9 อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ตั้งกลุ่มภารกิจ “ก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย” ประกาศแม้พรรคโดนยุบ แต่การต่อต้านการสืบทอดอำนจ คสช. จะเดินต่อไป เผยเตรียมจัดเวทีพูดคุยกับประชาชนใน 4 ภาค หนุนประชาชนลงเสียงให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ส่วนพรรคหนุน คสช. และพรรคแทงกั๊ก “เลี้ยงไว้ไม่ได้”

ภาพจากเฟสบุ๊คแฟนเพจ:ไทยรักษาชาติคลับ

9 มี.ค. 2562 ที่โรงแรมรอยัล ปริ๊นเซส หลานหลวง ณ ห้องประชุมราชดำเนิน อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ 9 คนประกอบด้วย จาตุรนต์ ฉายแสง, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, ก่อแก้ว พิกุลทอง, นพ.เหวง โตจิราการ, นิคม ไวยรัชพานิช, พิชัย นริพทะพันธุ์, ประภัสร์ จงสงวน, อุเมส ปานเดย์ และพชร ธรรมมล (ฟลุ๊ค เดอะสตาร์) ได้จัดงานแถลงข่าวถึงทิศทางการเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังจากพรรคไทยรักษาชาติถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรค และตัดสิทธิทางการเมืองคณะกรรมการบริหารพรรค 13 คนเป็นเวลา 10 ปี

จาตุรนต์ กล่าวเริ่มต้นว่า หลังจากที่พรรคถูกยุบ สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือความเป็นสมาชิกภาพของสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติได้สิ้นสุดลงทันที และผู้สมัครรับเลือกตั้งทั้งหมดก็ถูกตัดออกจากสนามเลือกตั้งด้วย แต่อย่างไรก็ตามทั้งอดีตผู้สมัคร และอดีตสมาชิกพรรคยังมีสิทธิ์ที่จะทำกิจกรรมทางการเมืองได้อยู่ ซึ่งกรณีนี้ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ชี้แจงว่า สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอื่นได้ และสามารถไปช่วยพรรคการเมือง ผู้สมัครในพรรคอื่นหาเสียงได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด

“ในส่วนของพวกเราที่อยู่ในที่นี้ 9 คน ได้มีความคิดเห็นร่วมกันและมีความตั้งใจว่า เมื่อเรามีเจตนารมย์ตั้งแต่ต้นที่จะดำเนินการทางการเมืองเพื่อหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของ คสช. ส่งเสริมให้เกิดรัฐบาลประชาธิปไตยเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และสร้างรัฐบาลประชาธิปไตยให้แก่บ้านเมือง แม้เราจะไม่ได้เป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งแล้ว แต่เราจะดำรงจุดมุ่งหมายที่มีมา... โดยหลังจากนี้จะมีการเปิดเวทีเพื่อสื่อสารกับประชาชน ใช้สิทธิ์ในการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่เคยสนับสนุน และยังสนับสนุนพรรคไทยรักษาชาติ และประชาชนผู้รักประชาธิปไตยทั่วไป ได้ร่วมกันทำภารกิจสำคัญคือ หยุดการสืบทอดอำนาจของรัฐบาล คสช. โดยจะทำกิจกรรมในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศ” จาตุรนต์ กล่าว

ณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า แม้เส้นทางของพรรคไทยรักษาชาติในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ยุติลงแล้ว แต่เส้นทางในการต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร และนำประชาธิปไตยกลับคืนมาสู่ประเทศไทย ใช้ประชาธิปไตยเป็นพื้นฐานในการแก้ไขเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนยังไม่ยุติ และจะเดินหน้าต่อไป ในนาม “กลุ่มภารกิจก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย”

“การรวมตัวกันวันนี้ไม่ได้เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มบุคคล แต่เป็นการรวมกันของกลุ่มภารกิจ เป็นภารกิจเพื่อประชาธิปไตยต่อต้านการสืบทอดอำนาจ เราเรียกกลุ่มภารกิจนี้ว่า ก้าวต่อไปเพื่อประชาธิปไตย สิ่งที่เราจะดำเนินการหลังจากนี้ก็จะออกเปิดเวที พูดจาปราศรัยกับพี่น้องประชาชนในเวลาที่เหลืออยู่อีก 10 กว่าวัน คาดว่าอย่างน้อยจะมี 4 เวที ใน 4 ภูมิภาคต้องเกิดขึ้น แต่จะมีเพิ่มเติมมากขึ้นไปกว่านั้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการประเมินสถานการณ์ และการตอบรับของพี่น้องประชาชน และหลังจากวันนี้จะเดินหน้าทันที” ณัฐวุฒิ กล่าว

ณัฐวุฒิ กล่าวต่อไปว่า การจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งการจะแก้ปัญหานี้ได้จะต้องทำให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเสียก่อน อย่างไรก็ตาม หากหลังจากวันนี้สถานการณ์หรือบรรยากาศในสนามเลือกตั้ง หรือเหตุผลความจำเป็นอื่นที่ส่งผลให้จำเป็นต้องปรับรูปแบบภารกิจ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ทางกลุ่มจะประเมินและรีบแจ้งให้ทราบ

เมื่อถามว่า นอกจากใช้แนวทางในการถ่ายโอนคะแนนไปให้พรรคอื่นแล้ว มีแนวทางเรื่องการ Vote No หรือไม่ ณัฐวุฒิ ตอบว่า ในเบื้องต้นยังไม่มีการพูดถึงเรื่องของการ Vote No และยังเชื่อมั่นว่าคะแนนเสียงของประชาชนทั้งประเทศสามารถเอาชนะกติกาของฝ่ายเผด็จการ

“หลายคนบอกว่า ภารกิจนี้ หากฝ่ายประชาธิปไตยชนะในสนามเลือกตั้งและตั้งรัฐบาล ต้องเรียกว่าเป็นปาฏิหาริย์ แต่เราเชื่อว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นด้วยอำนาจอธิปไตยของประชาชน ภายใต้วิถีทางประชาธิปไตย ไม่มีปาฏิหาริย์ที่อำนาจอธิปไตยของประชาชนจะทำให้เกิดขึ้นไม่ได้” ณัฐวุฒิ กล่าว

ณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า พรรคการเมืองที่แสดงความชัดเจนว่าไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจมีหลายพรรค ถือเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนจะได้พิจารณาสนับสนุน ส่วนพรรคการเมืองที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจ หรือแทงกั๊ก ก็ต้องบอกกับประชาชนตามตรงว่า “เราเลี้ยงเอาไว้ไม่ได้”