ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ขวางถอนประกันแกนนำ นปช. เตือน คสช. ระวังเป็นระเบิดเวลา บ้านเมืองปั่นป่วน ถามผู้มีอำนาจจับแกนนำเสื้อสีเข้าคุกหมดแล้วได้อะไรขึ้นมา

 

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2559 ที่ผ่านมา เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ รายงานว่านายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 กล่าวถึงกรณีที่อัยการอาจจะถอนประกันแกนนำนปช.หลายคนจากคดีทางการเมือง ว่า แม้เรื่องนี้จะอยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่คสช.มักอ้างว่าทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย แต่เป็นคดีการเมืองซึ่งเป็นผลพวงจากความแตกต่างทางความคิดไม่ใช่เขาเป็นอาชญากร กรณีแกนนำ 19 คนฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ที่จะนำไปสู่การเพิกถอนคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราวก็มาจากเขาตั้งศูนย์ปราบโกงประชามติ แล้วคสช.มองว่าฝ่าฝืนคำสั่งตัวเอง ดังนั้นต้นเรื่องจึงมาจากคสช.คิดต่างกับกลุ่มนปช.แล้วนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

 

"ดังนั้นหากคสช.ไม่สั่งห้ามให้คนอื่นคิดต่างเขาก็ไม่มีความผิด จึงอยากขอให้รัฐบาลมองไปข้างหน้าว่าการจะนำคนคิดต่างซึ่งเป็นแกนนำมวลชนเหล่านี้ไปคุมขังจะมีประโยชน์อะไร แกนนำทั้ง2 เสื้อสีกำลังเผชิญชะตากรรมไม่ต่างกัน การเอาทุกคนขึ้นสายพานมรณะติดคุกกันหมดมันได้อะไรขึ้นมา มีแต่จะก่อให้เกิดแรงกดดัน ขณะที่หลังการยึดอำนาจ รัฐบาลก็พยายามขอร้องแกนนำมวลชนทุกฝ่ายให้ร่วมมือสร้างความสงบ เขาก็ให้ความร่วมมือ ฉะนั้นก็ไม่ควรจะไปไล่ล่าจนเกินไป ก้าวข้ามไปบ้างเพื่อให้เกิดความรู้สึกที่ดีต่อกัน" นายอดุลย์ กล่าว 

 

นายอดุลย์ กล่าวด้วยว่า ฝ่ายทหารเอง ตอนนี้ก็นิรโทษกรรมตัวเองเรียบร้อยหมดแล้ว แถมหลายคนยังได้รับการปูนบำเหน็จให้เป็นรัฐมนตรี เป็นกรรมการบอร์ดรัฐวิสาหกิจมากมาย กระบวนการยุติธรรมต้องจรรโลงสังคม ตุลาการภิวัฒน์ต้องทำให้บ้านเมืองสงบ แต่กลับเอาคนที่เป็นนักต่อสู้เพื่อประชาชนของทั้งสองฝ่ายจับเข้าคุก มันยุติธรรมแล้วหรือ อยากให้ผู้มีอำนาจมองอย่างใจกว้างมองไปข้างหน้า โดยเฉพาะในปีฉลองครองราชย์ครบ 70 ปีเป็นปีมหามงคล ถ้าคิดถึงความสงบในบ้านเมือง ไม่อยากให้สร้างแรงกดดันไปยังมวลชนมากกว่านี้ เพราะมันจะกลายเป็นระเบิดเวลาที่รอวันปะทุ บ้านเมืองจะกลับเข้าสู่ความวุ่นวายอีกรอบ