Skip to main content
sharethis

สหภาพแรงงาน-ตัวแทนผู้บริหารธนาคารกรุงเทพ เจรจาข้อเรียกร้องเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง 2558 ครั้งที่ 3 ธนาคารรับพิจารณาทบทวนเงินค่าตอบแทนพนักงาน Booth Exchange สหภาพย้ำทำงาน 7 วันเหมือนกันต้องได้รับ 3,500 บาทด้วย

2 ต.ค. 2558 สหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพได้แจ้งข่าวต่อสมาชิกสหภาพแรงงานถึงผลการเจรจาเปลี่ยนแปลงข้อตกลงสภาพการจ้างประจำปี 2558 ครั้งที่ 3 ที่ได้มีการเจรจากันเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมาว่าการเจรจาข้อเรียกร้องข้อ 8 เรื่อง ขอให้ธนาคารจ่ายเงินค่าเสี่ยงให้กับพนักงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการรับ-จ่ายหรือรับแลกเปลี่ยนเงิน เช่น CSO, FRO, MO, CPO หรือพนักงานที่ปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกันภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ในอัตรา 3,500 บาท/คน/ปี

ซึ่งสหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพระบุว่าสหภาพฯ ได้นำเสนอข้อมูลความเสี่ยงและเหตุผลความจำเป็นแต่ละตำแหน่งงานให้ผู้แทนเจรจาของธนาคารทราบ โดยหัวหน้าผู้แทนเจรจาธนาคารได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมและนำไปหารือผู้เกี่ยวข้องเพื่อนำมาวิเคราะห์และแก้ปัญหาให้เป็นธรรมตามความเสี่ยงของแต่ละตำแหน่งงาน ส่วนข้อเรียกร้องข้อ 9 เรื่อง ขอให้ธนาคารจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษ (ค่าห้าง) ให้กับพนักงานสาขา 7 วันและพนักงานที่ต้องปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกัน เช่น พนักงาน Booth Exchange ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปฏิบัติงาน 7 วัน เช่นเดียวกับพนักงานไมโคร ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง ผู้แทนสหภาพแรงงานได้ขอให้ธนาคารรีบพิจารณาช่วยเหลือพนักงานดังกล่าวโดยเร่งด่วน

สำหรับข้อเรียกร้องข้ออื่น ๆ ทางสหภาพแรงงานระบุว่าทั้งสองฝ่ายจะได้นำเสนอข้อมูลมาพิจารณาร่วมกันต่อไป

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมาสหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพได้แจ้งต่อสมาชิกสหภาพว่า ฝ่ายจัดการได้นัดผู้แทนสหภาพแรงงานเจรจานอกรอบในประเด็นสำคัญสำหรับผู้เกษียณอายุในปีนี้ โดยสรุปได้ ดังนี้ 1.ธนาคารจ่ายเงินช่วยเหลือสำหรับผู้เกษียณอายุในปี 2558 จำนวน 200,000 บาท สำหรับพนักงานที่เข้าทำงานกับธนาคารก่อนปี 2532 และ 2.ธนาคารตกลงปรับขึ้นเงินเดือนอย่างน้อยในเกณฑ์มาตรฐานให้กับพนักงานที่เกษียณอายุปี 2558 เพื่อประโยชน์ในการคำนวณเงินค่าชดเชยตามกฎหมาย โดยทางสหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพได้แสดงความขอบคุณธนาคารที่เห็นความสำคัญต่อพนักงานผู้เกษียณอายุในปีนี้ได้คลายความกังวลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวข้างต้นไปบ้าง แต่อย่างไรก็ตามสหภาพแรงงานได้ขอให้ธนาคารพิจารณาให้ครอบคลุมถึงผู้เกษียณอายุที่เข้าปฏิบัติงานกับธนาคารตั้งแต่ก่อนปี 2532 ทุกคน โดยธนาคารรับไปพิจารณาและนำมาเจรจา เพื่อเป็นข้อตกลงร่วมกันต่อไป

อนึ่งในการเจรจายื่นข้อเรียกร้องเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างประจำปี 2558 ที่ทางสหภาพแรงงานได้ยื่นข้อเรียกร้อง 15 ข้อที่ได้ยื่นไปก่อนหน้านี้ โดยข้อเรียกร้องทั้ง 15 ข้อมีดังนี้

1. ขอให้ธนาคารจ่ายโบนัสให้แก่พนักงานทุกคนทุกระดับชั้น ปีละ 5 เท่าของเงินเดือน บวกด้วยเงินเพิ่มพิเศษคนละ 30,000 บาท โดยแบ่งจ่ายเป็น 2 งวดเท่า เท่ากันภายในเดือนมิถุนายนและธันวาคมในแต่ละปี และพิจารณาโบนัสพิเศษเพิ่มเติมให้กับพนักงานตามผลกำไรสุทธิของธนาคารที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้มีผลตั้งแต่งวดมกราคม-มิถุนายน 2558 เป็นต้นไป

2. ขอให้ธนาคารกำหนดหลักเกณฑ์จ่ายเงินช่วยเหลือแก่พนักงานที่ทำงานกับธนาคารจนเกษียณอายุ สำหรับพนักงานที่เข้าทำงานกับธนาคารก่อนปี 2532 (ก่อนก่อตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) ในอัตราคนละ 500,000 บาท หรืออายุงานคูณเงินเดือนเดือนสุดท้าย

3. ขอให้ธนาคารพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงานทุกคนในปีที่เกษียณอายุเป็นกรณีพิเศษ โดยปรับเพิ่มขึ้นตั้งแต่ในเกณฑ์มาตรฐานขึ้นไป เพื่อเป็นประโยชน์กับพนักงานที่เกษียณอายุในการคำนวณเงินชดเชยตามที่กฎหมายกำหนด

4. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินช่วยเหลือค่าครองชีพให้กับพนักงานทุกคน ในอัตรา 3,500 บาท ต่อคน/ต่อเดือน

5. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานธนาคารกรุงเทพ จำกัด ซึ่งจดทะเบียนแล้วให้กับพนักงานทุกคนทุกระดับในอัตราร้อยละ 15 ของเงินเดือนอัตราเดียวเท่ากันทุกคน รวมทั้งพนักงานที่ลาออกจากสมาชิกกองทุนฯ และสมัครกลับเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนฯ ใหม่

6. ขอให้ธนาคารนำเงินที่มีอยู่ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของพนักงานเป็นหลักประกันในการกู้เงินสวัสดิการพนักงานได้ ทั้งนี้อยู่ภายใต้หลักเกณฑ์เงื่อนไขและวงเงินตามที่ธนาคารกำหนด

7. ขอให้ธนาคารจัดให้มีวงเงินกู้สวัสดิการพนักงาน เป็นสินเชื่อหมุนเวียนเอนกประสงค์ในวงเงิน 5 เท่าของเงินเดือน โดยไม่ต้องมีหลักประกัน

8. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินค่าเสี่ยงให้กับพนักงานที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการรับ-จ่ายหรือรับแลกเปลี่ยนเงิน เช่น CSO, FRO, MO, CPO หรือพนักงานที่ปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกันภายในเดือนมีนาคมของทุกปี ในอัตรา 3,500 บาท/คน/ปี

9. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินช่วยเหลือพิเศษให้กับพนักงานที่ปฏิบัติงานใน สาขา/หน่วยงาน ที่เปิดให้บริการลูกค้า 7 วัน หรือสาขาที่เปิดทำการในลักษณะเดียวกัน หรือพนักงานที่ต้องปฏิบัติงานในลักษณะเดียวกันในอัตราคนละ 5,000 บาท/คน/เดือน

10. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินช่วยเหลือพนักงานทุกคนในด้านการศึกษาของบุตรที่กำลังศึกษาเป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ระดับก่อนอนุบาลจนถึงระดับปริญญาตรี เฉพาะค่าบำรุงการศึกษาและค่าบำรุงอื่นที่เกี่ยวกับการศึกษา ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินอัตราที่ทางราชการกำหนดของแต่ละสถานศึกษาดังนี้

ระดับการศึกษา

เงินช่วยเหลือไม่เกินปีละ

ก่อนอนุบาล

6,000 บาท

อนุบาล-ประถมปีที่ 6

9,900 บาท

มัธยมปีที่ 1-มัธยมปีที่ 3

11,000 บาท

มัธยมปีที่ 4-มัธยมปีที่ 6

12,000 บาท

ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)

15,000 บาท

ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) , วิชาชีพเทคนิค (ปวท.)

25,000 บาท

ปริญญาตรี

30,000 บาท

 

11. ขอให้ธนาคารพิจารณาจ่ายค่าเสี่ยงภัยให้กับพนักงานที่ต้องออกไปปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ได้รับเงินค่าเสี่ยงภัยในอัตราที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน คนละ 7,000 บาท/คน/เดือน ทุกตำแหน่ง ทุกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง

12. ขอให้ธนาคารซื้อกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุให้กับพนักงานทุกคนและสามารถเบิกเงินค่าทดแทนการประสบอุบัติเหตุ

13. ขอให้ธนาคารปรับอัตราเทียบสิทธิค่ารักษาพยาบาลจากอัตราเดิม 700 บาท เป็น 1,500 บาท โดยพนักงานสามารถเบิกจ่ายได้ที่ต้นสังกัด

14. ขอให้ธนาคารจ่ายเงินค่าเครื่องแบบให้กับพนักงานชายหญิงคนละ 3 ชุด ต่อคน/ต่อปี

15. ขอให้ธนาคารจัดให้มีการประชุมร่วมระหว่างกรรมการสหภาพแรงงานธนาคารกรุงเทพกับผู้บริหารหรือตัวแทนผู้บริหารของธนาคาร อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อปรึกษาหารือร่วมกันในประเด็นปัญหาต่าง ๆ และเป็นการสร้างสรรค์แรงงานสัมพันธ์ที่ดีในสถานประกอบการ

โดยข้อมูลจากธนาคารกรุงเทพระบุว่าธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิสำหรับครึ่งแรกปี 2558 จำนวน 17,442 ล้านบาท

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net