Skip to main content
sharethis

ศรีสุวรรณ จรรยา เผย พรุ่งนี้ เตรียมร้อง 'ประยุทธ์' ตั้งกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบคู่กรณี ปมกลุ่มนายทหาร 3 นายบุกเข้าไปในโรงแรมย่านป่าตอง จ.ภูเก็ต พร้อมอ้างการใช้อำนาจตาม ม.44 และคำสั่ง หัวหน้า คสช. ด้าน ผบ.ตร.สั่งเด้ง 2 ตำรวจ เอี่ยวติดตามเจ้าของโรงแรม

4 เม.ย.2561 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ว่า พรุ่งนี้ (5 เม.ย.61)  เวลา 10.30 น. สมาคมฯ จะไปยื่นคำร้องต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี  ผ่านศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ตรงข้ามประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล (ตึก กพร.เดิม) ถ.พิษณุโลก กทม. ให้ตั้งกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบคู่กรณีและเหล่านายทหารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องต่อกรณีกลุ่มนายทหาร 3 นายบุกเข้าไปในโรงแรมย่านป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยอ้างการใช้อำนาจตามมาตรา 44 และคำสั่ง หัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13/2559  เพื่อนำความจริงมาอรรถาธิบายให้ปรากฎต่อสาธารณชน รวมทั้งจะเสนอให้มีการ “ปฏิรูปทหาร” ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ

โดยระบุเหตุผลที่เตรียมยื่นคำร้องว่า ตามที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียและสื่อสารมวลชนทั่วไปว่า มีกลุ่มนายทหาร 3 นายบุกเข้าไปในโรงแรมย่านป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยอ้างการใช้อำนาจตามมาตรา 44 และคำสั่ง หัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13/2559 จนกลายเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากของสาธารณะที่รับร็ข้อมูลข่าวสารดังกล่าว จนเป็นเหตุให้แม่ทัพภาคที่ 4 แถลงให้ทหารพระธรรมนูญ ฟ้องกลับผู้บริหารโรงแรมดังภูเก็ต และผู้โพสต์ หลังปล่อยคลิปกล่าวหา 3 ทหาร พร้อมแจ้งต้นสังกัดตรวจสอบพฤติกรรม 2 ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ว่า ไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจและเสนอให้ย้ายออกจากพื้นที่นั้น

สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ระบุว่า กรณีดังกล่าว สังคมไทยจะเชื่อได้อย่างไรว่าฝ่ายใดถูก ฝ่ายใดผิด หากไม่ให้หน่วยงานที่เป็นกลาง หรือให้กรรมการอิสระเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะกรณีดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะมีเบื้องหลังที่แต่ละฝ่ายบอกความจริงกันไม่หมด โดยเฉพาะคำพูดของผู้บริหารโรงแรม วิศิษฐ์ เอี่ยววิโรจน์ฤทธิ์ ที่สะท้อนให้รู้ถึงความอัดอั้นตันใจต่อการใช้อำนาจหรือปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ในกรณีถูกพาดพิงว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ทั้ง ๆ ที่เป็นผู้ประกอบการในธุรกิจโรงแรมธรรมดาทั่วไป ที่ย่อมมีอำนาจในการลงโทษพนักงานที่ขาดงานเกินกว่ากฎหมายกำหนดได้อยู่แล้ว ตามกฎหมายแรงงาน และหากพนักงานลูกจ้างไม่พอใจก็สามารถใช้สิทธิในการร้องเรียนกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน หรือฟ้องร้องต่อศาลแรงงานได้อยู่แล้ว แต่เหตุใดจึงไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม โดยอ้างว่าถูกข่มขู่คุกคาม ซึ่งชอบที่ฝ่ายความมั่นคงจะต้องตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกให้ถ้วนถี่เสียก่อน ก่อนที่จะบุกเข้าไปพบผู้บริหารโรงแรมดังภูเก็ต จนกลายเป็นเหตุพิพาทกันตามมามากมาย และที่สำคัญเมื่อมีกรณีร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมในลักษณะนี้ทั่วประเทศ ทหารได้ออกมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงแบบเดียวกับภูเก็ตทุกรายหรือเปล่า และควรนำเวลาทั้งหมดไปทุ่มสรรพกำลังในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนใต้จะดีกว่าไหม

สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เห็นว่าการที่นายทหารทั้ง 3 นายบุกเข้าไปในโรงแรมย่านป่าตอง จ.ภูเก็ต โดยอ้างการใช้อำนาจตามมาตรา 44 และคำสั่ง หัวหน้า คสช.ที่ 13/2559 ในสถานการณ์ที่ฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาลกำลังเน้นการสร้างความปรองดอง และบ้านเมืองกำลังนับถอยหลังเข้าสู่โรดแม็ปการเลือกตั้ง และแม่ทัพภาคที่ 4 และโฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ออกมาแถลงข้อมูลฝ่ายเดียว อาจไม่เป็นธรรมต่อคู่กรณีและหรือไม่เหมาะสมต่อการใช้อำนาจ สมาคมฯ จึงจะนำความไปร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ให้ตั้งกรรมการอิสระขึ้นมาตรวจสอบคู่กรณีและเหล่านายทหารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องต่อกรณีดังกล่าว เพื่อนำความจริงมาอรรถาธิบายให้ปรากฎต่อสาธารณชน รวมทั้งจะเสนอให้มีการ “ปฏิรูปทหาร” ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติต่อไปด้วย

เด้ง 2 ตำรวจ เอี่ยวติดตามเจ้าของโรงแรม

ขณะที่เมื่อวันที่  เมื่อวันที่ 2 เม.ย. ที่ผ่านมา เดลินิวส์ รายงานว่า วันดังกล่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณี พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 ออกมาระบุให้ดำเนินการย้ายตำรวจ 2 นาย ที่เกี่ยวข้องติดตามเจ้าของโรงแรมในป่าตอง จ.ภูเก็ต พ้นพื้นที่ จ.ภูเก็ต สืบเนื่องจากปรากฏในคลิปวิดิโอกล่าวหานายทหาร 3 นาย เรียกรับรับผลประโยชน์จากเจ้าของโรงแรม ที่ต่อมาแม่ทัพภาค 4 ยืนยันว่า นายทหารทั้ง 3 เข้าไปเจรจากรณีปัญหาภายในโรงแรมที่มีผู้ร้องเรียนเท่านั้น และสั่งการให้ดำเนินการทางกฎหมายกับเจ้าของโรงแรมดังกล่าว ว่า ตนทราบเรื่องแล้ว และทางพล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 สั่งการให้ตำรวจทั้ง 2 นาย พ้นตำแหน่งไปช่วยราชการแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการรังแกตำรวจหรือเปล่า ผบ.ตร. กล่าวว่า ไม่หรอก ไม่เข้าใจว่าทำไมสื่อมองว่าเป็นการรังแก หรือดิสเครดิตตำรวจ ซึ่งทาง ผบช.ภ.8 พูดคุยกับแม่ทัพภาค 4 แล้ว เมื่อวานก็เจอกับแม่ทัพภาค 4 ก็ไม่ได้คุยกัน ให้ ผบช.ภ.8 ดำเนินการและเอาตำรวจ 2 นายไปช่วยราชการเรียบร้อย

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net