Skip to main content
sharethis

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ขอเจ้าหน้าที่หยุดคุกคามการเคลื่อนไหวของคนจน พร้อมเผยพอใจผลการเจรจากับกระทรวงมหาดไทย เดินหน้าปักหลักค้างคืนต่อที่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

3 พ.ค. 2561 สืบเนื่องจากการชุมนุมของบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ P-move เมื่อวันที่ 2 พ.ค. โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้ปักหลักชุมนุมค้างคืนบริเวณด้านหน้ากระทรวงมหาดไทย เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน 25 เรื่องให้กับเครือข่ายขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม

วันนี้เวลา 11.10 น. ประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ในงานด้านกิจการความมั่นคงภายใน ได้เดินทางมาชี้แจงกับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยระบุว่าตั้งแต่เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาซึ่งได้มีการเชิญตัวแทนกลุ่มเข้าไปพูดคุยในเรื่องต่างๆ ที่เป็นเรื่องเดือดร้อนของประชาชน 15 จังหวัด จนได้ข้อสรุปทั้งหมด 5-6 เรื่อง โดยเรื่องทั้งหมดได้เรียนให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และปลัดกระทรวงมหาดไทย ทราบแล้ว และจากการประชุมนั้นหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่างได้รับการมอบหมายงานให้เข้าไปแก้ไขปัญหาต่างๆ แล้ว และยังได้ทำข้อตกลงในเรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดินที่ทำกินร่วมกันด้วย

จากนั้นทางกลุ่มได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 3 ระบุถึงการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐในการจับกุม 3 แกนนำที่จังหวัดลำพูน รวมทั้งการสกัดกั้นไม่ให้ประชาชนจากจังหวัดลำพูน และเชียงใหม่ เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ เพื่อร่วมชุมนุมกับทางกลุ่ม โดยประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำการข้างต้น เป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อการดำรงอยู่ของประชาชนในประเทศที่ปกครองตามระบอบประชาธิปไตย และขอเรียกร้องให้รัฐบาล หน่วยงานฝ่ายต่างๆ ยุติการข่มขู่ คุกคาม ประชาชนที่เคลื่อนไหวเรียกร้องการแก้ปัญหาความทุกข์ยากของคนจนในทุกพื้นที่

แถลงการณ์ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ฉบับที่ 3

จากสถานการณ์ที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ห้วงการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการของการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่สังคมสากลทั่วไปให้การยอมรับ และภายใต้การปกครองของรัฐบาลที่มีที่มาแบบพิเศษ มีความประสงค์อยากจะสร้างกระบวนการให้เกิดประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในสังคมไทยนั้น การปฎิบัติจากหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงต่างๆกลับมีพฤติกรรมที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

เหตุการณ์การเข้าสกัดการเดินทางของพี่น้องสมาชิกขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.)เมื่อคืนวันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา รถบัสที่ชาวบ้านจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดลำพูน จำนวน 2 คัน ซึ่งเหมาเช่าเพื่อเดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง มลฑลทหารบกที่ 33 ด่านแม่ทา จังหวัดลำพูน เรียกตัวคนขับรถบัสสองคนลงจากรถ และหายตัวไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จนชาวบ้านจำนวน 50 กว่าคนบนรถลงมาสอบถามหาคนขับรถ แต่เจ้าหน้าที่กลับอ้างว่าไม่ทราบว่าหายไปไหน กุญแจรถบัสก็ถูกยึด ท้ายสุดชาวบ้านถูกควบคุมตัวไปยังมลฑลทหารบกที่ 33

และในวันถัดมา ในเวลา 15.45 นายประยงค์ ดอกลำไย ที่ปรึกษา ขปส. และนาย สุแก้ว ฟุงฟู รองประธานสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และนาย รังสรรค์ แสนสองแคว ประธานโฉนดชุมชนบ้านไร่ดง ถูกเจ้าที่คุมตัว โดยอ้างว่าชาวบ้านกระทำความผิด พรบ.การชุมนุมสาธารณะ ซึ่งเป็นความผิดร้ายแรงและไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง เพราะขัดต่อความมั่นคงและอาจจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจ ทั้งๆที่การเคลื่อนไหวของ ขปส. ได้ทำการแจ้งการเคลื่อนไหวตาม พรบ.การชุมนุมสาธารณะ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

การกระทำเช่นนี้นอกจากจะไม่เป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการปกครองระบอบประชาธิปไตย ที่รัฐบาลต้องเปิดพื้นที่การแสดงออก แสดงความคิดเห็น และต้องรับฟังเสียงของประชาชนกลุ่มต่างๆ แต่สิ่งที่หน่วยงานความมั่นคงที่มีพฤติกรรมข้างต้นเป็นการกระทำที่เลวร้าย ป่าเถื่อน และมีความพยายามที่จะยัดเยียดข้อหาผิดตำสั่ง คสช. 13/2559 การป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดบางประการที่เป็นภยันตราย ต่อความสงบเรียบร้อยหรือบ่อนทำลายระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ทั้งๆ ที่ในหนังสือแจ้งต่อหน่วยงานเรื่องการเคลื่อนไหวติดตามการแก้ปัญหาของ ขปส. ได้แจ้งวัตถุประสงค์ และรายละเอียดการเคลื่อนไหวไว้อย่างชัดเจน

ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมขอประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำการข้างต้น เป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อการดำรงอยู่ของประชาชนในประเทศที่ปกครองตามระบอบประชาธิปไตย และขอเรียกร้องให้รัฐบาล หน่วยงานฝ่ายต่างๆ ยุติการข่มขู่ คุกคาม ประชาชนที่เคลื่อนไหวเรียกร้องการแก้ปัญหาความทุกข์ยากของคนจนในทุกพื้นที่

ทั้งนี้ความคืบหน้าการติดตามการแก้ปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ได้รับการตอบสนองจากกระทรวงที่รับผิดชอบแล้ว 3 กระทรวง คือ กระทรวงคมนาคม โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มาเป็นประธานและให้นโยบายการแก้ไขปัญหาร่วมกัน พร้อมรับข้อเสนอกรณีปัญหา 10 กรณี 1 นโยบาย และกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามการแก้ปัญหาของประชาชน 
ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ได้มีการเปิดประชุมอนุกรรมการแก้ปัญหาที่สาธารณประโยชน์และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้างเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาเร่งด่วน 25 กรณี และเปิดเวทีถกนโยบายการส่งมอบพื้นที่ชุมชนที่อยู่ในที่ดินการดูแลของกระทรวงมหาดไทยตามนโยบายโฉนดชุมชน

สุดท้ายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดการประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหาเร่งด่วน และพร้อมเจรจาการแก้ปัญหาผลกระทบจากนโยบายต่างๆที่เกิดจากการดำเนินงานของทางกระทรวง

เราหวังว่ากรณีปัญหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานต่างๆ คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง สถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) ที่สำคัญคือรัฐบาล จะตอบสนองข้อเสนอและเปิดพื้นที่ให้ผู้แทน ขปส. ได้เจรจาหารือแนวทางการแก้ปัญหาความเดือดร้อนดั่งเช่น 3 กระทรวงข้างต้น

ท้ายสุดขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมขอกราบขออภัย พี่น้องชาวกรุงเทพมหานครที่อาจจะได้รับผลกระทบการเคลื่อนไหวของเราในบางเวลา และขอบคุณสังคม สื่อต่างๆ ที่ให้ความสนใจและติดตามรายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

ที่ดิน เสรีภาพ ประชาธิปไตย ความเป็นธรรม

วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2561
ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม


ต่อมาในเวลา 13.20 น. ทางกลุ่มได้เคลื่อนขบวนจากกระทรวงมหาดไทย ไปยังกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยจะเข้าพักค้างคืนบริเวณด้านหน้ากระทรวงเกษตรฯ ต่อ โดยในเวลา 14.30 น. ตัวแทนกลุ่มได้เข้าประชุมกับกระทรวงเกษตรเพื่อหามาตรการแก้ไขปัญหา

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net