เครือข่ายภาคประชาชน นัดประชุมแกนนำทั่วประเทศ 27 ต.ค.นี้ กำหนดท่าทีชุมนุมใหญ่ค้านกฎหมายนิรโทษกรรม ย้ำช่วยพ.ต.ท.ทักษิณ ทำลายหลักนิติธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตย เอแบคโพลล์เผย ปชช. 80.3% คิดว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นต้นเหตุความขัดแย้ง รุนแรง บานปลาย

(20 ต.ค.56) สำนักข่าวไทยรานงานว่าวันนี้ (20 ต.ค.) ที่โรงแรมสยามซิตี้ สุโกศล นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน พร้อมด้วยนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และนายนิติธร ล้ำเหลือ ที่ปรึกษากลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชน และเครือข่ายจากกลุ่มต่างๆ แถลงข่าวในนามของเครือข่ายภาคประชาชน กรณี "คัดค้านกฏหมายล้างผิดทักษิณจับตาศาลโลกคดีปราสาทพระวิหาร"

นายสุริยะใส กล่าวว่า ที่ประชุมมีมตินัดประชุมใหญ่เครือข่ายต่างๆทั่วประเทศในวันที่ 27 ตุลาคม ในเวลา 9.00 น. เพื่อกำหนดแนวทางการเคลื่อนไหว และประเด็นในการต่อต้านกฏหมายนิรโทษกรรมที่มองว่าช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำเสื้อแดง เป็นการทำลายหลักนิติธรรม ซึ่งไม่เป็นประชาธิปไตย และก้าวล่วงการทำงานของอำนาจตุลาการ ตลอดจนกรณีศาลโลกจะมีคำตัดสินคดีประสาทพระวิหาร โดยยืนยันถึงการปกป้องอธิปไตยซึ่งหากคำตัดสินเป็นไปในทางลบจนทำให้ไทยต้องเสียอธิปไตยนั้น รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ และเครือข่ายจะออกมาเคลื่อนไหวให้ถึงที่สุด

“วันดังกล่าวที่ประชุมจะพิจารณากำหนดวันนัดชุมนุมใหญ่และจะตั้งองค์กรใหม่ขึ้นมาเคลื่อนไหวหรือไม่ ทั้งนี้ยังไม่ได้แจ้งสถานที่ในการประชุมอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเกรงว่าจะมีการแทรกแซงและการบังคับใช้กฏหมายของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ในวันอังคารที่ 22 ต.ค.นี้จะเดินสายยื่นหนังสือต่อสถานทูตต่างๆประจำประเทศไทย อาทิ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อังกฤษเพื่อให้เข้าใจจุดยืนของคนไทยต่อกรณีปราสาทพระวิหาร”นายสุริยะใส กล่าว

เอแบคโพลล์เผย ปชช. 80.3% คิดว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เป็นต้นเหตุความขัดแย้ง รุนแรง บานปลาย

ด้านมติชนออนไลน์รายงานว่าสำนักวิจัยเอแบคโพลล์  เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง "ประชาธิปไตย อำนาจของประชาชนหรือนักการเมือง" ในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดหัวเมืองใหญ่ พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 70.1 กังวลว่าสถานการณ์ทางการเมืองในอีก 1 เดือนข้างหน้า จะรุนแรงขึ้น ขณะที่ร้อยละ 29.9 ระบุ ไม่กังวล

นอกจากนี้ ผลการสำรวจยังพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ 80.3 คิดว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งรุนแรง บานปลาย หากยังคงเดินหน้าต่อไปภายใต้ความขัดแย้ง มีเพียงร้อยละ 19.7 เท่านั้น ที่ไม่คิดว่าจะเป็นต้นเหตุแห่งความขัดแย้งบานปลาย


ที่มาข่าว: สำนักข่าวไทย, มติชนออนไลน์