมืองที่กำลังเปราะบางอยู่แล้วย่ำแย่ลงไปกว่านี้

พริษฐ์กล่าวถึงการใช้กฎหมาย มาตรา 112 ว่า การใช้มาตรา 112 ที่ต้องเสียอนาคตเสียครอบครัว เสียอิสรภาพ ถือได้ว่าเป็นความรุนแรงทางการเมืองและเป็นเรื่องที่ไม่ควรปล่ยให้ถูกลืมเลือน เว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นจึงเป็นการบันทึกว่าช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มาตรา 112 ถูกใช้เป็นอาวุธทางการเมืองอย่างไรบ้าง

พริษฐ์ตอบสื่อมวลชนว่า ตอนนี้ได้มาถึงช่วงเวลาที่เป็นทางแยก โดยแยกหนึ่งเป็นการปฏิรูปอีกทางหนึ่งเป็นการปฏิวัติ ซึ่งประชาชนก็เสนอแล้วว่าต้องการปฏิรูป ตนก็อยากให้สถาบันกษัตริย์คิดให้ดี ซึ่งคนที่ตัดสินใจว่าจะให้ประเทศไทยไปทางไหนคือตัวสถาบันกษัตริย์เอง พวกตนแค่มีข้อเสนอให้เกิดการปฏิรูปเท่านั้น

นอกจากนี้ พริษฐ์ยังกล่าวอีกว่า อยากเชิญกษัตริย์มาเป็นพยานเพื่อถามว่าสิ่งที่พวกตนพูดเป็นการดูหมิ่นหรือไม่ เพราะที่ผ่านมากฎหมายได้เปิดช่องให้ใครเป็นคนฟ้องก็ได้โดยที่ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย และมีการแจ้งความไปตามจังหวัดต่างๆ เพื่อให้ต้องเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา และคนที่มาแจ้งความในตอนนี้ก็เป็นการจัดตั้งกันมา

ส่วนเบนจา ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่จะเปิดตัวว่า มีการทำเว็บไซต์เพื่อเป็นแหล่งรวมข้อมูลเกี่ยวกับการใช้มาตรา 112 ชื่อ no112.co ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการสร้าง ในอนาคตก็จะอัปเดตข้อมูลเพิ่มเรื่อยๆ ทั้งเรื่องการรณรงค์ รวมถึงข้อมูลของผู้ที่ถูกดำเนินคดีด้วยกฎหมายมาตรานี้

อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถูกปาระเบิดกลางดึก

10.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจมายังอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา หลังได้รับแจ้งเหตุว่ามีการปาระเบิดเข้ามาในบริเวณอนุสรณ์สถาน เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น.โดยคนไร้บ้านที่อยู่ในช่วงเกิดเหตุระบุว่า เป็นการขว้างจากผู้ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านมา ก่อนเวลา 13.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจะมาเก็บหลักฐานและกั้นรั้วไม่ให้ประชาชนเข้าไปในบริเวณจุดเกิดเหตุ จากการสังเกตพบความเสียหายเล็กน้อย

ขณะที่ไทยรัฐออนไลน์รายงานว่า ร.ต.อ.เกริกเกียรติ คงดี รอง สวป.สน.ชนะสงคราม รับแจ้งเหตุได้ยินเสียงระเบิดภายในอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา ถนนราชดำเนินกลาง แขวงวัดบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วรศักดิ์ พิสิษฐ์บรรณกร ผกก.สน.ชนะสงคราม ฝ่ายสืบสวน หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในรั้วบริเวณขั้นบันไดขั้นแรก พบรอยหินแกรนิตแตก เศษหินกระจายเกลื่อน มีคราบเขม่าเกาะ ใบบัวในกระถางใกล้เคียงแตกหลายใบ ในที่เกิดเหตุยังพบเศษท่อพีวีซีสีฟ้า และตะปูขนาดยาว 1 นิ้วครึ่งกระจายไปทั่ว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ในที่เกิดเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

พ.ต.อ.วรศักดิ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบภาพคนร้ายจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ทราบว่า ช่วงเวลาประมาณ 03.05 น. มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยายยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนมาจอดริมถนนราชดำเนินกลางฝั่งขาออก ใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ แล้วคนซ้อนท้ายลงไปจุดประทัดยักษ์ขว้างเข้าไปในรั้วอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แล้ววิ่งมาขึ้นซ้อนท้ายจักรยานยนต์ที่จอดรอหลบหนีไป เบื้องต้นแรงระเบิดสร้างความเสียหายไม่มาก ต้องให้ EOD มาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

ของที่ระลึก 'หวยราษฎร'

ท่ามกลางคอหวยและพ่อค้าแม่ค้าลอตเตอรี่ที่ปะปนกับผู้มาร่วมงานม็อบเฟสต์บริเวณกองสลากเก่าหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ มีการแจก 'หวยราษฎร' ลอตเตอรี่จำลองจำนวน 2,475 ฉบับ

วันจับรางวัลยังไม่ทราบ แต่รางวัลของหวยราษฎรมีอยู่ 3 รางวัล 

รางวัลที่ 1 ประเทศมีประชาธิปไตย
รางวัลที่ 2 สถาบันกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง
รางวัลปลอบใจ ประยุทธ์ จันทร์โอชาลาออก 

"สลาก 1 ชุด มี 3 รางวัล เป็น 'คุณภาพชีวิตที่ดีของราษฎรไทย'" ท้ายสลากระบุ

'เบิ้ม' ผู้จัดทำหวยราษฎรกล่าวว่า อยากทำมาเป็นของที่ระลึกโดยล้อเลียนสิ่งที่รัฐบาลถืออำนาจในการออกเพียงคนเดียว โดยก่อนหน้านี้ก็ทำธนบัตรล้อเลียนมาแล้ว ทั้งนี้ ได้ศึกษากฎหมายมาแล้วว่าไม่ผิดกฎหมาย เพราะเป็นของที่ระลึก ไม่มีการแจกรางวัลและจับรางวัลจริง

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net