Skip to main content
sharethis

สุริยะใสแจงผ่านเฟซบุ๊ค ยันพรรคการเมืองใหม่ไม่เคยมีมติส่งผู้สมัคร ส.ส. และขณะนี้ยังไม่ได้ลาออกจากเลขาธิการพรรค พร้อมโต้ “สมศักดิ์ โกศัยสุข” เรื่องติดหนี้พรรค 6 แสน แจงได้เคลียร์หนี้จากการขายบัตรดินเนอร์ทอล์คระดมทุนเข้าพรรคแล้ว พร้อมเผยพรรคยังไม่ได้จ่ายค่าเช่าเวลาออกรายการ และค่าโฆษณาทางเอเอสทีวี ตามที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่แถลงว่าจะส่งผู้สมัคร ส.ส. ในนามพรรค ในพื้นที่ 21 จังหวัด นั้น (อ่านข่าวย้อนหลัง) ล่าสุด เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ในบัญชีเฟซบุ๊ค ของนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ได้มีการเผยแพร่จดหมายเปิดผนึกเรียนไปยังผู้สนับสนุนพรรคการเมืองใหม่ หัวข้อ “ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับปัญหาในพรรคการเมืองใหม่ (กมม.)” โดยมีรายละเอียดว่า “ตามที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข และ กรรมการบริหารพรรคการเมืองใหม่อีก 4 คน ร่วมกันแถลงข่าว เมื่อวานนี้ ณ ที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ว่าพรรคการเมืองใหม่จะส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งในระบบสัดส่วนและระบบเขต และกรณีเงินบริจาคของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ และกรณีเงินค่าบัตรดินเนอร์ทอล์คในงานระดมทุนพรรคนั้น ผู้แถลงข่าวทั้ง 5 คนกำลังนำเสนอข้อมูลที่บิดเบือนและไม่เป็นความจริง ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะสมาชิกพรรคและผู้สนับสนุนพรรคสับสนต่อจุดยืนของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ รวมทั้งทำให้ผมในฐานะเลขาธิการพรรคได้รับความเสียหายโดยตรง จึงขอเรียนชี้แจงเป็นประเด็นดังนี้ 1. พรรคการเมืองใหม่ไม่เคยมีมติส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นระบบเขตและระบบสัดส่วนก็ตาม นอกจากนี้คณะกรรมการคัดเลือกผู้สมัครของพรรคที่ต้องทำหน้าที่รับรองผู้สมัคร ตาม พรบ.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 มาตรา 37 และ 38 ก็ยังไม่เคยมีการประชุมเพื่อรับรองและเสนอชื่อผู้สมัครของพรรคแม้แต่ครั้งเดียว ฉะนั้นการที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ประกาศส่งผู้สมัครในนามพรรคการเมืองใหม่ จึงเป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ไม่มีมติพรรครองรับ และกรรมการบริหารพรรคเสียงข้างมากทั้ง 10 คน ที่ยืนตามความเห็นของที่ประชุมใหญ่พรรค จะไปยื่นหนังสือพร้อมบันทึกการประชุมเพื่อยืนยันต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในสัปดาห์หน้าอีกครั้งหนึ่ง 2. กับความพยายามปล่อยข่าวว่าตัวผม ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคก่อนหน้านี้นั้น ข้อเท็จจริงก็คือผมเคยแจ้งในที่ประชุมกรรมการบริหารว่าหลังการประชุมใหญ่พรรคในวันที่ 24 เมษายน 2554 ผมจะลาออกเมื่อมีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แต่เมื่อผมพบพิรุธและขบวนการตุกติกและบิดเบือนของคนบางกลุ่มในพรรคที่พยายามจะฝ่าฝืนและไม่เคารพความเห็นของสมาชิกพรรคมากกว่าร้อยละ 90 ที่เห็นว่าพรรคไม่ควรส่งผู้สมัครฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นเหตุให้ผมตัดสินใจไม่ยื่นหนังสือลาออกตามข้อบังคับพรรค ข้อที่ 23 (2) ที่ระบุว่า การลาออกจากกรรมการบริหารพรรคจะสมบูรณ์เมื่อได้ยื่นใบลาออกต่อหัวหน้าพรรคหรือผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรค ซึ่งที่ผ่านมาผมยังไม่เคยยื่นใบลาออกแต่อย่างใด 3. กรณีที่นายสมศักดิ์ โกศัยสุข ระบุว่าพรรคไม่เคยได้รับเงินบริจาคจากนายสนธิ ลิ้มทองกุล จำนวน 3 ล้านบาทนั้น เป็นการแถลงข่าวโดยยังไม่มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะพรรคการเมืองใหม่ยังเป็นหนี้ค้างค่าเช่ารายการ “ก้าวที่กล้า สู่การเมืองใหม่” และค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับกิจการของพรรคทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี หนังสือพิมพ์เอเอสทีวี ผู้จัดการ และเว็บไซด์เมเนเจอร์ออนไลน์ ซึ่งพรรคยังไม่ได้จ่าย และหากมีข้อชวนสงสัย หัวหน้าพรรคก็ควรตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงเพราะพรรคได้ทำสัญญาค่าเช่าไว้ด้วย ที่สำคัญ กก.บห.พรรคต่างก็ทราบดีว่านับตั้งแต่นายสนธิ ลาออกจากหัวหน้าพรรค และนายสมศักดิ์ขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าแทนยอดบริจาคของประชาชนที่ให้กับพรรคก็แทบไม่มีเลย 4. ส่วนที่มีการกล่าวหาผมว่ายังเป็นหนี้พรรคอยู่ 6.5 แสนบาท เพราะยังไม่ชำระค่าบัตรดินเนอร์ทอล์คหรืองานระดมทุนของพรรค ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ปีที่แล้ว โดยข้อเท็จจริงนั้นตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 ที่มี กกบ.หลายท่านยังไม่สามารถทวงค่าบัตรดินเนอร์ทอล์คได้ ในส่วนของผมคือยอด 6.5 แสนบาท หลังจากนั้นก็เริ่มได้เงินค่าบัตรมาเป็นระยะๆ บางคนก็นำบัตรมาคืนจนมีการตัดยอดของผมเหลือแค่ 1 แสนบาท ตามมติที่ประชุม กกบ. ซึ่งผมต้องรับผิดชอบแทนผู้ที่ซื้อบัตรไปแต่ได้นำบัตรมาคืน (รายละเอียดเอกสารหลักฐานดูได้ที่ www.facebook.com/suriyasai) ฉะนั้นการระบุว่าผมยังค้างหนี้พรรคอยู่ 6.5 แสนบาทนั้น จึงเป็นการยกเอายอดหนี้ค้างตั้งแต่ปีที่แล้วซึ่งได้มีการจัดการไปแล้ว ขึ้นมากล่าวหาเพื่อทำลายความชอบธรรมของผม ทั้งที่นายสมศักดิ์ และกรรมการบริหารพรรคก็ทราบดีว่างานระดมทุนพรรคครั้งนั้นผมสามารถจำหน่ายบัตรได้มากกว่าคนอื่น กรรมการบริหารบางท่านไม่ได้ช่วยขายเลยแม้แต่ใบเดียว ผมและพรรคก็ไม่ติดใจเพราะเราทำงานโดยยึดถือความเสียสละและคำนึงถึงศักยภาพของแต่ละคน นอกจากนี้ กก.บห.พรรคทราบดีว่าผมได้ใช้เงินที่กู้ยืมส่วนตัวมาสำรองจ่ายให้กับพรรคเป็นระยะๆ เกือบ 2 ล้านบาท ผอ.พรรคและเจ้าหนี้พรรคทราบเรื่องนี้ดีเพราะทุกอย่างมีเอกสารหลักฐานรองรับ” จดหมายของนายสุริยะใสยังลงท้ายด้วยว่า “สำหรับจุดยืนผมต่อสถานการณ์ปัญหาในพรรคนั้น ผมและ กก.บห. 10 คนยังยืนยันที่จะคัดค้านความพยายามของ กก.บห. บางคน และ สาขาบางสาขา ที่ไม่เคารพเสียงของสมาชิกพรรคจนถึงที่สุด โดยเฉพาะการพยายามของกลุ่มผลประโยชน์บางกลุ่มที่หวังใช้พรรคการเมืองใหม่ เป็นเครื่องมือเพื่อเผชิญหน้าและกล่าวหาโจมตีการเคลื่อนไหวของพี่น้องพันธมิตรฯ และทำลายความชอบธรรมของการรณรงค์โหวตโน ขบวนการนี้ถือเป็นไส้ติ่งของพันธมิตรฯ และพรรคการเมืองใหม่ต้องต่อต้านและกำจัดออกไปให้ถึงที่สุด”

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net