สหภาพแรงงานในกรีซ อังกฤษ และโปรตุเกสประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล ซึ่งนำไปสู่การตัดสวัสดิการต่างๆ รวมถึงทำให้คนตกงานเพิ่มขึ้น ด้านสายการบินแควนตัสและแอร์ฟรานซ์กำลังมีปัญหาระหว่างผู้บริหารและสหภาพแรงงานทำให้ต้องมีการประกาศหยุดบิน สหภาพแรงงานโปรตุเกสประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล 2 ต.ค. 54 - สหภาพแรงงาน CGTP ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของประเทศโปรตุเกส จัดการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ในเมืองปอร์โต โดยมีผู้เข้าร่วมประท้วงราว 130,000 คน ขณะที่แกนนำสหภาพแรงงานใหญ่สุดของโปรตุเกสประกาศด้วยว่า จะจัดการชุมนุมประท้วงใหญ่อีกครั้งในสัปดาห์ระหว่างวันที่ 20-27 ตุลาคมนี้ โดยการประท้วงครั้งนี้มีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐบาลภายใต้การนำของพรรคสังคมประชาธิปไตยสายกลาง-ขวา ขึ้นภาษีก๊าซและไฟฟ้าอีกร้อยละ 23 จากเดิมที่ร้อยละ 6 โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลโปรตุเกสต้องขึ้นภาษีดังกล่าวตามเงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ในการรับการช่วยกู้ภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งรวมถึงการขึ้นภาษี เพื่อแก้ปัญหาเงินงบประมาณขาดดุลด้วย สมาชิกสหภาพแรงงานอังกฤษหลายหมื่นคน รวมตัวประท้วงแผนการรัดเข็มขัดของภาครัฐ 3 ต.ค. 54 - สมาชิกสหภาพแรงงานกลุ่มต่างๆ ในอังกฤษ รวมแล้วกว่า 35,000 คน ร่วมกันชุมนุมประท้วงแผนการรัดเข็มขัดของภาครัฐ ระหว่างการเปิดประชุมประจำปีพรรคอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีเดวิด แคเมอรอน ที่เมืองแมนเชสเตอร์ เมื่อวานนี้ โดยสหภาพแรงงานทียูซี ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่จัดการชุมนุมหนนี้ ระบุว่าการประท้วงมีขึ้นเพราะพวกเขาต้องการแสดงพลังคัดค้านนโยบายแย่ ๆ ของรัฐที่กำลังจะนำพาประเทศไปสู่ความล้มจม ด้านนายมาร์ก เซอร์วอตกา หัวหน้าสหภาพแรงงาน PCS ประกาศว่าพวกเขาจะเปิดฉากการผละงานประท้วงครั้งใหญ่ทั่วประเทศเพื่อตอกย้ำจุดยืนนี้อีกครั้งในวันที่ 30 เดือนหน้า ขณะที่นายวิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศ กล่าวต่อที่ประชุมพรรคอนุรักษ์นิยม โดยแก้ตัวว่ารัฐบาลชุดนี้จำเป็นต้องปรับลดงบประมาณเพื่อรับมือกับความผันผวนทางเศรษฐกิจที่เป็นผลมาจากการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาลชุดก่อน ทั้งนี้ ทางการอังกฤษ ตั้งเป้าจะบริหารงบประมาณให้กลับสู่ภาวะสมดุลให้ได้ภายในปี 2558 นี้ ครม.กรีซไฟเขียวแผนปลดข้าราชการ มุ่งลดขาดดุลงบประมาณตามข้อตกลง IMF/EU 3 ต.ค. 54 - คณะรัฐมนตรีกรีซอนุมัติมาตรการปลดพนักงานในภาครัฐรอบแรก โดยมีเป้าหมายที่จะลดยอดขาดดุลงบประมาณและแก้ไขวิกฤตหนี้สาธารณะโดยเร็ว หลังจากกระทรวงการคลังกรีซระบุว่า กรีซอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณปี 2554-2555 ตามที่ได้ตกลงไว้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) แถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งมีนายกรัฐมนตรีจอร์จ ปาปันเดรอู เป็นประธานนั้น มีมติว่า ภายในสิ้นปี 2554 นี้ ข้าราชการ 30,000 คนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อแรงงานสำรอง จะได้รับเงินเดือนเพียง 60% ของอัตราเงินเดือนในปัจจุบันเป็นเวลา 12 เดือน ก่อนที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่ง โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะลดตำแหน่งพนักงานที่เป็นภาระต่องบประมาณของประเทศ และเพื่อให้รัฐบาลสามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณตามที่ได้ตกลงไว้กับไอเอ็มเอฟและอียู นายอีเลียส มอสเซียลอส โฆษกรัฐบาลกรีซ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ว่า \การลดจำนวนข้าราชการอาจจะส่งผลกระทบทางสังคมบ้าง แต่รัฐบาลจำเป็นต้องทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลตามที่ตกลงไว้กับไอเอ็มเอฟและอียู พร้อมกับย้ำว่า มาตรการปลดข้าราชการรอบแรกในครั้งนี้จะช่วยให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณได้ถึง 300 ล้านยูโร (401.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การตัดสินใจครั้งล่าสุดของคณะรัฐมนตรีกรีซได้สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนที่มารวมตัวประท้วงบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา ขณะที่สหภาพแรงงานหลายแห่งวางแผนประท้วงผละงานทั่วประเทศในวันที่ 5 ต.ค.นี้ โดยระบุว่ามาตรการปลดข้าราชการรอบแรกจะนำไปสู่การปลดข้าราชการออกจากงานอีกเป็นจำนวนมากในวันข้างหน้า กระทรวงการคลังกรีซยอมรับว่า กรีซอาจจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการลดยอดขาดดุลงบประมาณ 2554-2555 ตามที่ได้ตกลงไว้กับไอเอ็มเอฟและอียู โดยคาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกรีซอาจมีอยู่ถึง 8.5% ของจีดีพีในปี 2554 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 7.6% ของจีดีพี และคาดว่ายอดขาดดุลงบประมาณปี 2555 จะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.8% ของจีดีพี แต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 6.5% ของจีดีพี และสวนทางกับที่คาดการณ์ไว้ว่ารัฐบาลจะมียอดเกินดุลงบประมาณ 1.5% ของจีดีพี เผยอินเดียใช้แรงงานเด็กสูงสุด 4 ต.ค. 54 - กระทรวงแรงงานสหรัฐเสนอรายงานว่าด้วยการใช้แรงงานเด็กทั่วโลกพบว่าอินเดีย บังกลาเทศ และฟิลิปปินส์ เป็นผู้นำของโลกในการผลิตสินค้าจากแรงงานเด็ก โดยมีสินค้าประมาณ 130 ชนิดมาจากการใช้แรงงานเด็กใน 71 ประเทศในทวีปแอฟริกา เอเชีย และลาตินอเมริกา รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐจัดทำขึ้นในวาระครบรอบ 10 ปีว่าด้วยรูปแบบที่เลวร้ายของการใช้แรงงานเด็ก โดยเสนอข้อมูลเกี่ยวกับเด็กที่ทำงานในสภาพที่เสี่ยงอันตราย ทั้งนี้ รายงานซึ่งอาศัยข้อมูลจากองค์การแรงงานสากลประเมินว่าปัจจุบันมีเด็กกว่า 215 ล้านคน เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานเด็ก และมีบางประเทศไม่ได้กำหนดอายุขั้นต่ำของเด็กในการทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีอันตรายจากการทำงานสูง อินเดียเป็นประเทศที่ใช้แรงงานเด็กมากที่สุด โดยใช้เด็กผลิตสินค้าไม่น้อยกว่า 20 ชนิด เช่น อิฐก่อสร้าง ดอกไม้ไฟ รองเท้า กำไล ไม้ขีดไฟ ข้าว และสิ่งทอ เป็นต้น ส่วนที่บังกลาเทศมีการใช้เด็กผลิตสินค้า 14 ประเภท ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม ขณะที่ฟิลิปปินส์ใช้แรงงานเด็กผลิตสินค้าเกษตร เช่น ทำงานในไร่กล้วย สวนมะพร้าว ไร่ข้าวโพด และเครื่องประดับ เป็นต้น การใช้แรงงานเด็กยังมีอยู่เป็นจำนวนมากในลาตินอเมริกา แต่มีสัญญาณว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะที่บราซิล ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายต่อสู้กับความยากจน ส่วนที่แอฟริกามีรายงานว่าใช้เด็กทำงานในเหมืองแร่ที่คองโก โดยเฉพาะเหมืองผลิตแร่ที่ใช้ในโทรศัพท์เคลื่อนที่ และแร่ใช้ในการทำเหล็กกล้าทังสเตน แรงงานมะกันร่วมม็อบนิวยอร์ก \"ยึดวอลสตรีท\" 6 ต.ค. 54 - ผู้ชุมนุมหลายพันคนรวมตัวประท้วงกลุ่มธุรกิจการเงินในย่านวอลสตรีท เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจในวันพุธ พร้อมแรงสนับสนุนจากสหภาพแรงงานทั่วสหรัฐ ขบวนการ \"ยึดวอลสตรีท\" มีผู้ชุมนุมราว 5
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)