Skip to main content
sharethis

“ไทยโพสต์” เผยแกนนำ พธม. และสุริยะใส หารือเรื่องไม่ส่งผู้สมัครแล้ว คาดได้ข้อยุติในการประชุมพรรค 24 เม.ย. ขณะที่ “สมศักดิ์ โกศัยสุข” เดินทางไปเปิดสาขาพรรคการเมืองใหม่ที่ชลบุรี ลั่นพรรคพร้อมส่งผู้สมัคร ส.ส. ในชลบุรี 6 เขต รวมทั้งหลายพื้นที่ใน กทม.

ตามที่เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 54 นาย สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวปราศรัยว่า ที่ประชุมแกนนำพันธมิตรฯ มีมติว่า ถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเราจะ เชิญชวนประชาชนทุกคนให้โนโหวตทั้งประเทศ และจะแจ้งให้นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรค และนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ทราบอย่างเป็นทางการว่า แกนนำพันธมิตรฯ มีมติเสนอให้พรรคการเมืองใหม่ไม่ส่งคนลงเลือกตั้ง พร้อมกับขู่ว่าถ้า กมม.จะส่งคนลงเลือกตั้ง เราจะประชุมกันอีกครั้งว่าจะยังมีสายสัมพันธ์กับพรรคการเมืองใหม่อยู่หรือ ตัดพรรคให้ขาดออกไปเลยนั้น [อ่านข่าวย้อนหลัง]

 ไทยโพสต์ อ้างที่ประชุม กมม. จะส่งคนลงเลือกตั้ง

ล่าสุด หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 25 มี.ค. 54 ได้อ้าง "รายงานข่าว" ซึ่งแจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา กมม.ได้มีการประชุมกรรมการบริหาร และได้มีมติอย่างเป็นทางการว่าจะส่งสมาชิกพรรคลงสมัครรับการเมืองตั้ง โดยเฉพาะกลุ่มสาขาพรรคต่างยืนยันที่จะลงสมัครเลือกตั้ง ซึ่งมติดังกล่าวสวนทางกับความต้องการของนายสนธิที่ได้ส่งสัญญาณเรื่องนี้มา ยัง กมม.อย่างต่อเนื่อง ขณะที่นายอมร อมรรัตนานนท์ กก.บห.การเมืองใหม่ ซึ่งเป็นโฆษกบนเวที พธม. ได้ลาจากกรรมการบริหารแล้ว

ไทยโพสต์อ้างว่า มีรายงานด้วยว่าในการประชุมกรรมการบริหารวันนั้น  นาย สุริยะใสได้ประกาศในที่ประชุมว่า หากไม่ให้พรรคการเมืองใหม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้ ตนก็จะลาออกจากตำแหน่งเลขาฯ อย่างไรก็ตามไม่มีการยืนยันถึงข่าวดังกล่าวจากสื่อสำนักอื่น

แหล่งข่าวกลุ่มพันธมิตรฯ แจ้งกับไทยโพสต์ว่า ในสถานการณ์การเมืองในขณะนี้พรรคการเมืองใหม่ยังไม่พร้อมที่จะลงสมัครรับ เลือกตั้ง ทั้งเรื่องการบริหาร โครงสร้าง และเรื่องเงินทุนภายในพรรค และหากยุติพรรคไว้ก่อน สถานการณ์การต่อสู้ของประชาชนขณะนี้ก็จะถูกยกระดับ ต้องหยุดเพื่อโนโหวต แล้วล้มรัฐบาลในอนาคต พรรคการเมืองใหม่ก็จะโต เห็นฐานที่ชัดเจนจากการเลือกโนโหวต เป็นการรอเวลาเพื่อสะสมพลัง

ไทยโพสต์ ยังรายงานความเห็นของ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษก พธม.  ซึ่งระบุว่า จากผลสำรวจของโพลล์ต่างๆ เช่น เอแบคโพลล์ ที่ประชาชนถึงกว่าร้อยละ 58 ไม่ตัดสินในการเลือกพรรคการเมืองใด แสดงให้เห็นว่าพรรคการเมืองทั้งระบบมีคะแนนนิยมลดน้อยลง โดยประชาชนเห็นว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออก

 เผยแกนนำ พธม. + สุริยะใส หารือเรื่องไม่ส่งผู้สมัครแล้ว คาดได้ข้อยุติ 24 เม.ย.

หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ฉบับเดียวกันนี้ ยังรายงานว่า ช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (24 มี.ค. 54) ที่บ้านพระอาทิตย์ แกนนำพรรค กมม.ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสุริยะใส กตะศิลา กับแกนนำพธม. อาทิ นายสนธิ ลิ้มทองกุล, พล.ต.จำลอง ศรีเมือง, นายพิภพ ธงไชย หารือถึงกรณีไม่ให้ กมม.ส่งผู้สมัครลงเลือกตั้ง โดยได้ข้อสรุปว่าจะมีข้อยุติในการประชุมสมาชิก กมม.ในวันที่ 24 เม.ย.นี้

ขณะเดียวกัน ช่วงบ่าย กรรมการบริหารพรรค กมม.ได้หารือนอกรอบถึงแรงกระเพื่อมดังกล่าว

ด้าน นายสุริยะใสออกคำแถลงว่า ความเห็นของพันธมิตรฯ ที่ส่งสัญญาณไม่เอาลัทธิเลือกตั้งนั้น ถือเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนสามารถแสดงออกและวิพากษ์วิจารณ์ได้ ซึ่งสังคมวงกว้างไม่ควรมองข้ามกระแสนี้ เพราะนับวันความไม่ไว้วางใจต่อระบบรัฐสภายิ่งขยายวงกว้างมากขึ้น

ส่วน จุดยืนของพรรค กมม. เช้าวันนี้ได้มีการประชุมของแกนนำรุ่นพันธมิตรฯ ทั้ง 2 รุ่น และเห็นตรงกันว่าวิกฤตการณ์ของชาติในขณะนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการเลือก ตั้งเท่านั้น

"พันธมิตรฯ และพรรคการเมืองใหม่มีเป้าหมายไม่ต่างกัน คือการสร้างการเมืองที่สะอาดและสามารถแก้ไขปัญหาของประเทศชาติและประชาชนได้ อย่างแท้จริงและยั่งยืน แต่เนื่องจากพรรคการเมืองใหม่  ต้อง ดำเนินกิจกรรมภายใต้ พ.ร.บ.พรรคการเมือง มีกฎหมายควบคุมกำกับตลอดเวลา จึงต้องระมัดระวังในการแสดงบทบาท เพราะอาจถูกมองว่าต่อต้านระบบการเมืองการปกครองจนเป็นเหตุให้มีการกลั่น แกล้งเพื่อยุบพรรคได้"

เลขาธิการ กมม.ระบุว่า ในวันที่ 24 เมษายน พรรคจะจัดประชุมใหญ่ระหว่างกรรมการบริหารพรรค กรรมการสาขา กรรมการศูนย์ประสานงาน และสมาชิกพรรค เพื่อกำหนดจุดยืนต่อการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ มั่นใจจะได้ข้อยุติที่ดีและเป็นเอกภาพในวันนั้น

 สมศักดิ์เปิดสาขาพรรค กมม. ที่ชลบุรี ลั่นคนเข้าพรรคต้องไม่คอรัปชั่นและเทิดทูนสถาบัน

ขณะเดียวกัน ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานวันนี้ (25 มี.ค.) ว่า นายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เดินทางมาเป็นประธานเปิดที่ทำการพรรคการเมืองใหม่ สาขาจังหวัดชลบุรี ที่บริเวณตำบลบางปลาสร้อย อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็น สาขาที่ 10 หลังจากที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสาขา พรรคการเมืองใหม่ จำนวน 13 คน โดยมีนาย สุนทร สุทธิธาทิพย์ เป็นประธานสาขา

นาย สมศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันการเมืองประเทศไทยอยู่ในขั้น วิกฤต โดยเฉพาะในรัฐบาลชุดปัจจุบันมีการคอร์รัปชั่นสูงมาก เป็นเสมือนธุรกิจการเมืองไปแล้ว ทุกคนเข้ามาเล่นการเมือง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงทำให้เกิดพรรคการเมืองใหม่ขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือพี่ น้องประชาชนอย่างแท้จริง พร้อมต้องการที่จะลบภาพการเองอดีตให้หมดไป ซึ่งเราจะส่งเสริมให้คนดีที่มีประวัติศาสตร์ตรวจสอบได้มาเป็นผู้ปกครองเรา เพราะว่าบ้านเมืองทุกวันนี้มีปัญหาเรื่องการคอร์รัปชั่นสูงมาก

ดัง นั้น ผู้ที่เข้ามาทำงานตรงนี้จะต้องมีประวัติศาสตร์ทีดี นอกจากจะไม่คอร์รัปชั่นแล้ว จะต้องเป็นคนที่เกลียดคอร์รัปชั่น และต่อต้านการคอร์รัปชั่น และจะต้องมีการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และรักษาชาติ ศาสนา และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 หวังให้ประชาชนมีส่วนร่วม มีความเสมอภาค

นาย สมศักดิ์ ยังกล่าว่า นอกจากนั้น เราก็จะให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางตรงให้มากขึ้น ในการตรวจสอบการ ตัดสินใจในการดำเนินการในด้านปัญหาเศรษฐกิจ ในด้านสิ่งแวดล้อม อะไรก็ตามที่กระทบกับประชาชน คือ ให้เป็นไปตามเจตจำนงในการมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง และที่สำคัญก็คือ จะต้องทำให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับองค์ความรู้ด้านข้อมูลข่าวสารได้อย่าง ทั่วถึง เท่าเทียม เสมอภาค รวมทั้งการกระจายรายได้และผลประโยชน์ที่เป็นทรัพยากร และที่ผลิตได้ ให้กับสังคมอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม นี่คือเป้าหมาย ทิศทางที่จะนำให้เห็นว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นการเมืองใหม่อย่างไร ไม่ใช่แบบเก่าๆ อย่างแน่นอน

 ยันพรรคพร้อมส่งผู้สมัคร ส.ส. หลายเขตรวมทั้งชลบุรี- กทม. ไม่คาดหวังเรื่องเก้าอี้

นาย สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า หากมีการเลือกตั้งในเร็วนี้ๆ พรรคการเมืองใหม่ของเราก็พร้อมในการส่งตัวผู้สมัครลงแข่งขัน แต่เราไม่ได้คาดหวังว่า พรรคของเราจะได้เข้ามานั่งในสภากี่คน เพราะ มันเป็นเรื่องของอนาคตที่ไม่สามารถคาดเดาได้ แต่หากพรรคการเมืองใด ที่บอกว่า จะสามารถกวาดเก้าอี้ได้เท่านั้น เท่านี้ แสดงว่าการได้มาไม่โปร่งใสอย่างแน่นอน ซึ่งก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปแล้วว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมานั้นมีการซื้อ สิทธิขายเสียงกัน สำหรับพรรคเราทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ที่จะพิจารณาว่าอะไรดี อะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง

สำหรับ ผู้สมัครของเรานั้น จะเน้นที่พื้นที่มีความพร้อม และประชาชนในพื้นที่จะต้องเป็นผู้เสนอว่าพวกเขาควรจะเอาใครลงไป ซึ่งในขณะก็มีหลายจังหวัดที่มีความพร้อม โดยเฉพาะ จังหวัดชลบุรี ก็มีความพร้อมในการส่งตัวแทนลงสมัครรับเลือก ถึง 6 เขต นอกจากนี้ยังมีกรุงเทพฯ และ จังหวัดจันทบุรี และอีกหลายจังหวัด ซึ่งจะมีการพิจารณากันอีกครั้งเมื่อถึงเวลา 

ที่มา: เรียบเรียงจาก ไทยโพสต์ และ ASTVผู้จัดการออนไลน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net