Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

บ่ายวันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม ถนนวิทยุ ถนนซึ่งเป็นย่านธุรกิจสำคัญของกรุงเทพ ช่างเงียบเหงา เหมือนแดนสนธยา มีแต่เพียงเสียงปืนและเสียงเฮลิคอปเตอร์ที่บินวนเวียนอยู่เหนือถนนวิทยุเป็นระยะๆ ด่านเสื้อแดงตรงแยกชิดลม-วิทยุ ที่เดินผ่านก่อนเข้าถนนวิทยุถูกปิดตายโดยเสื้อแดงด้วยลวดหนาม ยางรถยนต์และไม้ไผ่เหลาแหลม ป้ายๆ หนึ่งที่ด่านมีข้อความเขียนว่า “ขออภัยในความไม่สะดวก กำลังปิดซ่อมประชาธิปไตย”

ตรงแยกเพลินจิตที่ผมเดินผ่านก่อนหน้านั้นมีทหารหลายร้อยนายเตรียมตั้งด่าน ทหารนายหนึ่งก็ตะโกนบอกผมว่า ไม่ควรเข้ามา

ถนนวิทยุว่างเปล่า เหลือแต่ยามและเสื้อแดงจำนวนหนึ่ง หากมีการเคลื่อนไหวบ้างก็เป็นมอเตอร์ไซต์ของเสื้อแดงที่วิ่งเข้าวิ่งออกเป็นระยะแต่ไม่มาก

13.40น. ผมเห็นมอเตอร์ไซต์ซ้อนสาม พาคนเจ็บนั่งตรงกลาง ร่างดูไร้สติ วิ่งผ่านสถานทูตอเมริกาออกไปทางชิดลม คุยกับยามบริเวณนั้นก็ได้ยินข่าวว่า มีนักข่าวถูกยิงแถวสวนลุมอย่างน้อยสองคน

ก่อนหน้านั้น ระหว่างที่ผมกำลังเดินผ่านสถานทูตเนเธอร์แลนด์อยู่นั้น ผมเห็นเลือดหยดเป็นทาง พอมาถึงแยกสารสิน-วิทยุ ก็มีเพียงเหล่าเสื้อแดงฮาร์ดคอและการ์ดแดงทั้งหลาย ผู้รอประจันหน้ากับทหารผู้ที่ต้องการเข้ามา “กระชับวงล้อม”

เหล่าการ์ดยืนคุยกันอย่างฮึกเหิม พร้อมด้วยอาวุธพื้นบ้านอย่าง ระเบิดขวด ท่อเหล็ก หนังสติ๊กและไม้ไผ่

“ไม่กลัว” การ์ดเสื้อแดงในชุดดำคนหนึ่งตอบผมเมื่อถามว่ากลัวหรือไม่ไม่กี่นาทีหลังจากที่มีการปะทะกันระหว่างทหารและคนเสื้อแดง ซากรถบัสตำรวจ ตชด.ที่ถูกเผาเมื่อตอนเที่ยงยังจอดอยู่ห่างจากเราไปประมาณ 100 เมตรใกล้สวนลุมไนท์บาซาร์ มีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นนักข่าว และมีรายงานว่า มีคนตายหนึ่งคนด้วย

“ทหารยิงมั่ว รัฐบาลชุดนี้แม่งเหี้ยจริงๆ ป่านนี้แม่งยังไม่ลาออกเลย” ชายเสื้อแดงคนหนึ่งบอกบรรดาเพื่อนๆ
หน้าด่านมีป้ายผ้าสีดำ เขียนด้วยตัวอักษรสีขาวว่า “ในโลกนี้ยังมีสัตว์ร้ายชนิดใด ทำลายล้างชีวิตผู้คนมากกว่าคน”

พวกเสื้อแดงฮาร์ดคอยังคงเล่าแลกเปลี่ยนเรื่องราวการปะทะตั้งแต่ช่วงสายไม่นานนักก็มีมอเตอร์ไซต์วิ่งกลับมาและบอกว่า พี่น้องเสื้อแดงจำนวนหนึ่งถูกพันธมิตรโจมตี โดยที่แท็กซี่คนหนึ่งถูกพันธมิตรไล่ฟันและยึดรถไป บนตอม่อสะพานลอยที่เรายืนอยู่ข้างใต้นั้น มีสเปรย์พ่นเขียนเป็นภาษาไทยซึ่งสะกดผิดไปหน่อยว่า “กูรอมึงมา ไอ้หมารอบกัด” ซึ่งจริงๆ แล้วศัตรูเสื้อแดงก็คงอยู่ “รอบๆ”

ไม่นานนัก ประมาณ 14.30น. หัวหน้าการ์ดเสื้อแดง ณ จุดนั้นก็ตะโกนให้มวลชนเข้ามาในด่าน โดยบอกว่า ทางส่วนกลางได้สั่งให้เข้ามาและปิดด่านเพื่อที่ว่า หากทหารบุกเข้ามาจะได้เผายางรถยนต์ที่ด่านเพื่อสกัด
“เพราะตอนนี้เขาเริ่มเคลื่อนตัวย้ายกำลังกันแล้ว” หัวหน้าการ์ดพูด

ผมตัดสินใจเดินก้าวข้ามก่อนด่านถูกปิด เข้าสู่เขตที่เสื้อแดงบางคนเรียกว่า “เขตปลดปล่อย” เดินได้สักพักก็ถึงร้านขายอาหารร้านหนึ่งบนถนนหลังสวน จึงตัดสินใจเข้าไปซื้อน้ำอัดลมกระป๋อง อาซ้อเจ้าของร้านอายุราว 60 นั่งดูทีวีช่อง TNN อยู่พร้อมปลอกมังคุด ผมสังเกตเห็นโปสเตอร์รูปคนเสื้อเหลืองถวายพรในหลวงรูปใหญ่ติดอยู่ข้างผนัง จึงถามซ้อว่า ไม่ห่วงความปลอดภัยบ้างหรือ

“แดงหรือเหลือง” ซ้อถามผมกลับ พอผมบอกว่าเป็นนักข่าว The Nation เธอก็เริ่มพูดไม่หยุดเพราะคงรู้ว่า เนชั่นคือสื่อที่ไม่เอาแดง

“จริงๆ ไม่ชอบแดงเลย รถมันก็ตรวจ จะบอกให้นะ ถ้าของมีค่ามันเอาไปเลย เอาทุกอย่างเพราะมันจ้างมา . . . เป็นเด็กติดยาทั้งนั้นเลย แล้วมันตั้งโต๊ะจ่ายเงิน คันละ 800 แต่พอเอาจริงๆ ให้มันแค่ 500” อาซ้อกล่าวถึงมอเตอร์ไซต์เสื้อแดงใน “ชุดความจริง” ของเธอ

ผมถามซ้อต่อว่า ไม่กลัวโดนเผาหรือ ถ้ามีการปราบและปะทะกัน

“ไม่กล้าเผาหรอก คิดว่ามันไม่โหดเหี้ยม แต่อยากให้มันไปตาย เราหากินไม่ได้ ปราบที่ไหนก็มีคนตายทั้งนั้นแหละ”

ผมถามต่อเรื่องเสธแดงว่า เธอคิดว่าใครเป็นคนยิง เธอตอบว่าไม่รู้ แต่บอกว่าเสธแดงศัตรูเยอะ และกล่าวพร้อมชี้ไปที่หน้าอกซึ่งหมายถึงเสื้อกันกระสุนซึ่งเธอเชื่อว่าเสธแดงใส่เมื่อคืนวันก่อน “ยิงแถวนี้ไม่มีประโยชน์ เนี่ย สมองชั้นหนึ่งเลย คนยิงนี่เก่งมาก ฉันว่าคนนี้ถูกยิงน่ะดีแล้ว ทุกอย่างจะง่ายขึ้น คุณว่าจริงไหม ทุกอย่างทักษิณมันอยู่เบื้องหลังตัวเอ้เลย แค้นมากเงินสี่หมื่นล้านโดนยึด ต้องรีบปราบให้เสร็จ ต้องให้เร็วที่สุด ตายก็ตาย ถ้าสงครามไม่มีใครตาย ไม่ได้ . . . คนแถวนี้เขาเรียก [เสื้อแดง] ถ่อย ถุน เถื่อน เขาไม่เรียกว่าไพร่”

ได้ยินเช่นนั้นผมก็คิดว่า คงถึงเวลาเดินทางต่อ เดินออกมาได้ไม่นาน แวะยืนฟังการ์ดเสื้อแดงคุยกันก็ได้ยินเสียงคนทัก ปรากฎว่า เป็นอดีตแกนนำนักศึกษาที่ยังหนุ่มแน่น ซึ่งตอนนี้กลายเป็นผู้ชุมนุมเสื้อแดงระดับขาประจำ นอนอยู่แถวเวทีราชประสงค์มาเป็นเวลาหลายคืนแล้ว แกบอกว่า ได้ยินมากับหูว่า การ์ดเสื้อแดงบางคนมีการ “วอเรียก M79” และแกก็พูดถึงความจริงอีกชุดว่า การ์ดเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยเป็นเด็กรามฯ

เราสองคนเดินไปจนถึงข้างเวทีราชประสงค์ก็เกิดเหตุชุลมุน รถพยาบาลของมูลนิธิร่วมกตัญญูสองคัน วิ่งฝ่าวงผู้ชุมนุมจากทางด่านประตูน้ำเข้ามาจอดข้างเวทีด้านขวาใกล้โรงพยาบาลตำรวจอย่างเร่งด่วน

เจ้าหน้าที่รีบนำคนเจ็บออกจากรถ ในขณะที่เสียงบนเวทีบอกให้ผู้ชุมุนุมเคลียร์เส้นทางให้คนเจ็บเข้าโรงพยาบาลตำรวจ ผู้บาดเจ็บคนหนึ่งถูกผ้าคลุมทั้งร่างยกเว้นเท้าที่บ่งบอกว่า เขาเป็นผู้ชาย เลือดเปรอะผ้าคลุมสีขาวและการที่คุลมศีรษะด้วยบ่งชี้ว่า ท่าทางคงสาหัสมาก

“เหี้ย ใจร้าย รัฐบาลส้นตีน” ผู้หญิงเสื้อแดงที่ดูเหมือนมาจากต่างจังหวัดตะโกนด่า พร้อมน้ำตาที่ไหลเอ่อ เมื่อเธอเห็นสองร่างถูกนำตัวผ่านหน้าเธอไป

“ไอ้เหี้ย เผาแม่งไปเลยดีกว่า รออะไรเนี่ย เผาแม่งไปเลยดีกว่า”

ชายเสื้อแดงคนหนึ่งพยายามมาปลอบเธอบอกให้ใจเย็นๆ แต่ก็ได้รับคำตอบจากเธอว่า ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ

เธอร้องไห้และตะโกนต่อไปว่า “รัฐบาลส้นตีนอย่างนี้เอาไว้ทำไม”

เพลงนักรบธุลีดินถูกเปิดบนเวที เสื้อแดงทั้งหมดยืนให้ความเคารพคนเจ็บและคนตาย หลายคนน้ำตาซึมและใบหน้าเต็มไปด้วยความเคียดแค้น

ผมเดินไปถามเจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูว่า เกิดอะไรขึ้น เขาตอบเพียงสั้นๆ ว่า “ทหารยิง” และหนึ่งในสองคนที่นำมาส่งนั้น ชีพจรอ่อนมากแล้ว
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net