Skip to main content
sharethis

เจริญ อินทร ผู้ประกันตนตาม ม.39 ร้อง ประกันสังคม จ.ปทุมฯ เหตุ รพ.ปทุมเวช วินิจฉัยโรคผิด ทำเสียสุขภาพ จิตใจ รักษายืดเยื้อ ขาดรายได้ ล่าสุด ผู้ประสานงานเผย จนท.ประกันสังคม ระบุ รพ.ยอมจ่ายค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นส่วนหนึ่งแล้ว

7 ธ.ค.2560 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่ สํานักงานประกันสังคม จ.ปทุมธานี สุธิลา ลืนคำ เจ้าหน้าที่มูลนิธิอารมณ์ พงศ์พงัน ในฐานตัวแทนของ เจริญ อินทร ผู้ป่วยและผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ยื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อ หัวหน้า สนง.ประกันสังคม ปทุมธานี ด้วยเหตุที่ โรงพยาบาลปทุมเวช ตามสิทธิรักษาประกันสังคม วินิจฉัยโรคผิด

 

หนังสือขอความเป็นธรรม ของ เจริญ

หนังสือร้องขอความเป็นธรรมระบุว่า ประมาณกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เจริญมีอาการปวดท้องบริเวณชายโครงด้านขวาและมีอาการปวดเสียดไปถึงด้านหลัง และได้ไปพบหมอที่โรงพยาบาลปทุมเวชติดต่อกันถึง 2 ครั้ง หมอวินิจฉัยตามอาการว่าเป็นกล้ามเนื้ออักเสบและหมอได้จ่ายยาแก้ปวด พร้อมกับยาเคาเตอร์เพนมาทาแก้ปวดกล้ามเนื่อหลัง แต่อาการไม่ดีขึ้น จากนั้น วันที่ 18 ก.ย.60 เจริญได้ไปตรวจอาการปวดท้องที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ โดยจ่ายเงินเอง ผลปรากฏว่าเป็นนิ่วในถึงน้ำดี จากนั้นหมอที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ได้เขียนบันทึกและผลการตรวจให้เพื่อกลับไปพบหมอที่ รพ.ปทุมเวช เพื่อรักษาตามสิทธิประกันสังคม ซึ่งต่อมาหมอที่ รพ.ปทุมเวช ออกใบนัดเพื่อผ่าตัดในวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา

หนังสือร้องขอความเป็นธรรมระบุอีกว่า เจริญตัดสินใจผ่าตัดแบบส่องกล้อง พร้อมกับจ่ายเงินเพิ่มเป็นค่าส่วนต่างให้กับ รพ. แต่สรุปผลผ่าตัดไม่ประสบผลสำเร็จ ทำให้ต้องผ่าตัดแบบเปิดอีกครั้ง ส่งผลให้มีแผลผ่าตัดถึง 2 แผล และต้องนอนพักฟื้นที่ รพ.ปทุมเวช 8 วัน จ่ายค่าส่วนต่าง 12,780 บาท จึงกลับไปพักฟื้นที่บ้าน แต่หลังจากนั้นกลับมีอาการตาเหลือง แน่นท้อง ปวดท้องมาก ในที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา จึงได้ไปพบหมอที่ รพ.ปทุมเวช ตามนัด และได้ปฏิบัติตัวตามหมอสั่งทุกอย่าง แต่อาการยังไม่ดีขึ้น วันที่ 30 พ.ย.และวันที่ 3 ธ.ค. ไปพบหมอ ซึ่งอาการก็ยังเหมือนเดิมทุกประการ  จนกระทั่งวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้ตัดสินใจไปตรวจที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ หมอได้ตรวจอย่างละเอียด พร้อมให้นำบันทึกการวินิจฉัยไปให้ รพ.ปทุมเวช เพื่อใช้สิทธิรักษาตามประกันสังคม แต่เจริญกังวลใจเป็นอย่างมาก จึงขอรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ต่อไป

เจริญจึงขอความเป็นธรรมจากหัวหน้า สนง.ประกันสังคม และตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี 1. หมอที่ รพ.ปทุมเวช วินิจฉัยโรคไม่ตรงกับที่เป็น ทำให้ได้รับผลกระทบทางด้านร่างกายและจิตใจ เกิดความกลัว กังวลใจ ไม่มั่นใจในการรักษาที่นี่อีกต่อไป 2. การดำเนินการยืดเยื้อยาวนาน ทำให้ได้รับผลกระทบด้านร่างกายและจิตใจเกินกว่าเยียวยา และหมอไม่เอาใจใส่ในการรักษาผู้ป่วยจริงๆ จังๆ 3. ค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียเพิ่มกับการรักษาที่ยืดเยื้อ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและครอบครัวที่ต้องแบกรับภาระที่เกิดจากการรักษา และ 4. ต้องการขอย้ายสิทธิประกันสังคมไปรักษาที่ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ทันที

ผู้สื่อข่าวสอบถาม สุธิลา เพิ่มเติม สุธิลา เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ประกันสังคมที่รับเรื่องได้โทรแจ้งตนว่า รพ.ปทุมเวชจะจ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายที่กับ รพ.ธรรมศาสตร์ฯ ตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.เป็นต้นมาแล้ว เนื่องจาก เจริญไม่มีสิทธิตามระบบประกันสังคมกับ รพ.นี้แต่ต้น

สุธิลา กล่าวต่อว่า ขณะที่เรื่องวินิจฉัยโรคผิด ส่งผลต่อค่ารักษาพยาบาลและการต้องหยุดทำงานขายของกระทบกระเทือนเหล่านั้นจะเป็นการพูดคุยกันในภายหลัง

สุธิลา ซึ่งเป็นนักปกป้องสิทธิแรงงาน โดยเฉพาะพื้นที่ รังสิต จ.ปทุมธานี กล่าวด้วยว่า ในพื้นที่มีปัญหาลักษณะการวินิจฉัยโรคผิดจำนวนมาก แต่ที่ผ่านมาคนงานหรือผู้ประกันตนไม่ได้ลุกขึ้นมาร้องเรียน เมื่อรักษาหายแล้วก็จะจบเรื่องไป หรือไปรักษาที่อื่นยอมจ่ายเงินเองแทน  

 

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net