Skip to main content
sharethis

คณะราษฎร ประกาศอีกครั้งชุมนุม 14 ตุลานี้ 14.00 น. แล้วเคลื่อนขบวนล้อมทำเนียบขับไล่ 'ประยุทธ์' แนะเตรียมตัวและอุปกรณ์ให้พร้อมสำหรับการเดินขบวนพาประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง

 

12 ต.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กแฟนเพจ 'เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH' เผยแพร่ประกาศความเคลื่อนไหวของคณะราษฏรเพิ่มเติมจากที่นัดหมายชุมนุมวันที่ 14 ต.ค.นี้ เวลา 14.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน แล้วเคลื่อนขบวนล้อมทำเนียบขับไล่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา 

"เราจะทนอยู่กับพลเอกประยุทธ์และเผด็จการศักดินาไปนานอีกเท่าไหร่กัน หรือจะต้องให้ความตกต่ำทางเศรษฐกิจมาเยือนแบบบางประเทศอันเนื่องมาจากการบริหารงานที่ล้มเหลว และกติกาที่บิดเบี้ยว รวมถึงการเอื้อพวกพ้องและศักดินา จึงจะตระหนักได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้มันไม่ถูกต้อง รัฐบาลเข้ามาได้การยึดและสืบทอดอำนาจ เยาวชนและประชาชนไม่อาจมองเห็นอนาคตได้อีกต่อไป เวลานี้เป็นเวลาที่เราต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงด้วยความเชื่อที่ว่า ประเทศไทยดีกว่านี้ได้" คณะราษฏร ระบุ

คณะราษฏร ยังระบุด้วยว่า โปรดเตรียมตัวและอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมสำหรับการเดินขบวน แล้วมาพร้อมกัน 14 ตุลาคมนี้ 14 นาฬิกา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ราษฎรจะเดินนำ พาประเทศกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง

โดยวานนี้ คณะราษฎรประกาศข้อเรียกร้อง 3 ป. ประกอบด้วย 1. “ประยุทธ์ต้องออกไป” จากการเป็นนายกรัฐมนตรี กว่า 6 ปีที่เราต้องทนอยู่กับนายกที่ชื่อประยุทธ์ ซึ่งมีที่มาจากการรัฐประหารและสืบทอดอำนาจ ซ้ำยังบริหารเศรษฐกิจได้ล้มเหลว ทำให้ เอื้อพวกพ้องและกลุ่มทุน นี่ก็มากเพียงพอแล้วที่จะบอกว่าทำไมประยุทธ์จึงไม่สมควรเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอีกต่อไป 2. “เปิดวิสามัญรับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญจากประชาชน” ประชาชนได้รวบรวมรายชื่ออย่างยากลำบาก รัฐสภาซึ่งเป็นตัวแทนของอำนาจประชาชน จะต้องเปิดประชุมวิสามัญเพื่อรับร่างแก้ไขจากภาคประชาชนในทันที!

และ 3. “ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์” มิให้การขยายพระราชอำนาจของกษัตริย์ถอยห่างจากระบอบประชาธิปไตยมากไปกว่าที่เป็นอยู่ นี่ไม่ใช่การล้มล้าง แต่หากไม่มีการปฏิรูป สถาบันกษัตริย์อาจประสบวิกฤติจากการที่ประชาชนไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ การปฏิรูปสถาบันกษัตริย์จะทำให้สามารถกษัตริย์อยู่คู่กับระบอบประชาธิปไตยที่กษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญได้อย่างสง่างาม

สำหรับ คณะราษฏร เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มเยาวชนปลดแอก ธรรมศาสตร์และการชุมนุม นักเรียนเลว และแนวร่วมกว่า 30 กลุ่ม 

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมรับม็อบ

ขณะที่ฝั่งรัฐบาล สำนักข่าวไทย รายงานว่า พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 3 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล เปิดเผย ว่า ในช่วงนี้จะยังไม่มีการนำสิ่งกีดขวางมาตั้ง ตามที่เคยปฎิบัติ เนื่องจาก พื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลเป็นเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ดังนั้นคาดว่าน่าจะมีการปรับแผนอีกครั้งหลังมีความชัดเจนของการเคลื่อนไหวชุมนุม

พ.ต.อ.วัชรวีร์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การทำงานในครั้งนี้ แบ่งหน้าที่ชัดเจน กำลังตำรวจสันติบาลทำเนียบฯ จะวางกำลังทุกตึกภายในทำเนียบฯ โดยเฉพาะตึกไทยคู่ฟ้า ตึกบัญชาการ 1 เฝ้าระวังอาคารสถานที่ รวมถึงแนวรั้วด้านในของทำเนียบฯ ซึ่งขณะนี้ตำรวจทำเนียบฯ มีจำนวน 138 นาย หากผู้ชุมนุมจะปักหลักค้างคืน เราก็ต้องประสานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เนื่องจากรอบนอกจะเป็นความรับผิดชอบของตำรวจนครบาล แต่ทั้งนี้จะประสานการทำงานกันอย่างใกล้ชิด

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการรับมือการชุมนุมในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ ของคณะราษฎร ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ติดตามสถานการณ์และเข้าไปดูแล

ส่วนที่แกนนำประกาศว่าจะนำผู้ชุมนุมปักหลักรอบทำเนียบฯ ห่วงว่าจะบานปลายหรือไม่นั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วง และขอความร่วมมือประชาชนว่าขณะนี้อยู่ระหว่างบริหารสถานการณ์โควิด -19 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นจุดแข็ง ดังนั้นควรแสวงและสร้างโอกาสให้กับไทย จึงห่วงใยว่าหากเกิดความไม่สงบเรียบร้อยเกิดขึ้นแล้วจะเสียโอกาสนั้น จึงขอให้รวมไทยสร้างชาติ

เมื่อถามถึงการเจรจากลุ่มผู้ชุมนุมไม่ให้เคลื่อนมายังทำเนียบฯ มีความเป็นไปได้ที่จะไม่เดินทางมาหรือไม่นั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ก็ต้องแล้วแต่ผู้ชุมนุม ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคงพยายามดูแลสถาการณ์ให้เรียบร้อยมากที่สุด หลังจากนี้คงมีการรายงานต่อฝ่ายความมั่นคง ซึ่งสถานการณ์มีการพัฒนาไปตามลำดับ แต่ในส่วนพื้นที่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอยู่แล้ว รวมถึงมีการประเมินพื้นที่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่โดยรอบทำเนียบรัฐบาล

ส่วนการแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่หลายฝ่ายกังวล จะมีการเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะไปทำความเข้าใจ เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้ฝ่ายความมั่นคงได้เจรจาไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมชู 3 นิ้วระหว่างขบวนเสด็จฯ มีผลตอบรับอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขอให้ไปถาม สตช. ส่วนแผนการดำเนินงาน พยายามพูดคุยและติดตามการเคลื่อนย้ายมวลชนจากพื้นที่ต่าง ๆ

ส่วนการข่าวว่ามีกลุ่มผู้ชุมนุมจากต่างจังหวัดจะมาสมทบนั้น พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ข้อมูลปัจจุบัน เบื้องต้นมีประมาณ 40-50 จังหวัด จำนวนไม่มากเท่าไร และการเคลื่อนมวลชนดังกล่าวมีฝ่ายการเมืองเข้าไม่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ขอระบุว่าฝั่งใด แต่ก็ไม่ได้ประมาทและไม่ได้รับรายงานถึงการเข้ามาสร้างสถาการณ์ของมือที่ 3 แต่ก็ได้เตรียมการรับมือไว้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net