Skip to main content
sharethis

วันนี้ (7 ก.พ. 54) ที่ศาลปกครอง ภาคประชาสังคมยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ให้มีการเพิกถอนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวัตถุอันตราย ชี้เป็นการแต่งตั้งที่ไม่ชอบตามกฎหมาย และการแต่งตั้งดังกล่าวอาจกระทบต่อการขึ้นทะเบียนใหม่วัตถุอันตราย ซึ่งรวมสารเคมีกำจัดศัตรูพืชสุดอันตรายเกือบ 30,000 รายการที่ต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนสิงหาคมนี้ ระบุวิกฤตสารเคมีการเกษตรกระทบสุขภาพเกษตรกรและตลาดส่งออก พร้อมร้องขอศาลกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิพากษาเพื่อปกป้องประโยชน์ สาธารณะ

นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผอ.มูลนิธิชีววิถี (BioThai) แถลงภายหลังการฟ้องต่อศาลปกครองกรณีให้เพิกถอนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะ กรรมการวัตถุอันตราย ว่า การแต่งตั้งกรรมการดังกล่าวซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวัน 9 พ.ย.2553 ขัดกับเจตนารมณ์ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ปรับปรุงแก้ไข พ.ศ.2551 อย่างชัดแจ้ง เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่ได้รับการแต่งตั้งจำนวน 4 ใน 10 คนไม่ได้มีคุณสมบัติและที่มาตามที่กฎหมายบัญญัติ โดยมีจำนวน 2 คนถูกแต่งตั้งจากสมาคมวิชาชีพที่ไม่ได้เป็นองค์กรสาธารณะประโยชน์ด้านการ คุ้มครองสุขภาพอนามัย และองค์การสาธารณประโยชน์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค และยิ่งไปกว่านั้นยังมีการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 คนซึ่งมาจากบริษัทธุรกิจสารเคมีกำจัดศัตรูพืชรายใหญ่ และตัวแทนจากกลุ่มธุรกิจเคมี จากสภาหอการค้า ทั้งๆ ที่กฎหมายกำหนดให้มีการแต่งตั้งจากองค์การสาธารณประโยชน์ด้านเกษตรกรรม ยั่งยืน และองค์การสาธารณประโยชน์ด้านการจัดการปัญหาวัตถุอันตรายในท้องถิ่น

“การดำรงตำแหน่งของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่เป็น ตัวแทนของบริษัทซินเจนทาซึ่งเป็นบริษัทที่นำเข้าสารเคมีการเกษตรรายใหญ่ของ ไทยจะทำลายกลไกการควบคุมและจัดการเรื่องสารเคมีและวัตถุอันตราย ทั้งในส่วนของการรับขึ้นทะเบียน การเพิกถอนวัตถุอันตราย และการพิจารณาเรื่องร้องเรียนจากผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจาก วัตถุอันตราย ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 9 ของ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย เนื่องจากระหว่างดำรงตำแหน่งอาจเกิดผลประโยชน์ทับซ้อนในการปฏิบัติหน้าที่ ได้ ไม่เท่านั้นยังขัดกับเจตนารมณ์ พ.ร.บ.วัตถุอันตรายที่สร้างเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการ กำกับนโยบายสาธารณะที่เกี่ยวข้องกับสุขภาวะของประชาชนด้วย”

นายวิฑูรย์กล่าวต่อว่า ปัจจุบันสถานการณ์สารเคมีกำจัดศัตรูพืชอยู่ในขั้นวิกฤตแล้วทั้งแง่มุมตัวเลข เกษตรกรผู้เจ็บป่วยและพืชผักผลไม้ที่ส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (EU) เนื่องจากมีการตรวจพบสารเคมีเกษตรตกค้างเกินค่ามาตรฐาน (MRLs) ในพืชผักผลไม้มากครั้งที่สุดในโลกถูกตรวจพบสารเคมีเกษตรตกค้างเกินค่า มาตรฐาน และมีจำนวนครั้งที่ตรวจพบมากที่สุดในโลก

ด้านนางสาวเพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผอ.มูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวว่า การยื่นฟ้องต่อศาลปกครองครั้งนี้ได้ร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ วันที่ 9 พ.ย.2553 เฉพาะส่วนที่มีมติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในลำดับที่ 6 ถึง 9 คือ นางศุภวรรณ ตันตยานนท์, นางสาวสุมล ปวิตรานนท์, นายปกรณ์ สุจเร และนายสุมิดา บุรณศิริ และให้กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอชื่อกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการวัตถุ อันตรายทดแทนกรรมการที่ถูกเพิกถอน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ฟ้องคดี และตัวแทนองค์การสาธารณประโยชน์อื่นๆ ที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายบัญญัติส่งตัวแทนเพื่อคัดเลือกเป็นกรรมการผู้ทรง คุณวุฒิในด้านการคุ้มครองสุขภาพอนามัย ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ด้านการเกษตรกรรมยั่งยืน และด้านการจัดการปัญหาวัตถุอันตรายในท้องถิ่น ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ปรับปรุงแก้ไข พ.ศ.2551 ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา

“ผู้ฟ้องคดียังได้ร้องขอต่อศาลได้มีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ก่อนพิพากษา ห้ามมิให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ จำนวน 4 คน ทำหน้าที่ในคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ จนกว่าศาลจะมีคำตัดสินชี้ขาดด้วย” นางสาวเพ็ญโฉมกล่าว

ทั้งนี้ความคืบหน้าล่าสุด สำนักงานศาลปกครองกลางได้รับเอกสารฟ้องไว้พิจารณาแล้ว ตามคดีหมายเลขดำที่ 390/2554 โดยหากถ้าศาลเห็นว่ากรณีนี้เป็นวาระเร่งด่วนที่ต้องคุ้มครองฉุกเฉินจะดำเนิน การไต่สวนภายในหนึ่งสัปดาห์หลังรับฟ้อง แต่หากไม่ใช่กรณีเร่งด่วนจะดำเนินการพิจารณาโดยใช้ระยะเวลาประมาณหนึ่งเดือน

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net