Skip to main content
sharethis

สปสช.จัดระบบป้องกันทุจริตเบิกจ่ายเงินกองทุนบัตรทอง หลังพบ 18 คลินิกทุจริตเงินบัตรทอง ส่วนประชาชนสองแสนกว่ารายที่สิทธิอยู่ในคลินิกเหล่านี้จะถูกย้ายสิทธิโดยอัตโนมัติ ระหว่างนี้หากมีการส่งตัวต่อไม่ต้องใช้ใบส่งตัว

14 ก.ค.2563 ทีมสื่อสารของ สปสช.รายงานว่า นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สปสช.ได้เข้าร่วมประชุมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ทำเนียบรัฐบาล กรณีที่ สปสช.ตรวจพบการทุจริตการเบิกจ่ายเงินค่าบริการคัดกรองโรคในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยตกแต่งตัวเลขเบิกเงินเกินจริง ของคลินิกเอกชน 18 แห่ง ในพื้นที่ กทม. โดย สปสช.ได้รับเงินจากการเรียกคืนแล้วกว่า 60 ล้านบาท พร้อมกันนี้ได้ดำเนินการตามกฎหมายทั้งในคดีแพ่งและอาญา

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ สปสช.ได้ยกเลิกสัญญากับคลินิกทั้ง 18 แห่งแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม 2563 ในส่วนของประชาชนที่ขึ้นทะเบียนคลินิกดังกล่าวทั้ง 215,271 ราย ก็ได้ดำเนินการจัดหาหน่วยบริการแห่งใหม่รองรับไว้แล้ว ด้านการดำเนินคดี ได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2563 พร้อมส่งเอกสารหลักฐานการทุจริตดังกล่าวเพื่อให้กองบังคับการปราบปรามดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ผู้มีสิทธิ 18 คลินิก ทาง สปสช. กทม. จะจัดสรรหน่วยบริการประจำให้โดยเร็ว หลังจากได้รับการจัดสรร หากไม่สะดวก ประชาชนสามารถเลือกหน่วยบริการประจำแห่งใหม่ได้ที่สำนักงานเขต 19 เขต ประกอบด้วย คลองเตย คลองสามวา ธนบุรี บางกะปิ บางขุนเทียน บางแค บางพลัด ประเวศ พระโขนง มีนบุรี ราชเทวี ราษฎร์บูรณะ ลาดกระบัง ลาดพร้าว สายไหม หนองแขม หนองจอก หลักสี่ ห้วยขวาง

“หลังจากยื่นเรื่องขอย้ายสิทธิแล้ว จะใช้เวลาดำเนินการ 15-30 วัน โดยสิทธิจะปรับอัตโนมัติทุกวันที่ 15 กับ 28 ของเดือน โดยระหว่างที่ยังไม่เกิดสิทธิในหน่วยบริการใหม่ หากเจ็บป่วยให้ใช้หน่วยบริการเดิมต่อไปได้” เลขาธิการ สปสช. กล่าว

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวอีกว่า ในระหว่างที่รอเปลี่ยนหน่วยบริการปฐมภูมิ หากผู้มีสิทธิมีนัดหมายกับโรงพยาบาลทุติยภูมิ (โรงพยาบาลรับส่งต่อ) ผู้รับบริการไม่ต้องใช้ใบส่งต่อ โดยสามารถไปใช้สิทธิตามที่โรงพยาบาลนัดได้จนกว่าจะได้รับการย้ายสิทธิไปยังหน่วยบริการใหม่

ทั้งนี้ ในส่วนของหน่วยบริการภาครัฐที่จะเข้ามาดูแลประชาชนกลุ่มดังกล่าวต่อ จะมีการแจ้งให้ประชาชนทราบตามฐานข้อมูลที่มีอยู่เดิม โดยการส่งข้อความทางโทรศัพท์หรือจดหมาย แต่หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ทางสายด่วน 1330 ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงในแอปพลิเคชัน “สปสช.สร้างสุข” หรือสอบถามผ่านช่องทางไลน์ @ucbkk ได้

สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ไว้กับคลินิก 18 แห่งนั้น เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า ขอให้ประชาชนแก้ไขการจองสิทธิเปลี่ยนหน่วยบริการแห่งใหม่ที่สะดวก ผ่านไลน์ไอดี @ucbkk สร้างสุข หรือสอบถามสายด่วน 1330 หรือไปรับบริการที่ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้บ้าน

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวถึงโรงพยาบาลตติยภูมิที่ให้บริการผู้ป่วยนอกว่า หน่วยบริการที่รักษาสามารถให้บริการกับผู้รับบริการที่มีสิทธิ 18 คลินิกได้ โดยเบิกค่าใช้จ่ายเป็นกรณีอุบัติเหตุ/เจ็บป่วยฉุกเฉิน (AE) และบันทึกในเวชระเบียนระบุว่า 18 คลินิกปิด เพื่อที่ผู้ตรวจสอบบัญชี (Audit) จะได้ทราบ

เลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า การดำเนินการทั้งหมด สปสช.จะรายงานให้ประชาชนได้รับทราบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังจากนี้จะมีการจัดทำ Facebook Live เพื่อรายงานความคืบหน้าการดำเนินให้สังคมได้รับทราบเป็นประจำ และเปิดให้ประชาชนแจ้งข้อร้องเรียนร้องทุกข์เข้ามาเพื่อการดำเนินการต่อไป

วันเดียวกันนี้ คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวที่มี นายจิรวุสฐ์ สุขได้พึ่ง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย กรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นประธาน จะประชุมครั้งแรก เพื่อพิจารณารายละเอียดของปัญหาอย่างเป็นระบบ การบริหารจัดการภายในของ สปสช. รวมทั้งระบบการตรวจสอบการเบิกจ่ายค่าบริการและคุณภาพบริการ เพื่อป้องกันการทุจริตในการเบิกจ่าย และเพื่อดูว่ามีจุดใดที่ต้องพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติม และจัดทำข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนาการดำเนินงานต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net