Skip to main content
sharethis

ประมวลภาพและลำดับเวลากิจกรรมชุมนุมล่าชื่อถอดถอน กกต. 'อนุสาวรีย์ชัยฯ-แยกราชประสงค์' ร้อง กกต. เพื่อการเลือกตั้งที่โปร่งใสและเคารพต่อเสียงของประชาชน พร้อมร้องเปิดเผยคะแนนทุกหน่วย ลั่นให้รอดูท่าทีของ กกต. พรุ่งนี้ ถ้ายังไม่โปร่งใส อาจมีนัดชุมนุมอีกครั้ง 'เอกชัย' เผยถูกปรับ 200 บาทที่ สน.ลุมพินี ฐานบังอาจใช้เครื่องเสียงหลังจบกิจกรรม

31 มี.ค.2562 จากกระแสความไม่พอใจของการจัดการเลือกตั้งและกระบวนการประกาศผลการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งผลให้มีผู้ล่ารายชื่อผ่านทาง change.org จนยอดขณะนี้กว่า 8 แสนราย และการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อถอดถอนและเรียกร้องให้ กกต. รับผิดชอบนั้น

วันนี้ ช่วงบ่าย มีกลุ่มประชาชนจัดกิจกรรม ล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ประกอบด้วย 1. จุดที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นำโดยกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม กลุ่มนี้จะแต่งกายหลากหลาย 2. จุดที่หน้าแมคโดนัลด์ ​ ราชประสงค์ นำโดยเอกชัย หงส์กังวาน และ อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' ส่วนมากกลุ่มนี้จะสวมเสื้อสีแดงเป็นสัญลักษณ์

โดยมีรายละเอียดการจัดกิจกรรมดังนี้ 

เวลา 15:47 น. 

ที่ Skywalk อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในกิจกรรมร่วมลงชื่อถอดถอน กกต. นั้น เริ่มมีประชาชน สื่อมวลชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจมารวมตัวแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าตอน 16.30 น. จะมีการเตรียมเส้นทางขบวนเสด็จฯ ให้ย้ายไปตรงเกาะดินแดงก่อน 17.00 น. ค่อยย้ายกลับมาอีกครั้ง

15.30 น.

ที่บริเวณหน้าแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ ประชาชนเริ่มรวมตัวจัดกิจกรรม "ถึงโกงก็ชนะ" โดยมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อปลด กกต.ชุดปัจจุบัน พร้อมมีการชูป้ายประท้วง

เอกชัย หงส์กังวาน หนึ่งในผู้เข้าร่วมกล่าวว่า กกต. ทำงานช้ามาก เมื่อเทียบกับครั้งก่อนๆ และพอประกาศผลอย่างไม่เป็นทางการก็พบว่าผู้ใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นจาก 65% เป็น 74% จึงบอกได้ว่าทำงานไม่เป็นมืออาชีพ และควรประกาศว่าแต่ละพรรคได้เท่าไรในปาร์ตี้ลิสต์ อาจจะยังไม่เป็นทางการก็ได้ แต่ไม่ใช่ให้สื่อคำนวณกันเอง

กลุ่มที่จัดกิจกรรมดังกล่าว ยืนยันหลักการประชาธิปไตย 3 ข้อ ข้อแรก การชนะเลือกตั้งตัดสินที่จำนวน ส.ส. (Electoral Votes) มิใช่จากคะแนนผู้ออกเสียง (Popular Votes) ซึ่งหลักการนี้เป็นหลักการประชาธิปไตยสากลทั่วโลก ข้อสอง พรรคที่ได้รับชัยชนะที่มีจำนวน ส.ส.สูงสุดจะต้องเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล นายกรัฐมนตรีจะต้องมาจากแคนดิเดตของพรรคที่ชนะเลือกตั้ง ข้อสาม ทหารจะต้องกลับเข้ากรมกอง เลิกการข่มขู่ประชาชนทุกรูปแบบ นับจากวันนี้เป็นต้นไป

 

16.10 น.

อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' ให้สัมภาษณ์ ก่อนอ่านแถลงการณ์ในกิจกรรม​ "ถึงโกงก็ชนะ" หน้าแมคโดนัลด์​ ราชประสงค์

อนุรักษ์มองว่าเป็นการเลือกตั้งสกปรกที่สุดเท่ากับสมัยการเลือกตั้งเมื่อปี 2500 ยุค จอมพล ป. เหตุการณ์ผ่านมา 62 ปี ประชาธิปไตยของประเทศนี้ไม่ได้มีความคืบหน้า ในขณะที่เราบอกว่าประเทศนี้มีประชาธิปไตย มีการเลือกตั้งแล้ว แต่ประชาชนกลับไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้ แม้กระทั่งพรรคการเมืองใดชนะเลือกตั้ง ประชาชนก็ถูกขัดขวางไม่ให้พูด แล้วเรามีประชาธิปไตยและการเลือกตั้งไว้เพื่ออะไร

เขามองว่า หากการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่สกปรก พรรคการเมืองที่สนับสนุนทหารได้เป็นรัฐบาลมันจะเป็นการสร้างความขัดแย้งทางการเมืองให้เกิดขึ้นอีก

อนุรักษ์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นข้อพิสูจน์แล้วว่ารัฐบาลทหารจะไม่ยอมให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม รัฐบาลทหารจะไม่ยอมให้พรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง คือ พรรคเพื่อไทยไปจัดตั้งรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ต่อมา เวลา 16.25 น. ฟอร์ด ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตลอดเวลาที่ทำกิจกรรมมา ถูกกล่าวหามาโดยตลอดว่า ถูกทักษิณ ชินวัตร จ้างมาให้เคลื่อนไหว วันนี้ตนขอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า ไม่เคยรับเงินจากทักษิณแม้แต่บาทเดียว เงินทุกบาททุกสตางค์มาจากเงินของกลุ่มเอง ไม่เคยได้จากทักษิณ และยืนยันว่า การออกมาเคลื่อนไหวทุกครั้ง จนถึงครั้งนี้ ไม่ใช่การสู้เพื่อทักษิณ แต่เป็นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย และสู้เพื่ออนาคตของตัวเองและลูกหลาน พร้อมยืนยันว่าในการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนคือฝ่ายที่เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง หากจะมีการอ้างคะแนนป๊อปปูล่าโหวตเพื่อชิงจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐ ขอท้าให้ใช้ ม.44 ทำประชามติให้ประชาชนเป็นผู้ชี้ขาดไปเลยว่า ใครควรเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนไม่ไว้วางใจ

16:15 น.

ที่สกายวอล์ค หน้าวิคตอรี่มอลล์ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ มีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อถอดถอน กกต. 
โดยผู้ประสงค์จะลงชื่อ ให้เตรียมสำเนาบัตรประชาชนมาด้วยสองชุด โดยมีทั้งผู้มาทำกิจกรรมและเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งให้ผู้มาทำกิจกรรมยืนอยู่ติดรั้วฝั่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่อเปิดทางให้ประชาชนสัญจรไปมาได้

ทั้งนี้ กลุ่มประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมมีการชูป้าย "respect our voice" "หยุดโกงเลือกตั้ง" "เห็นหัวกูบ้าง" "เปิดคะแนนทุกหน่วย" เป็นต้น

16:40 น.

ยังมีการตั้งโต๊ะอยู่ ขณะนี้คนบนสกายวอล์กมีจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามจัดระเบียบเพราะเริ่มมีเสียงบ่นจากคนที่ไม่ได้มาชุมนุมแล้วว่าเดินไม่ได้เลย โดยกลุ่มที่ล่ารายชื่อจะรอถึงห้าโมงแล้วจะย้ายไปตรงที่ลงจากบีทีเอส

ผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เหมือนเจ้าหน้าที่จะบอกให้ย้ายโต๊ะเรื่อยๆ โดยเมื่อสักครู่มีตำรวจคนนึงบอกคนที่ตั้งโต๊ะว่าขอดูใบอนุญาตหน่อยด้วย

ด้านจุดที่ ราชประสงค์ ก็ยังมีการตั้งโต๊ะล่ารายชื่ออยู่อย่างคึกคักเช่นกัน

16.50 น.

อนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ 'ฟอร์ด เส้นทางสีแดง' เดินลงถนนแยกราชประสงค์ เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องเสียงมาคืน หลังจากเขาลงเดินสักพักเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวเขามาเจรจา โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่อยู่

ผู้สื่อข่าวรายงานการเจรจาเพิ่มเติมว่า เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามกับ อนุรักษ์ ว่า หากให้ใช้เครื่องเสียงแล้ว จะพูดเนื้อหาประมาณไหนนั้น อนุรักษ์ ตอบว่า ก็แล้วแต่ใจสั่งมา อย่างไรก็ตามโดยหลักๆ แล้ว จะเชิญชวนประชาชนมาลงชื่อ เพื่อถอดถอน กกต. พร้อมทั้งเปิดเพลงเต้น

พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่จะมาปราศรัยด่า พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร

เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เจรจาด้วยจึงขอไปคุยกับผู้บังคับบัญชาก่อน อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้ ตำรวจได้ตั้งแนวกั้นเป็นกำแพงมนุษย์กันผู้ทำกิจกรรมลงถนนอีก 

17.50 น.

อัพเดทสถานการณ์ 2 จุด ล่ารายชื่อถอดถอน กกต. ที่แยกราชประสงค์ เมื่อเวลา 17.37 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังได้เครื่องเสียงคืนจากเจ้าหน้าที่ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง ก็เริ่มตั้งโต๊ะลงชื่อ พร้อมประกาศขอบคุณเจ้าหน้าที่ และชวนประชาชนมาลงชื่อต่อ โดยจะหยุดกิจกรรมในเวลา 20.00 น.

ขณะที่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เวลา 17.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมฆฝนเริ่มก่อตัว ผู้ชุมนุมย้ายไปยืนริมถนนกัน โดยมีเจ้าหน้าที่มากันไม่ให้ลงถนน

กลุ่มผู้ชุมนุม ตะโกนว่า "กกต. ออกไป" "เห็นหัวกูบ้าง หยุดโกงเลือกตั้ง" พร้อมเรียกร้องให้เปิดเผยคะแนนทุกหน่วย

โดยประกาศด้วยว่าให้รอดูท่าทีของ กกต. พรุ่งนี้ ถ้ายังไม่โปร่งใส อาจมีนัดชุมนุมอีกครั้ง

18.05 น. 

กลุ่มผู้ชุมนุมล่าชื่อ ถอดถอน กกต. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิประกาศด้วยว่าให้รอดูท่าทีของ กกต. พรุ่งนี้ ถ้ายังไม่โปร่งใส อาจมีนัดชุมนุมอีกครั้ง

สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องของกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อการเลือกตั้งที่เป็นธรรม โดยมีรายละเอียดดังนี้

แถลงการณ์ เรื่อง ข้อเรียกร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อการเลือกตั้งที่โปร่งใสและเคารพต่อเสียงของประชาชน

ในการเลือกตั้งครั้งแรกตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งประวัติศาสตร์ที่จะนำประเทศไทยออกจากระบอบรัฐประหารกลับเข้าสู่ระบอบปรกติอีกครั้ง สังคมไทยได้พบเห็นความผิดปรกติและความไม่ชอบมาพากลในการจัดการเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ใช้งบประมาณในการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้สูงถึง 5.8 พันล้านบาท แต่กลับมีพฤติกรรมที่แสดงถึงความไม่โปร่งใสและความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่อย่างร้ายแรง ได้แก่

1. การเอื้อประโยชน์แก่คณะรักษาควมสงบแห่งชาติ (คสช.) และพรรคการเมืองที่ คสช. สนับสนุน ทั้งในขั้นตอนการเตรียมจัดการเลือกตั้ง เช่น การแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ตามคำสั่งหัวหน้า คสช. จนบางเขตเลือกตั้งถูกกำหนดอย่างผิดปรกติโดยไม่ทราบเหตุผล, ความพยายามพิมพ์บัตรเลือกตั้งโดยไม่ระบุตราสัญลักษณ์ของพรรคการเมืองตามคำแนะนำของหัวหน้า คสช., การกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 มีนาคม 2562 ตามความต้องการของ คสช. โดยยอมลดกรอบเวลาในการรับรองผลการเลือกตั้งลง หรือในวันเลือกตั้ง เช่น การปล่อยให้มีป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองฝ่าย คสช. ติดอยู่ ณ บริเวณหน่วยเลือกตั้ง, การปล่อยให้ทหารแอบดูการลงคะแนนในคูหาเลือกตั้ง, การที่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งประกาศให้คะแนนกับบัตรที่กาให้พรรคการเมืองฝ่าย คสช. ทั้งที่ต้องเป็นบัตรเสีย

2. ความเรรวนในการรายงานผลการเลือกตั้งนับตั้งแต่เริ่มประกาศคะแนน ทั้งตัวเลขที่เปลี่ยนไปมาจนเกิดกรณีที่ผู้สมัคร ส.ส. “คะแนนลดลง” นับหมื่นคะแนน, ตัวเลขเกี่ยวกับผู้มาใช้สิทธิและการลงคะแนนที่ผลรวมตัวเลขในส่วนรายละเอียดไม่ตรงกับตัวเลขยอดรวมที่ประกาศออกมา รวมถึงการถ่วงเวลาในการเปิดเผยผลคะแนนการเลือกตั้งทั้งหมดโดยเพิ่งเปิดเผยออกมาหลังจากวันเลือกตั้งทั่วไปถึง 4 วัน ทั้งที่ข้อมูลดังกล่าวสามารถเปิดเผยได้ตั้งแต่คืนเดียวกันกับวันเลือกตั้งทั่วไป หรือแม้กระทั่งตัวเลขคะแนนที่ประกาศมาล่าสุดก็ยังไม่ตรงกับที่ประกาศในพื้นที่เขตเลือกตั้ง กรณีทั้งหมดนี้สร้างความเคลือบแคลงสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า ผลคะแนนที่ประกาศออกมานี้อาจถูกปรับแต่งเพื่อวัตถุประสงค์บางประการ

3. การปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมักง่ายและด้อยประสิทธิภาพ ส่งผลให้เสียงของผู้ใช้สิทธิจำนวนมากไม่ถูกนำมานับเป็นคะแนนทั้งที่พวกเขาไม่มีเจตนาเช่นนั้น เช่น กรณีการใช้สิทธินอกเขตเลือกตั้งที่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งให้บัตรเลือกตั้งผิดเขตโดยอ้างว่าสามารถใช้ลงคะแนนได้ แต่ กกต. กลับประกาศในเวลาต่อมาว่าเป็นบัตรเสีย และกล่าวโทษผู้ใช้สิทธิที่หลงเชื่อคำพูดของเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้ที่สมยอม ไม่รักษาสิทธิของตัวเอง หรือกรณีการใช้สิทธินอกราชอาณาจักรของชาวไทยในประเทศนิวซีแลนด์ 1,542 คน ที่ กกต. วินิจฉัยให้บัตรเลือกตั้งทั้งหมดเป็น “บัตรที่นำไปนับคะแนนไม่ได้” โดยอ้างว่าบัตรไม่ถูกส่งมายังสถานที่นับคะแนนในเวลาที่กำหนด ทั้งที่บัตรทั้งหมดถูกส่งมาถึงประเทศไทยตั้งแต่วันก่อนวันเลือกตั้ง และอยู่ในวิสัยที่จะนำส่งมายังสถานที่นับคะแนนให้ทันเวลาได้ กรณีเหล่านี้สะท้อนว่า กกต. ชุดนี้ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยเห็นความสำคัญของเสียงของประชาชน

เราเห็นว่า กกต. ซึ่งเป็นองค์กรอิสระ ควรปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง โปร่งใส และคำนึงถึงความสำคัญของเสียงของประชาชนอย่างถึงที่สุด จึงมีข้อเรียกร้องให้ กกต. ดำเนินการดังต่อไปนี้

1. แสดงออกให้เป็นที่ประจักษ์อย่างแท้จริงถึงสถานะ “กรรมการ” ของการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยการปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นอิสระ ปราศจากการครอบงำโดย คสช. หากพบการกระทำผิดจากพรรคการเมืองฝ่าย คสช. จะต้องดำเนินการยับยั้งและลงโทษอย่างเด็ดขาด

2. เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งในทุกหน่วยเลือกตั้งอย่างละเอียดที่สุด ทั้งตัวเลขผู้มีสิทธิ์ออกเสียง ผู้มาใช้สิทธิ์ออกเสียง จำนวนบัตรเลือกตั้งที่แต่ละหน่วยได้รับ จำนวนบัตรเสีย คะแนนผู้สมัครแต่ละคน ไปจนถึงแสดงบัตรเลือกตั้งและเอกสารที่จดบันทึกคะแนนเสียงของแต่ละหน่วยเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้ละเอียดทั่วถึงที่สุด และตรวจสอบได้ว่าข้อมูลดิบในแต่ละหน่วยเลือกตั้งนั้นตรงกับข้อมูลที่ กกต. ประกาศออกมาหรือไม่ และมีจุดสังเกตใดๆ ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีการทุจริตหรือไม่

3. ติดตามและนำบัตรเลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้งที่ส่งไปผิดเขตเลือกตั้งและบัตรเลือกตั้งนอกราชอาณาจักรที่ส่งไปยังสถานที่นับคะแนนไม่ทันเวลามานับเป็นคะแนน เพื่อให้คะแนนเสียงของประชาชนที่มีเจตนาใช้สิทธิออกเสียงถูกนับให้มากที่สุด

เราไม่ต้องการให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กกต. จะตระหนักได้แล้วว่าความเชื่อถือศรัทธาที่ประชาชนมีต่อองค์กรได้ตกต่ำไปมากเพียงใด และจะกลับตัวกลับใจ แก้ไขสิ่งที่ผิดให้กลับเป็นถูกต้องอย่างเต็มความสามารถ และไม่ทำผิดซ้ำซากไปมากกว่านี้อีก มิเช่นนั้นแล้ว คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องนับว่า กกต. ชุดนี้เป็นหนึ่งในผู้สมรู้ร่วมคิดในการโกงการเลือกตั้งครั้งนี้

31 มีนาคม 2562

18.58 น.

ที่จุดล่ารายชื่อ แยกราชประสงค์ยังมีคนทาร่วมลงชื่อเรื่อยๆ

19.30 น. 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จุดล่ารายชื่อ แยกราชประสงค์ หยุดกิจกรรมล่าชื่อถอดถอน กกต. แล้ว เจ้าหน้าที่เชิญไปที่ สน.ลุมพินี เพื่อเสียค่าปรับ กรณีใช้เครื่องเสียง 

ต่อมา 20.00 น. เอกชัย หงส์กังวาน โพสต์ว่า พวกตนถูกปรับ 200 บาทที่ สน.ลุมพินี ฐานบังอาจใช้เครื่องเสียง

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net