สมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดงลุยเปิดสหกรณ์นำร่องอุดรฯ ตั้งเป้าเปิดทั่วประเทศ 15,000 หมู่บ้าน หวังเสริมพลังด้านเศรษฐกิจผ่านระบบสหกรณ์ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้ชุมชนสู้กับนายทุน

 

9 ส.ค. 55 - เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์รายงานว่านพ.ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ประธานที่ปรึกษาสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง เพื่อประชาธิปไตย แห่งประเทศไทย กล่าวว่า จะเดินหน้าเปิดสหกรณ์หมู่บ้านเสื้อแดงทั่วประเทศจำนวน 15,000 หมู่บ้าน โดยนำร่องแห่งแรกที่จ.อุดรธานี โดยกำหนดรูปแบบจดทะเบียนตามกฎหมายเป็นสหกรณ์ขนาดเล็กๆ มีชาวบ้านในหมู่บ้านนั้นดูแล ราคาหุ้นละ 10 บาท ชาวบ้าน 1 คนเท่ากับ 1 เสียง คนต่างหมู่บ้านซื้อหุ้นได้ แต่ไม่มีสิทธิออกเสียง เพื่อป้องกันการครอบงำของกลุ่มทุน และการเมือง โดยสหกรณ์แต่ละหมู่บ้าน จะมีชุมนุมสหกรณ์ใหญ่เป็นหลัก ดูแลสหกรณ์หมู่บ้านเสื้อแดงทั้งหมด และมีกรมส่งเสริมสหกรณ์ดูแล ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย    

 

ด้านนายอรรถชัย อนันตเมฆ กล่าวว่า ชาวบ้านได้ประโยชน์ไม่เท่าเทียมกัน มีสภาพจนกระจุก รวยกระจาย บ้านเสื้อแดงได้สร้างโอกาสทางสังคมแล้ว ต่อไปจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ ด้วยการผ่านระบบสหกรณ์ เพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้ชุมชนสู้กับนายทุน , เพื่อส่งเสริมชาวบ้านพึ่งพาตนเอง , และลดรายจ่ายเพิ่มรายได้ ด้วยระบบ “สหกรณ์เอนกประสงค์” ขนาดเล็กกระจายอยู่ทุกหมู่บ้าน แล้วทุกหมู่บ้านก็รวมกันเหมือน “พวงองุ่น” โดยจะนำร่องสหกรณ์ร้านค้าก่อน ที่จังหวัดแพร่ , พิษณุโลก , เชียงราย , สกลนคร , บึงกาฬ และอุดรธานี 

 

นายอรรถชัย กล่าวอีกว่า ที่มาเงินทุนสหกรณ์หมู่บ้านเสื้อแดง จะได้มาจาก 4 ช่องทาง ส่วนใหญ่ไม่ได้จากชาวบ้านซื้อหุ้น , จากรัฐบาลสนับสนุน ซึ่งเป็นนโยบายรัฐบาลนี้อยู่แล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน , จากการบริจาคโดยตรงกับสหกรณ์ฯ ไม่ผ่านสมาพันธ์ฯ และเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ จากทั้งในและนอกประเทศ ขณะนี้มีสหกรณ์ที่มีความเข้มแข็งแล้ว เสนอเงินทุนมามากกว่า 100 ล้านบาท โดยเริ่มจากสินค้าอุปกโภคบริโภคก่อน จะตามด้วยกระจายสินค้าของหมู่บ้าน สินค้าเกษตร และเรื่องการกู้ยืมดอกเบี้ยต่ำ

 

นายอานนท์ แสนน่าน เลขาสมาพันธ์หมู่บ้านเสื้อแดง  กล่าวว่า สหกรณ์หมู่บ้านเสื้อแดงมีความพร้อม สามารถดำเนินการได้ทันที แต่มาล่าช้าในเรื่องการปฏิบัติ 3 ขั้นตอนในการจดทะเบียนตามกฎหมาย บางแห่งก็เกิดติดขัดกันบ้าง คงจะมีความพยายามขัดขวาง มั่นใจว่าภายในเดือนส.ค.นี้  จะสามารถเปิดร้านค้าสหกรณ์รายแรกได้ และภายในเดือนเม.ย.ปีหน้า จะเปิดให้ได้ 15,000 หมู่บ้าน