29 มิ.ย.2563 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 4 อ่านคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ประหารชีวิต "นวัธ เตาะเจริญสุข" อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ้างวานฆ่าอดีตปลัด อบจ.ขอนแก่น เมื่อปี 56 ขณะที่ ทนายจำเลยยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาต่อไป

ไทยรัฐออนไลน์ ผู้จัดการออนไลน์ และมติชนออนไลน์ ฯลฯ รายงานว่า วันนี้ (29 มิ.ย.63) ศาลอุทธรณ์ภาค 4 อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ 386/2563 ระหว่างฝ่ายโจทก์และโจทก์ร่วม คือ พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น และ ลำดวน โคตรทุม และจำเลยคือ นวัธ เตาะเจริญสุข อดีต ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 พรรคเพื่อไทย ในฐานก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิด โดยศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ให้ประหารชีวิต นวัธ และให้ชดใช้ค่าปลงศพ 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5

สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2556 ได้มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง สุชาติ โคตรทุม ขณะดำรงตำแหน่งปลัด อบจ.ขอนแก่น เสียชีวิตที่หน้าบ้านพักในหมู่บ้านจอมพล อ.เมืองขอนแก่น ขณะจะออกจากบ้านไปทำงาน และต่อมาสามารถจับกุมผู้ร่วมก่อเหตุได้ทั้งหมด 5 คน ซึ่งมี ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญผล จำเลยที่ 1 พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม จำเลยที่ 2 ประพันธ์ ศรีพิลัย จำเลยที่ 3 บุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 4 และ ปิยะพงษ์ มีกำบัง จำเลยที่ 5 และศาลฎีกาได้พิพากษาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน และ พ.ร.บ.อาวุธปืน ตัดสินประหารชีวิต พ.ต.ท.สมจิตร แก้วพรม จำเลยที่ 2 ตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ด.ต.วีระศักดิ์ ชำนาญผล ประพันธ์ ศีรพิลัย บุญช่วย จูงกลาง จำเลยที่ 1, 3 และ 4 ส่วน ปิยะพงษ์ มีกำบัง จำเลยที่ 5 ให้ยกฟ้อง

ซึ่งระหว่างนั้นศาลจังหวัดขอนแก่นได้ออกหมายจับ นวัธ เตาะเจริญสุข ในข้อหากระทำความผิดฐานจ้างวานผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน หลังมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง สุชาติ โคตรทุม และระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ลำดวน โคตรทุม ภรรยาของ สุชาติ โคตรทุม ได้ขอเป็นโจทก์ร่วม และยื่นคำร้องบังคับขอให้จำเลยคือ นวัธ เตาะเจริญสุข ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนค่าปลงศพ และค่าใช้จ่ายอันจำเป็น

ศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 24 ก.ย.2562 ระบุว่า นวัธเป็นผู้ใช้ผู้อื่นฆ่าผู้ตายคือสุชาติ โดยไตร่ตรองไว้ก่อนจริง จึงมีคำพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(4) ประกอบมาตรา 84 ลงโทษประหารชีวิต และให้จำเลยชดใช้ค่าปลงศพ 300,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. 2556 เป็นต้นไป โดยต่อมา นวัธได้ยื่นอุทธรณ์ และศาลอุทธรณ์ภาค 4 ได้มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น

ทั้งนี้ รายงานเพิ่มเติมแจ้งอีกว่า ทางฝ่ายจำเลย คือนวัธ จะมอบหมายให้ทนายความดำเนินการยื่นคำร้องขอต่อสู้คดีในศาลฎีกาต่อไป