Skip to main content
sharethis

เครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตยร้องเพื่อไทยปลดโฆษกประธานรัฐสภาหลังแสดงความเห็นค้านนิรโทษกรรมมวลชนทุกฝ่าย ชี้เมื่อประชาชนเสนอความเห็นต้องรับฟังตามกระบวนการก่อน เจ้าตัวแถลงช่วยเหลือทุกอย่าง ไม่ทราบไปขัดใจในเรื่องอะไร

22 ม.ค. 56 – เวลา 11.00 น. บริเวณหน้าที่ทำการใหญ่พรรคเพื่อไทย ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตยและแนวร่วมเสื้อแดง ประมาณ 20 คน นำโดยนางสาวจิตรา คชเดช ชุมนุมเพื่อยื่นหนังสือประท้วงพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ปลดนายวัฒนา เซ่งไพเราะ ออกจากตำแหน่งโฆษกประธานรัฐสภา หลังออกมาแสดงความเห็นค้านการนิรโทษกรรมประชาชนระดับมวลชนทุกฝ่าย ที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เสนอ พ.ร.ก. นิรโทษกรรม สำหรับผู้ชุมนุมทางการเมืองตั้งแต่ ปี 50 – 54 โดยนายวัฒนาชี้ว่าขัดหลักการกฎหมาย

เครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมเพื่อประชาธิปไตย มองว่า พฤติกรรมของนายวัฒนา การแสดงออกซึ่งมีแนวคิดทรยศต่อประชาชนและบิดเบือนแนวทางคืนความเป็นธรรมให้กับประชาชนของพรรคเพื่อไทย สร้างความเสียหายและเสื่อมเสียต่อมวลชนที่ไว้วางใจการแก้ปัญหาด้านความอยุติธรรมที่เป็นพันธกิจของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก หากปล่อยให้เหตุการณ์เช่นนี้ผ่านเลยไป เกรงว่าจะสร้างความเกลียดชังของมวลชนเสื้อแดงต่อพรรคเพื่อไทยมากเข้าไปอีก และพฤติกรรมในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองลักษณะแบบนี้มีหลายครั้งและไม่เป็นที่พอใจของประชาชนที่เป็นฐานเสียงของพรรคบ่อยครั้ง

โดยเครือข่ายนักกิจกรรมฯ ยังเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยหาบุคคลที่มีความเหมาะสมมาดำรงตำแหน่งนี้แทน รวมทั้งการแต่งตั้งบุคคลในตำแหน่งอื่นๆ นอกจากต้องคำนึกถึงคุณสมบัติแล้วยังต้องคำนึกถึงคนที่รักประชาธิปไตย ไม่ฝักใฝ่เผด็จการ โปร่งใสและมีทัศนะคติสอดคล้องกับนโยบายของพรรค พร้อมกำชับให้พรรคหมั่นตรวจสอบการทำงานของคนที่ถูกแต่งตั้งให้รับตำแหน่งทางการเมือง เพื่อจะได้คนที่ทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง

เวลาประมาณ 13.00 น. พรรคเพื่อไทยได้ส่งนายพิทักษ์ ธวัชชัยนันท์ หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมารับหนังสือ พร้อมรับปากจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาภายใน 7 วัน

นายพิทักษ์ ธวัชชัยนันท์ รับหนังสือ

นางสาวจิตรา คชเดช กล่าวชี้แจงด้วยว่า ผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเมื่อมีประชาชนรวมกันเสนอความคิดเห็น การที่มีตำแหน่งอย่างโฆษกประธานสภาก็ควรรับเรื่องไปพิจารณาตามกระบวนการก่อน ไม่ควรรีบออกมาแสดงความเห็นค้าน หากแสดงความเห็นในนามส่วนตัวก็จะไม่มีปัญหา แต่นี่เป็นการแสดงความเห็นในฐานะโฆษกประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ

นายนิธิวัต วรรณศิริ นักร้องนำวงไฟเย็น กล่าวเสริมด้วยว่า “ถ้าคุณวัฒนาพูดในเชิงส่วนตัว วันนี้เราก็จะไม่มี แต่ว่าคุณวัฒนาใช้ห้องของสภาผู้แทน ซึ่งคุณวัฒนาเป็นถึงโฆษกของประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ การบอกว่าคิดเร็วไปหน่อยแล้วออกมาพูดนั้น เป็นหลักการที่ผิด เพราะจะกลายเป็นการใช้ความคิดเห็นส่วนตัวโดยใช้ตำแหน่งโฆษกประมุขฝ่ายนิติบัญญัติได้ จึงขอให้ปรับปรุงแก่ไข”

สำหรับการทำกิจกรรมในครั้งนี้นางสาวจิตรา เปิดเผยว่าเป็นการนัดกันทางเฟซบุ๊ก และทางกลุ่มเตรียมมาทวงถามความคืบหน้าภายใน 7 วัน พร้อมย้ำด้วยว่าทางกลุ่มตนไม่ได้พูดถึงข้อเสนอการนิรโทษกรรมของทั้งทางคณะนิติราษฎร์หรือ นปช. แต่เราพูดถึงว่าคุณวัฒนา ไม่ควรออกมาคัดค้านการนำเสนอการนิรโทษกรรมหรือความคิดเห็นของประชาชนในส่วนต่างๆ เขาควรจะรับฟังการเสนอตามตำแหน่ง เพื่อให้เข้าสู่กลไกปกติของรัฐสภา

ทั้งนี้กรณีที่นายวัฒนา ค้านการนิรโทษกรรม แต่เสนอให้ใช้กระบวนการปกตินั้น นางสาวจิตรา แย้งว่าตั้งแต่รัฐประหารปี 49 กระบวนการยุติธรรมปกติมันมีปัญหาจนนำไปสู่ความขัดแย้งทางสังคมที่เรียกว่าระบบ 2 มาตรฐาน ดังนั้นเพื่อคานอำนาจของฝ่ายตุลาการหรือกระบวนการยุติธรรมก็คือการใช้การออกกฎหมายโดยรัฐสภา เช่น คนที่กระทำความผิดที่มีแรงจูงใจทางการเมืองก็สามารถนิรโทษกรรมได้ เป็นต้น

ภายหลังจากที่ผู้ชุมนุมยืนจดหมาย ดร.จารุพรรณ กุลดิลก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ได้แจ้งกับผู้ชุมนุมด้วยว่า ได้มีการแจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังนายวัฒนา เซ่งไพเราะ แล้ว ซึ่งนายวัฒนา ได้รับปากว่าจะออกมาแถลงขอโทษที่รัฐสภา บ่ายวันที่ 23 ม.ค.นี้ พร้อมแจ้งด้วยว่าก่อนหน้านี้ก็ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กของตัวเองแล้ว โดยผู้ชุมนุมได้กำชับกับ ดร.จารุพรรณ ด้วยว่าการชี้แจงหรือขอโทษต้องผ่านสื่อที่เท่าหรือเหมือนกับเมื่อตอนออกมาแสดงความเห็นคัดค้านด้วย

ภาพการชุมนุมบริเวณหน้าที่ทำการใหญ่พรรคเพื่อไทย 

ล่าสุดวันนี้ (23 ม.ค.) มติชนออนไลน์ รายงานว่า ที่ห้องแถลงข่าวรัฐสภา นายวัฒนา เซ่งไพเราะ โฆษกประจำตัวนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา แถลงข่าวชี้แจงกรณีถูกกลุ่มคนเสื้อแดง ในนามเครือข่ายนักกิจกรรมทางสังคมประชาธิปไตย ร้องเรียนให้ปลดออกจากตำแหน่งโฆษกประจำตัวของนายสมศักดิ์ เนื่องจากไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรมแก่ผู้ชุมนุมทางการเมืองและบิดเบือนแนวทางทางเป็นธรรมให้กับประชาชน ซึ่งนายวัฒนาชี้แจงว่า ได้ทำทุกอย่างในการช่วยเหลือและคอยประสานให้ทุกอย่าง โดยไม่ทราบว่าไปขัดใจในเรื่องอะไร 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net