สหภาพยุโรปออกแถลงการณ์กรณียุบพรรคอนาคตใหม่ ระบุว่าเป็นการถดถอยของการเมืองพหุนิยม ทางการต้องประกันว่า ส.ส. จะได้ทำงานในสภาอย่างเต็มที่ต่อไป ด้านรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชนแถลง ผิดหวังอย่างรุนแรงต่อคำวินิจฉัย ไม่มีใครเชื่ออีกแล้วว่าทหารจะลงจากอำนาจ

21 ก.พ. 2563 สืบเนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ มีแถลงการณ์จากต่างประเทศแสดงความเห็นถึงคำวินิจฉัยดังกล่าว

สหภาพยุโรปมีแถลงการณ์ออกมาในวันเดียวกันนี้ ระบุว่า การยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก ถือเป็นการถดถอยของการเมืองแบบพหุนิยมในประเทศไทย พรรคอนาคตใหม่ได้คะแนนเสียงกว่า 6 ล้านเสียงในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อ มี.ค. 2562

การยุบพรรคหรือการห้ามไม่ให้สมาชิกของรัฐสภาเป็นสิ่งที่สวนทางกับกระบวนการฟื้นฟูความเป็นพหุนิยมที่ริเริ่มขึ้นเมื่อปีที่แล้ว พื้นที่ทางการเมืองของไทยควรจะเปิดกว้างต่อไป

สิ่งที่สำคัญก็คือการที่ทางการไทยประกันว่าสมาชิกรัฐสภาที่ได้รับเลือกตั้งมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะสามารถทำงานเติมเต็มภาระหน้าที่ใต้อาณัติในรัฐสภาได้ต่อไป ไม่ว่าจะได้รับเลือกตั้งมาจากพรรคใดก็ตาม

สหภาพยุโรปพร้อมที่จะขยายการผูกพันกับประเทศไทย รวมถึงในประเด็นของสิทธิมนุษยชน เสรีภาพขั้นพื้นฐาน และพหุนิยมประชาธิปไตย  ดังที่สภากิจการต่างประเทศของสหภาพยุโรปได้เน้นย้ำในข้อสรุปสภาเมื่อ 14 ต.ค. 2562

ด้านสมาชิกรัฐสภาอาเซียนเพื่อสิทธิมนุษยชน (APHR) มีแถลงการณ์แสดงความผิดหวังต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างรุนแรงต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องให้ทางการไทยหยุดการคุกคามฝ่ายค้านและผู้สนับสนุนประชาธิปไตย

"โทษนี้ดูจะมีความไม่ได้สัดส่วนทั้งหมด และเมื่อคุณดูจำนวนคดีมหาศาลที่ฟ้องร้องต่อพรรคอนาคตใหม่และสมาชิกพรรคตั้งแต่ก่อตั้งพรรค มันเป็นเรื่องยากที่จะไม่ตั้งคำถามว่าพวกเขาถูกทำให้โดดเดี่ยว เพราะว่าเขามีทีท่าเป็นพิษภัยต่อการครองอำนาจทางการเมือง" อาเบล ดา ซิลวา สมาชิกรัฐสภาจากติมอร์ เลสเต และสมาชิก APHR กล่าว

"การยุบพรรคส่งข้อความไปยังประชาชน 6 ล้านคนว่าการลงคะแนนเสียงไม่มีความหมาย" ฟรานซิสกา คาสโตร สมาชิกรัฐสภาจากฟิลิปปินส์ และสมาชิกของ APHR กล่าว "การเลือกตั้งปีที่แล้วควรจะเป็นการมอบจุดจบให้กับการปกครองแบบทหารในไทย แต่หลังจากวันนี้ ไม่มีใครแล้วที่ถูกหลอกให้เชื่อว่าเป็นเช่นนั้น"