อังกฤษเพิ่งผ่านร่างกฎหมายที่ให้อำนาจชอบธรรมกับเจ้าหน้าที่สอดแนมประชาชนได้โดยไม่ต้องแจ้งทางการหรือบอกต่อสาธารณะเป็นเวลาหลายปี ซึ่งเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้เปิดโปงการสอดแนมสหรัฐฯ และอังกฤษบอกว่าเป็นกฎหมายที่ล้ำเส้นประชาชนยิ่งกว่าเผด็จการหลายประเทศ

21 พ.ย. 2559 อังกฤษเพิ่งผ่านร่างกฎหมายใหม่ชื่อกฎหมายอำนาจการสืบสวนสอบสวน (The Investigatory Powers Act) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็นกฎหมายที่ให้อำนาจสอดแนมกับรัฐบาลในระดับที่เลวร้ายที่สุดในกลุ่มประเทศตะวันตก

เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน ผู้เปิดโปงเรื่องโครงการสอดแนมในอังกฤษและสหรัฐฯ ระบุผ่านทวิตเตอร์ของเขาว่า "อังกฤษเพิ่งจะผ่านกฎหมายการสอดแนมที่สุดโต่งที่สุดในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยยุโรป มันล้ำเส้นยิ่งกว่าประเทศเผด็จการหลายประเทศ"

เดอะการ์เดียนระบุว่าถึงแม้ว่าจะมีแรงต้านอยู่บางส่วนแต่รัฐบาลอังกฤษก็ผ่านร่างกฎหมายนี้ในที่สุด และแนวโน้มในยุโรปท่ามกลางความหวาดกลัวการก่อการร้ายก็ทำให้มีการพยายามเพิ่มความเข้มงวดในการสอดแนมประชาชนมากขึ้นแม้แต่ในเยอรมนีที่เพิ่งมีการผ่านร่างกฎหมายให้อำนาจการสอดแนมแก่องค์กรข่าวกรองมากขึ้น

ส่วนในสหรัฐฯ นั้นถึงแม้ว่าจะมีการออกกฎหมายระงับการสอดแนมและเก็บข้อมูลโทรศัพท์ผู้คนหลังจากที่กฎหมายเดิมสิ้นอายุ อย่างไรก็ตามชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ จากการเลือกตั้งประธานาธิบดีล่าสุดก็ทำให้น่าเป็นห่วงในประเด็นความเป็นส่วนตัวเนื่องจากทรัมป์เคยประกาศว่าจะใช้อำนาจการสอดแนมกับฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของตน เรื่องนี้ทำให้ลอร์ด สตราสเบอร์เกอร์ นักการเมืองพรรคเสรีนิยมประชาธิปไตยของอังกฤษผู้นำการต่อต้านกฎหมายสอดแนมล่าสุดของอังกฤษบอกว่า ถ้าหากอังกฤษมีนักการเมืองแบบโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ามาใช้ "เครื่องมือกดขี่" ตัวนี้ถือเป็นเรื่องน่าเป็นห่วง

กฎหมายอำนาจการสืบสวนสอบสวนจะให้ความชอบธรรมกับหน่วยงานความมั่นคงและตำรวจในการใช้อำนาจสอดแนมโดยไม่จำเป็นต้องบอกกล่าวต่อสาธารณะหรือต่อสภาได้เป็นเวลาหลายปี ถึงแม้ว่าในอังกฤษเมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ศาลจะตัดสินว่าหน่วยงานความมั่นคงต่างๆ กระทำการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลอย่างผิดกฎหมายโดยไม่มีการกำกับที่เหมาะสมเป็นเวลา 17 ปี

ในแง่ดีกฎหมายนี้จะให้อำนาจเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการแฮกเป้าหมายผู้ต้องสงสัยได้ทันทีแต่หนึ่งในข้อเสียของมันคือกฎหมายนี้ไม่ให้การคุ้มครองแหล่งข่าวซึ่งจะปิดกั้นไม่ให้มีการเปิดโปงการกระทำผิดจากภายใน

จิม คิลล็อค ผู้อำนวยการบริหารโอเพนไรท์กรุ๊ปกล่าวว่า อังกฤษในตอนนี้มีกฎหมายสอดแนมที่ทำให้ดูเป็นเผด็จการมากกว่าประชาธิปไตย พวกเขาสามารถเก็บข้อมูลประชาชนทั่วไปได้ไม่ว่าจะต้องสงสัยใดๆ หรือไม่ รีเนต แซมสันผู้อำนวยการใหญ่ของบิ๊กบราเธอร์วอทช์กล่าวว่าการผ่านร่างกฎหมายนี้เป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าการสอดแนมของประเทศทำให้ไม่มีใครสามารถพูดคุยสื่อสารกันได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว

เรียบเรียงจาก

'Extreme surveillance' becomes UK law with barely a whimper, The Guardian, 19-11-2016
https://www.theguardian.com/world/2016/nov/19/extreme-surveillance-becomes-uk-law-with-barely-a-whimper