Skip to main content
sharethis

ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานีลงพื้นที่ให้ข้อมูลเหมืองแร่โปแตชที่กำลังจะเกิดขึ้นใน จ.มหาสารคาม กับชาวบ้านในพื้นหวังสร้างเครือข่ายผู้คัดค้าน ย้ำไม่ได้ขัดขวางการพัฒนา แต่มีจุดยืนที่รักษาแผ่นดินไว้ให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยและทำกิน

เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 13:00 น.กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี จำนวนกว่า 30 คน ได้เดินทางไปพบปะและให้ข้อมูลแก่ชาวบ้าน บ้านเหล่าอีหมัน อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ บริษัท ไทยสารคาม อะโกร โปแตช จำกัด ได้ยื่นขออาชญาบัตรพิเศษเพื่อสำรวจแร่โปแตช มาตั้งแต่ปี 2548 ในท้องที่ ต.หนองเม็ก และ ต.ปอพาน อ.นาเชือก จำนวน 2 แปลง โดยมีเนื้อที่กว่า 2 หมื่นไร่ ปัจจุบันอยู่ในขั้นกำลังดำเนินการขอต่ออาชญาบัตรพิเศษอีกครั้งเนื่องจากเอกสารดังกล่าวได้หมดอายุไปตาม พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2510 มาตรา 33 หลังจากที่มีการสำรวจมาได้ 5 ปีแล้ว

นางมณี บุญรอด รองประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี กล่าวว่า เรื่องโครงการเหมืองแร่โปแตช เป็นเรื่องใหญ่ที่ส่งผลกระทบหลายอย่างต่อชาวบ้าน ทั้งข้อมูล ข่าวสาร รายละเอียดต่างๆ ในการดำเนินโครงการดังกล่าว ชาวบ้านก็เข้าถึงได้ยาก บางครั้งก็มีการปิดบังข้อเท็จจริงต่างๆ ไม่ให้ชาวบ้านผู้มีส่วนได้เสียรับรู้ ไม่มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน หรือกระบวนการต่างๆ ก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย การที่กลุ่มอนุรักษ์ฯ มาครั้งนี้ก็เพื่อเตือนภัยล่วงหน้าให้กับพี่น้องผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกันได้รับรู้ และให้มาต่อสู้กับโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมไปพร้อมๆ กัน

“เราไม่ได้ขัดขวางการพัฒนา แต่เรามีจุดยืนที่รักษาแผ่นดินไว้ให้ลูกหลานของเราได้อยู่อาศัย และทำกิน” นางมณีกล่าว
 
ขณะที่นายฉัตรเฉลิมวุฒิ ลาดเหลา นายก อบต.หนองเม็ก กล่าวว่า หากโครงการเหมืองแร่โปแตชจะเกิดขึ้นในพื้นที่ของตนจริง ตนก็พร้อมที่จะคัดค้านและต่อสู้ เพราะที่ผ่านมา ชาวบ้านที่นี่มีบทเรียนเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบที่เกิดจากการทำอุตสาหกรรมเกลือเมื่อหลาย 10 ปีก่อนเช่นกัน และทุกวันนี้ข่าวผลกระทบต่างๆ ที่เกิดจากการทำอุตสาหกรรมก็มีมาให้เห็นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น มาบตาพุดที่ จ.ระยอง หรือ หลุบยุบ ที่โคราชเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้ตนเชื่อว่า โครงการเหล่านี้ต้องส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่ตนปกครองอย่างแน่นอน

ด้านนายสุวิทย์ กุหลาบวงษ์ ที่ปรึกษากลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอุดรธานี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า การมาในครั้งนี้ นอกจากมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเรื่องโครงการเหมืองแร่โปแตชที่จะเกิดในพื้นที่แก่ชาวบ้านแล้ว ยังต้องการขยายเครือข่ายในการต่อสู้กับโครงการดังกล่าวด้วย โดยเฉพาะในพื้นที่นี้เป็นเขตพื้นที่ของ รมว.กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งต้องการผลักดันให้เกิดโครงการเหมืองแร่โปแตชในพื้นที่

“เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องร่วมกันคัดค้านในสิ่งที่ไม่เหมาะสมและผลักดันนโยบายที่เป็นประโยชน์แก่ชาวบ้านให้เกิดในชุมชน ซึ่งการมาในครั้งนี้ ถือว่าประสบผลสำเร็จอย่างยิ่ง เพราะมีชาวบ้านให้ความสนใจเป็นอย่างมาก และคิดว่าอีกไม่นานน่าจะเกิดเครือข่ายผู้คัดค้านโครงการเหมืองแร่โปแตชเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน” นายสุวิทย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังข้อมูลเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เป็นผู้นำชาวบ้านในท้องถิ่นดังกล่าว อาทิ นายก อบต., ผู้ใหญ่บ้าน, ครู ฯลฯ โดยบรรยากาศการพูดคุยนั้นค่อนข้างเป็นกันเอง มีการแลกเปลี่ยนทัศนคติ ให้ข้อมูลเบื้องต้นที่สำคัญ ตลอดจนการเล่าถึงประสบการณ์การต่อสู้ของกลุ่มอนุรักษ์ฯ ชาวบ้านต่างให้ความสนใจ และซักถามในประเด็นที่ตนสงสัย หลังจากจบวงสนทนาดังกล่าวแล้วในช่วงเย็นก็มีการรับประทานอาหารร่วมกัน เป็นการเลี้ยงต้อนรับและขอบคุณที่กลุ่มอนุรักษ์ฯ ที่มาให้ข้อมูลถึงในพื้นที่

สแกน QR Code เพื่อร่วมบริจาคเงินให้กับประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net