Skip to main content
sharethis

เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ยันพรรคไม่ได้บริหารโดยคนเดียว ไม่ปฏิเสธว่า 'ทักษิณ' และ บ้านเลขที่ 111 ช่วยคิด พยายามเชื่อม ปชช.ทำให้นโยบายไม่ใช่การนั่งฝัน ชี้ รธน.50 เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยประเทศไทย

ภาพจากเว็บไซต์พรรคเพื่อไทย

“กาแฟปฏิรูป” ถ้วยที่ 2 แล้ว กับ บก.ลายจุด หรือ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ โดยในวันนี้(12 มิ.ย.56) ได้มีการพูดคุยกันที่ห้องสมุดทักษิณ ชินวัตร พรรคเพื่อไทย อาคารโอเอไอ กับนายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ในประเด็นแนวทางการปฏิรูปพรรคการเมือง ให้มีความเป็นประชาธิปไตย

นายภูมิธรรม เริ่มต้นด้วยการกล่าวให้กำลังใจนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สามารถปฏิรูปพรรคได้ประสบความสำเร็จ แม้จะทำให้พรรคเพื่อไทยแข่งขันได้ยาก แต่ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่โดยรวมประชาธิปไตย ประเทศไทยจะได้ประโยชน์ พร้อมทั้งจะเป็นสิ่งที่ทำให้พรรคเพื่อไทยต้องเร่งพัฒนาตัวเองมากขึ้นด้วย

“พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคของพี่น้องประชาชน ดังนั้นต้องอยู่ในสายตาที่จะได้รับการตรวจสอบอยู่แล้ว จึงยินดีที่จะพูดและเผยแพร่แนวความคิดของเราในเรื่องของการมองพรรคการเมืองในฐานะตัวเราเอง” เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าว

เขากล่าวว่า หากจะพูดเรื่องพรรคเพื่อไทย ต้องพูดถึงปมปัญหาของระบบพรรคการเมืองที่เป็นปมปัญหาในปัจจุบันด้วย เพราะฉะนั้นถ้าจะพูดถึงการปฏิรูปพรรคนั้น ก่อนอื่นต้องพูดถึงบรรยากาศและสภาพทางการเมืองในประเทศไทยด้วยว่าประเทศไทยเรามีปัญหาอุปสรรคที่ทั้งโครงสร้างและกลไกต่างๆ ขัดขวางความเป็นประชาธิปไตยและพรรคการเมืองอยู่

“รัฐธรรมนูญปี 50 เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประชาธิปไตยประเทศไทย กฎหมายพรรคการเมืองปัจจุบัน เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของพรรคการเมือง ทำให้พรรคการเมืองเกิดและเติบโตได้ยาก ดังนั้นถ้าไม่จัดการหรือทำความเข้าใจในปัญหา 2 เรื่องนี้ และประชาชนไม่ออกมาทำให้บรรยากาศของความเป็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นได้จริง การจะบีบคั้นหรือกดดันให้พรรคการเมืองพัฒนาเป็นพรรคการเมืองที่ดีในระบอบประชาธิปไตยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย” นายภูมิธรรม กล่าว

เขากล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเติมโตมา 3-4 ปี แต่ถ้าพูดจากความเป็นจริงว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันทำงานต่อเนื่องมาก็ไม่ต่ำกว่า 15 ปี ใน 15 ปีมานี้เราถูกยุบพรรคไป 2 ครั้ง และบุคลากรที่เป็นแกนนำในพรรคถูกตัดสินไป 2 รอบแล้ว นี่คือปัญหาสำคัญซึ่งทำให้คนที่มีความรู้ความสามารถไม่กล้าเข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค

“วันนี้เราจึงต้องอยู่รอดให้ได้ภายใต้ประชาธิปไตยที่พิกลพิการ ที่กลไกในการขัดขวางระบอบประชาธิปไตยยังทำหน้าที่อยู่ และคอยขัดขวางไม่ให้บุคลากรของเราได้ทำงานอย่างเต็มที่ ดังนั้นเราต้องพูดถึงบรรยากาศที่เป็นจริงของประเทศไทยมันถึงจะพูดได้ว่าเราจะแก้ปัญหาประเทศ” นายภูมิธรรม กล่าว

ภาพจากเว็บไซต์พรรคเพื่อไทย

“ผมถูกตัดสิทธิไป 5-6 ปี เป็นเรื่องที่ในโลกประชาธิปไตยที่ทันสมัยเขาไม่ทำกัน การตัดสิทธิทางการเมืองเป็นการตัดสิทธิพลเมือง มันติดตัวผมมา คุณเก็บภาษีเอาภาษีผมไปจ่ายทุกอย่าง ถึงเวลาเลือกกำนันผู้ใหญ่บ้านยังเลือกไม่ได้ ต้องทำตัวสงบแนบนิ่งอยู่ในพื้นที่อันจำกัด นี่เป็นเรื่องจากความเป็นจริงที่จะต้องพูดกัน เพราะฉะนั้นเรื่องแรกเลยถ้าอยากพัฒนาพรรคการเมืองคุณต้องปลดกติกาให้มีความเป็นประชาธิปไตยให้มากขึ้น ให้มีกฎหมายพรรคการเมืองที่เอื้อ” นายภูมิธรรม กล่าว

เขากล่าวด้วยว่า วันนี้มันมีอุดมการณ์ 2 อุดมการณ์ที่สู้กัน อุดมการณ์ประชาธิปไตยที่ต้องการการมีส่วนร่วมของประชาชน กับอุดมการณ์อนุรักษ์นิยมที่ต้องการเห็นโครงสร้างอำนาจแบบดั้งเดิมและยังคงอยู่ หรือบางทีพูดสวยหรูว่าเป็นประชาธิปไตยภายใต้คนดี ประชาธิปไตยที่ต้องการการชี้นำ ซึ่งก็ต้องให้สังคมได้ถกเถียงกันให้ชัดเจนว่าเราต้องการประชาธิปไตยแบบไหนกันแน่

กรณีหน้ากากขาวออกมาเคลื่อนไหวนั้นคิดว่าเป็นสิทธิที่จะออกมาเคลื่อนได้อย่างเต็มที่ แต่ยังไม่ทันเปิดหน้ากากก็บอกว่าเชิญทหารมารัฐประหารนั้น คิดว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้

เรื่องไพรมารี่โหวตนั้น เลขาธิการพรรคเพื่อไทยกล่าวว่าตนคิดมาก่อนที่อลงกรณ์จะเสนอในการปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ แต่ด้วยบริบทการเมืองที่ผ่านมาทำให้ไม่สามารถทำได้ ดังนั้นด้วยกลไกของพรรคการเมืองไทยที่เป็นอยู่มันจึงไม่สามารถพัฒนาให้เป็นพรรคมหาชนได้ง่ายๆ

สำหรับเรื่องโครงสร้างของพรรคเพื่อไทยเองนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยไม่ได้บริหารโดยคนเดียว หรือกลุ่มเดียวอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่เน้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม แสดงความเห็นและประสบการณ์ โดยไม่ปฏิเสธว่า มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตคนบ้านเลขที่ 111 มาช่วยคิดและจัดการ มีคณะกรรมการบริหารพรรค รวมถึงมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ที่รวบรวมผู้มีประสบการณ์ทางการเมืองมาช่วยมองทิศทาง มีคณะกรรมการประสานภารกิจกับหัวหน้าโซน 19 โซนทั่วประเทศ เพื่อให้การบริหารจัดการ การกระจายทรัพยากรมีประสิทธิภาพ และเพื่อไปทำความเข้าใจกับ ส.ส.ในการประสานกับประชาชน พร้อมกับสะท้อนสิ่งที่ประชาชนต้องการกลับมา และมีการประชุมกันเป็นประจำในหลายระดับเหล่านี้ โดยทั้งหมดจะถูกถ่ายทอดในที่ประชุม ส.ส. ซึ่งก็วิพากษ์วิจารณ์กันได้ปกติ ไม่เคยตื่นเต้นที่มีข่าวว่าที่ประชุมส.ส.แตก ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา

ภาพจากเว็บไซต์พรรคเพื่อไทย

เขากล่าวต่อว่า หากจะดูกลไกของประชาชนสมาชิกพรรค สมัยเป็นไทยรักไทย เราเป็นพรรคการเมืองที่พบประชาชนมากที่สุด แทบทุกสัปดาห์ แต่เมื่อยุบพรรค ตัดสิทธิเราไป ถึงวันนี้จากสมาชิก 15 ล้าน เหลือ 30,000 แต่ก็ตัดได้เฉพาะในทางนิตินัยแต่จิตวิญญาณไม่ได้หายไป ตอนนี้กำลังฟื้นให้ทุกคนทำสมาชิกซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีกฎเกณฑ์ที่ยุ่งยากไม่เอื้ออำนวย จึงจัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาอีกหน่วยคือ อาสาสมัครพัฒนาประชาธิปไตย ไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของพรรคการเมือง คุยกับประชาชนโดยไม่ต้องมีบัตรสมาชิกพรรค แล้วทำงานคู่ขนานกัน

“วันนี้พอปิดสมัยประชุมสภา ถ้าเป็นพรรคการเมืองแบบไม่ปฏิรูป ทุกคนก็หยุด แต่เราเสนอไปที่ว่า ผู้แทนราษฎรมีหน้าที่ลงไปหาประชาชนเพื่อทำความเข้าใจ ผมจัดรายการพรรคเพื่อไทยพบประชาชนเพื่ออนาคตประเทศไทย เป็นการรายงานประชาชนว่าสมัยอยู่ในสภาทำอะไรไปแล้วบ้าง กำลังจะทำอะไรอีกบ้างและฟังความเห็นของประชาชน อีสานจัดไปแล้ว 4 ครั้ง ภาคเหนือจัดที่เชียงรายเชียงใหม่...นี่คือการทำงานที่พยายามเชื่อมต่อประชาชน ถ้าเราทำให้กลไกของประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม แม้กลไกทางโรงสร้างไม่เปิดโอกาสให้ร่วมได้ด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายพรรคการเมือง ”

ภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า เร็วๆ นี้ จะพูดคุยกับกลุ่มสตรี เยาวชน ผู้สูงอายุ เพื่อรับฟังความคิด นำข้อมูลมาจัดทำเป็นนโยบาย สะท้อนให้เห็นว่า พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่นั่งฝันออกมาเป็นนโยบาย แต่เป็นนโยบายที่มาจากฐานรากโดยตรง รวมถึงยังมีแนวคิดเชิญกลุ่มที่มีความเห็นไม่ตรงกับรัฐบาลเช่น กลุ่มแพทย์ชนบท กลุ่มพีมูฟมาหารือแก้ปัญหา เพื่อลดการเผชิญหน้า เป็นการช่วยงานรัฐบาลอีกทางหนึ่ง อย่างไรก็ตามยอมรับว่า พรรคมีจุดอ่อนเรื่องการประชาสัมพันธ์ในสื่อสมัยใหม่ที่ต้องพัฒนาต่อไป

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net