กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่คอนสาร ติดป้ายโปสเตอร์สีแดง “ต้านรัฐประหาร สนับสนุนการเลือกตั้ง รวมพลังขับไล่กบฏสุเทพ” บนสะพานลอย หวังผู้สัญจรตามท้องถนนทั้งฝั่งที่มาจากขอนแก่นและเพชรบูรณ์ได้เห็นถึงเจตนารมณ์

 

 

12 ม.ค.2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค.2557 ประมาณ 07.00 น. บริเวณ 4 แยกคอนสาร อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งได้ขึ้นไปแขวนป้ายแผ่นโปสเตอร์สีแดงขนาดใหญ่ บนสะพานลอยข้ามแยก โดยป้ายดังกล่าวระบุข้อความว่า “ต้านรัฐประหาร สนับสนุนการเลือกตั้ง รวมพลังขับไล่กบฏสุเทพ” เพื่อให้ผู้สัญจรตามท้องถนน ทั้งฝั่งที่มาจากขอนแก่นและเพชรบูรณ์ได้เห็นถึงเจตนารมณ์

 

ผู้สื่อข่าวสอบถาม ได้ความว่า จากการชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้สร้างความปั่นป่วนต่อบ้านเมือง ทำให้เกิดความแตกแยกทุกจุดทั่วประเทศ ทำให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาฯ เพราะไม่ต้องการให้ประเทศและคนไทยต้องเกิดความสูญเสียอีก เพื่อคืนอำนาจให้กับประชาชน เลือกตั้งใหม่ และได้มีการกำหนดวันเลือกตั้งตามแนวทางประชาธิปไตย ในวันที่ 2 ก.พ.57 นี้ อย่างไรก็ตาม แม้จะยุบสภาไปแล้ว แต่กลุ่ม กปปส.ยังชุมนุมขัดขวาง ไม่ให้คณะรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ต่อไป รวมทั้งไม่พอใจที่ยิ่งลักษณ์ยังอยู่ในรักษาการณ์นายกรัฐมนตรีอีก

 

“สุเทพทำอย่างนี้ถูกต้องตามระบอบประชาธิปไตยหรือไม่ ทั้งยังจะไม่ให้เกิดการเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.นี้อีก สุเทพถือว่าเป็นกบฏของแผ่นดิน ดังที่ถูกหมายจับ พวกเราทนพฤติกรรมป่าเถื่อนของสุเทพไม่ได้ หากยังมีการชุมนุมเล่นเกมสกปรกนอกระบบรัฐสภาแบบนี้ บ้านเมืองเกิดความพินาศแน่นอน ดังนั้นพวกเราจึงร่วมกันมาติดป้าย เพื่อให้ผู้สัญจรไปมาได้พบเห็น และเข้าใจในเจตนารมณ์ของประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตยว่า ไม่อยากเห็นการนองเลือด ไม่ต้องการให้เกิดการมีรัฐประการ และพร้อมที่จะสนับสนุนการเลือกตั้ง และจะรวมพลังกันขับไล่กบฏสุเทพที่สร้างความปั่นป่วน ที่จะมาทำให้บ้านเมืองเกิดความแตกแยก” ตัวแทนชาวบ้านกล่าว

 

ชาวบ้านซึ่งอยู่ในพื้นที่ อ.คอนสาร แสดงความเห็นต่อการถอยของรัฐบาลด้วยว่า พวกเราเห็นว่า นายกฯ ทำถูกต้องแล้วสมเป็นผู้นำการบริหารประเทศ เสียสละ ยอมหยุด แต่ไม่ยอมให้เกิดการสูญเสียเลือดเนื้อและชีวิตของประชาชน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งและความรุนแรงตามมาอีก เหมือนคราวล่าสุด เมื่อปี 2553 ในสมัยรัฐบาลที่นำโดยอภิสิทธิ์และสุเทพที่เกิดการปราบปรามต่อผู้ชุมนุมที่เรียกร้องประชาธิปไตย มีการยิงด้วยอาวุธจริง ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตกว่า 100 ศพ บาดเจ็บ พิการ อีกกว่าหลายพันคน ขณะที่รัฐบาลนี้ใช้เพียงแก๊สน้ำตายิงสกัดกั้นผู้ชุมนุมที่ใช้วิธีการป่าเถื่อนนอกรัฐสภา ถือได้ว่ารัฐบาลทำดีที่สุดแล้วที่จะไม่ให้เกิดความสูญเสียมากกว่านี้