อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หารือ กกต. แต่ไม่ให้คำตอบเลือกตั้งรอบหน้าจะลงหรือไม่ พร้อมวอน กปปส. อย่ารีบปฏิเสธเพราะข้อเสนอสุดท้ายคือการปฏิรูปตาม รธน. เช่นกัน - ด้าน กกต.จะนำข้อเสนออภิสิทธิ์ไปหารือยิ่งลักษณ์พรุ่งนี้ ส่วนกองทัพยืนยันยึดมั่น รธน.

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หารือคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2557 (ที่มา: เฟซบุ๊ค Abhisit Vejjajiva)

อภิสิทธิ์หารือ กกต. แต่ยังไม่ตอบว่ารอบหน้าจะลงเลือกตั้งหรือไม่

29 เม.ย. 2557 - ตามที่อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เผยแพร่คำแถลง "อภิสิทธิ์เดินหน้าหาคำตอบให้ประเทศ" พร้อมเสนอให้พาประเทศไปสู่การปฏิรูปและเป็นการปฏิรูปภายใต้รัฐธรรมนูญ ตามหลักการประชาธิปไตย มีกระบวนการเลือกตั้งที่ทุกฝ่ายยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิรูป และระบุว่าจะนำเสนอแนวคิดต่อฝ่ายต่างๆ รวมทั้งพรรครัฐบาล พรรคการเมือง และผู้ชุมนุมทุกฝ่ายนั้น (อ่านข่าวก่อนหน้านี้) 

ล่าสุด วันนี้ (29 เม.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยนายชำนิ ศักดิเศรษฐ รองหัวหน้าพรรคและคณะ ได้เข้าหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. โดยจะเสนอทางออกประเทศ การทำให้สถานการณ์บ้านเมืองคลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ตามรายงานของสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย ระบุว่า กกต.ทั้ง 5 คน เข้าร่วมหารือด้วย

ทั้งนี้นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. กล่าวก่อนเข้าหารือว่า กกต. พร้อมรับฟังความเห็นทุกฝ่ายและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความพยายาม เสนอหาทางออกให้ประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องดี ส่งผลให้บรรยากาศการเลือกตั้งเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ขอให้ทุกฝ่ายให้โอกาสต่อการแสดงท่าทีของหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ควรตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์ อย่างไรก็ตาม ต้องดูผลการหารือว่ามีการข้อเสนอใดบ้าง ซึ่ง กกต.จะพิจารณาอีกครั้ง

ทั้งนี้ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานด้วยว่า ก่อนการหารือกับนายอภิสิทธิ์ นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยว่า กกต.หวังที่จะสามารถกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนได้ทันที ในการหารือกับนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ แม้จะมีความเห็นที่ยังแตกต่างกันอยู่ก็ตาม แต่เชื่อว่าน่าจะหารือกันได้ลงตัว ส่วนเรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยก็ได้ประสานฝ่ายความมั่นคงมาดูแลระหว่างการหารืออย่างเต็มที่แล้วเช่นกัน

พร้อมกันนี้ เลขาฯ กกต.ยังกล่าวด้วยว่า ในการหารือกับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในวันนี้ กกต.จะร่วมหารือครบทั้ง 5 คน แต่เรื่องประเด็นนั้นขึ้นอยู่กับทาง นายอภิสิทธิ์ แต่เชื่อว่า การหารือ ถือเป็นกระบวนการเริ่มต้นที่ดีในการร่วมกันหาทางออกปัญหาของประเทศ

นายภุชงค์ ยังเปิดเผยว่า ในวันนี้ จะสามารถดำเนินการรับรองคุณสมบัติของ ส.ว.อีก 15 จังหวัด ให้เป็นไปตามกรอบของกฎหมายภายใน 30 วันได้อย่างแน่นอน โดยจะรับรองไปก่อน และจะพิจารณาย้อนหลังตามกฎหมายที่กำหนดให้สอบสวนเอาผิดในข้อร้องเรียนต่างๆ ให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปี ซึ่ง กกต.จะไม่ยอมปล่อยให้เวลายืดเยื้อถึง 1 ปีอย่างแน่นอน และคาดว่า ถ้าหากมีสำนวนร้องเรียนใด เป็นใบเหลือง หรือ ใบแดง จะสามารถส่งฟ้องศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งได้ทันทีภายใน 3 เดือน

ต่อมาภายหลังการหารือ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย รายงานว่า นายอภิสิทธิ์ ได้เปิดเผยผลการหารือว่าได้เสนอการปฏิรูป แนวทางหาคำตอบให้การเลือกตั้งประสบความสำเร็จ สิ่งที่เห็นตรงกันคือ บรรยากาศขณะนี้ทำให้การเลือกตั้งสำเร็จได้ยาก แม้ กกต.มั่นใจว่าจะจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ โดยไม่เป็นโมฆะจากสาเหตุเดิม แต่ไม่ยืนยันว่า หลังการเลือกตั้ง จะสามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้หรือไม่ ซึ่ง กกต.จะนำสิ่งที่ได้จากการหารือไปเรียนให้รัฐบาลทราบในการหารือระหว่าง กกต.กับรัฐบาลวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.)

ส่วนกลุ่ม กปปส. แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับตนเอง ขอให้ กปปส.อย่าเพิ่งปฏิเสธ เพราะสุดท้ายข้อเสนอของตนก็คือการปฏิรูปตามรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับฝ่ายต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องปิดหรือจำกัดทางเลือกของประเทศ

ด้านนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกรร กกต.กล่าวว่า การพูดคุยครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ไม่ได้พูดคุยว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า พรรคประชาธิปัตย์จะลงรับสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่

กองทัพไทยเผยผลหารืออภิสิทธิ์ ยืนยันกองทัพยึดหลักการเมืองแก้ด้วยการเมือง และยึด รธน.

อนึ่ง กองประชาสัมพันธ์ กองทัพไทย ได้เผยแพร่สาระสำคัญของการหารือระหว่าง พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมากร ผบ.ทท. และนายอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ บก.สส. มีรายละเอียดตามใบแถลงข่าวดังนี้

"1. ทั้งสองได้แสดงความห่วงใยในสถานการณ์ปัจจุบันซึ่งมีความขัดแย้งสูง และมีความเปราะบาง สมควรที่ทุกฝ่ายได้ร่วมกันช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหา

2. นายอภิสิทธิ์ฯ ได้ชี้แจงถึงสถานการณ์และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์กับผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะผู้รับผิดชอบหน่วยงานด้านความมั่นคงหน่วยหนึ่ง โดยได้แสดงเจตนาในการเดินทางไปพบปะกลุ่มต่างๆ เพื่อชี้แจงและเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นไปตามกรอบแนวทางรัฐธรรมนูญและกฎหมาย

3. ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเห็นด้วยกับแนวทางที่นายอภิสิทธิ์ฯ จะเดินทางไปพบปะกับกลุ่มต่างๆ เพื่อเสนอแนวคิดในการแก้ไขปัญหาทางด้านการเมือง สำหรับกองทัพเห็นว่าปัญหาทางด้านการเมืองควรแก้ไขด้วยแนวทางการเมือง กองทัพได้แสดงจุดยืนในการปฏิบัติตามหน้าที่ความรับผิดชอบยึดมั่นในรัฐธรรมนูญกฎหมายข้อบังคับเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ"