Skip to main content
sharethis

กรรมการปฏิรูปกฎหมาย เผย คปก.พิจารณาร่าง พ.ร.บ.การกีฬาฯ ฉบับ ครม. พบให้อำนาจนายทะเบียนกว้างเกินไป แทรกแซงการทำงานของสมาคมกีฬาต่างๆ ได้ แนะบทกำหนดโทษไม่ควรให้เป็นความผิดอาญาที่มีโทษจำคุก ให้เป็นความผิดฝ่าฝืนระเบียบแทน

 
 
วันที่ 21 มี.ค.56 นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ กรรมการปฏิรูปกฎหมาย เปิดเผยว่า นายคณิต ณ นครประธานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ได้ลงนามในหนังสือบันทึกความเห็นและข้อเสนอแนะคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายเรื่อง ร่างพระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. ... เสนอต่อนายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภา ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน และประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การกีฬาฯ โดยสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อพิจารณา
 
นายสุขุมพงศ์ กล่าวว่า คปก. ได้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.การกีฬาฯ ฉบับที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีแล้ว เห็นว่า ร่าง พ.ร.บ.นี้ระบุบทกำหนดโทษทางอาญาไว้ 2 ประเภทคือ จำคุกและปรับ เมื่อพิจารณาการกระทำว่าการกระทำให้เหมาะสมเป็นความผิดอาญาหรือไม่แล้ว เห็นว่า บทกำหนดโทษในร่าง พ.ร.บ.นี้ ไม่ควรให้เป็นความผิดทางอาญาที่มีโทษจำคุก แต่อย่างไรเสียแต่ก็ควรมีสภาพบังคับ โดยอาจกำหนดให้เป็นความผิดที่ฝ่าฝืนระเบียบแทน และถือว่าการกระทำที่ฝ่าฝืนระเบียบนี้เป็นความผิดในทางปกครอง โดยอาจกำหนดมาตรการบังคับการปกครองแทนก็ได้
 
นอกจากนี้ ในมาตรา 14 ยังกำหนดให้ผู้แทนคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย เป็นกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยด้วย แต่ไม่มีที่ใดในร่าง พ.ร.บ.นี้รับรองสถานภาพของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยไว้ จึงเห็นควรให้รับรองสถานภาพของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยไว้ในร่าง พ.ร.บ.โดยอาจกำหนดให้เป็นนิติบุคคลชนิดพิเศษ หรือกำหนดให้เป็นสมาคมกีฬาประเภทหนึ่งก็ได้
 
“ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ให้อำนาจนายทะเบียนกว้างเกินไป อาทิ มีอำนาจสั่งให้งดการประชุมได้หากสมาคมกีฬาไม่แจ้งวันประชุม มีอำนาจในการร้องขอต่อศาลเพื่อเพิกถอนมติได้ มีอำนาจสั่งให้คณะกรรมการกีฬาพ้นไปจากตำแหน่ง เป็นต้น ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจว่ารัฐ (โดยนายทะเบียน) สามารถแทรกแซงการทำงานของสมาคมกีฬาต่างๆ ได้ ด้านกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งหากมีการจัดตั้งกองทุนนี้จะมีแหล่งเงินทุนเข้ามาไม่ต่ำกว่าหนึ่งพันล้านบาท คปก.จึงเห็นควรกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการจัดสรรเงินของกองทุนไว้อย่างชัดเจน และประกาศเกี่ยวการจัดสรรเงินผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ให้ประชาชนทราบ” นายสุขุมพงศ์ กล่าว
 
นายสุขุมพงศ์ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม คปก.เห็นว่า การสนับสนุนการกีฬาเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการส่งเสริมการรักษาสุขภาพของประชาชน ควรให้ภาคประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใกล้ชิดกับประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมในการส่งเสริมและการสนับสนุนการกีฬาให้มากกว่านี้ โดยเฉพาะในระดับจังหวัดและท้องถิ่น ซึ่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะสามารถสร้างความเข้าใจ และตอบสนองความประสงค์ของประชาชนในท้องถิ่นได้ตรงเป้าหมายรวมทั้ง ต้องให้ภาคประชาชนในท้องถิ่นนั้นๆ เข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการกีฬาด้วย เพื่อให้การกีฬาของประเทศไทยมีประสิทธิภาพมากที่สุด
 
นอกจากนี้ ยังเห็นควรกำหนดหลักเกณฑ์ให้มีการส่งเสริมนักกีฬาอาชีพและสมาคมกีฬาอาชีพ ให้เกิดความร่วมมือในการส่งนักกีฬาอาชีพของตนเข้าร่วมในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติในนามของประเทศ และด้านการบริหารงานควรส่งเสริมและสนับสนุนความเสมอภาคระหว่างเพศ ในการกำหนดสัดส่วนองค์ประกอบของคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทยด้วย
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net