ปัญหาทางการเมืองที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผลผลิตทางการเกษตรของไทยในขณะนี้หนีเรื่องข้าวไปไม่พ้น การที่ฝ่ายหนึ่งมีนโยบายในการจัดการเพื่อให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับค่าราคาที่สูงขึ้นจนสามารถเลี้ยงตนเองได้ตามที่ได้แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภาและได้รับความยินยอมสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาแล้ว แต่กลับไม่ได้รับการยอมรับจากอีกฝ่ายหนึ่ง ด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ คัดค้านนโยบายนี้นอกรัฐสภากล่าวหาว่าการจัดการเรื่องข้าวของรัฐบาลได้ดำเนินการไปโดยไม่ถูกต้องจนมีข้าวเน่ามีข้าวที่ปนเปื้อนสารมีพิษมีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวนี้ เป็นต้น
การกล่าวหาในทางร้าย มุมมองในระบอบประชาธิปไตยที่แอบอ้างกันว่าเป็นสิทธิในการพูดวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลที่แม้ประชาชนทุกคนก็สามารถกระทำได้ หากการกระทำในการกล่าวหานั้นก่อประโยชน์ต่อประชาชนโดยรวม แต่การกล่าวหาร้ายๆ ดังที่ยกมาเป็นตัวอย่างนั้นจำเป็นต้องมีหลักการพื้นฐานในการตรวจสอบมารองรับว่าข้าวมันเน่าทั้งหมดทั้งหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นหรือไม่ ข้าวมันไม่มีความปลอดภัยจากสารพิษปนเปื้อนทั้งหมดหรือไม่ และมีการทุจริตเรื่องข้าวจริงหรือไม่
ความจริงแล้วข้าวไม่ได้เน่าทั้งหมด ไม่ได้มีสารพิษปนเปื้อนทั้งหมดหรืออาจไม่ได้มีสารพิษตกค้างเลยก็ได้ การกล่าวหาในทางร้ายตามที่ยกตัวอย่างมาจึงเป็นการทำลายตลาดข้าวทั้งระบบของประเทศไทยให้เกิดความเสียหายขาดความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคทั้งโลกขัดต่อหลักการในทางกฎหมายที่คุ้มครองประโยชน์ของผู้บริโภค ที่หากมีข้าวเน่าจริง ผู้ประกอบธุรกิจก็ต้องรับผิดชอบในการชดเชยเปลี่ยนแปลงให้กับผู้บริโภค และกรณีการนำส่งสินค้าข้าวไปขายยังต่างประเทศ คณะกรรมการตรวจสอบคุณภาพข้าวจากทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย ก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบจนเป็นที่พอใจก่อนการส่งมอบกันอยู่แล้ว กับทั้งหลักกฎหมายความรับผิดเพื่อความชำรุดบกพร่องในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ก็ยังคุ้มครองประโยชน์ของผู้ซื้อในการชดเชยความเสียหาย เมื่อพบความชำรุดบกพร่องหรือเสื่อมราคาในสินค้า
หากมีข้อสงสัยว่าข้าวไม่ปลอดภัยจากสารพิษปนเปื้อน คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ก็มีอำนาจสั่งให้ผู้ประกอบธุรกิจดำเนินการทดสอบหรือพิสูจน์สินค้านั้นได้ ซึ่งถ้าพบว่ามีอันตราย คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคก็มีอำนาจสั่งห้ามจำหน่ายสินค้านั้นได้หรือสั่งให้ดำเนินการให้เกิดความปลอดภัย อันเป็นวิธีการคุ้มครองประโยชน์ของทุกฝ่ายให้ได้รับความเป็นธรรม
นอกจากนั้นแล้วกฎหมายคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ พ.ศ. 2551 ได้กำหนดให้มีคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ ทำหน้าที่ในการกำกับดูแลให้เกิดความปลอดภัยทางด้านอาหารซึ่งหมายความรวมไปถึงการจัดการให้สินค้าเกษตรที่นำมาเป็นอาหารบริโภคสำหรับมนุษย์มีความปลอดภัยด้วย
องค์กรกำกับเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และมีความปลอดภัยในสินค้าอาหารต่อประชาชน ที่มีอย่างครบถ้วนตามกฎหมายนั้น ไม่ได้มีการนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามเจตนารมณ์แต่อย่างใดเลย น่าเสียดายและน่าเสียใจเป็นอย่างยิ่ง ที่การแก้ไขปัญหาของเกษตรกรผู้ผลิตเพื่อให้ได้รับราคาที่เป็นธรรมและการคุ้มครองผู้บริโภคกรณีข้าวได้ถูกใช้วิธีการทางการเมืองในการกล่าวหาทำลายเครดิตความเชื่อมั่นจนกระทั่งข้าวของไทยได้รับผลกระทบเกิดความเสียหายทั้งระบบ และจะต้องใช้เวลาและ งบประมาณอีกสักเพียงใดจึงจะสามารถฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้ข้าวไทยกลับมาเป็นสินค้ายอดนิยมของตลาดโลกเหมือนเดิม....
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)