ท่ามกลางความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้แห่งนี้ที่เกิดขึ้นมาเป็นเกือบ 6 ปี ไฟใต้ยังคงคุกกรุ่น อยู่ตลอดเวลา ไฟแห่งความขัดแย้งลุกโชนจนไม่รู้ว่าจะดับลงเมื่อไหร่ และเหตุการณ์ที่ไม่พึงปรารถนากลับต้องมาเกิดกับครอบครับของนางแมะย๊ะ ยามา ชาวกาเยาะมาตี ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา
จากการนำเสนอข่าวของหลายๆ สำนักข่าว เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านของเหตุการณ์ยิง นายเจ๊ะอารง ยามา อายุ 44 ปี พร้อมกับลูกสาว ด.ญ.นัรมี ยามา วัย 2 ขวบ หลังกลับจากธุระมีลูกสาวนั่งซ้อนท้ายมุ่งหน้ากลับบ้าน จนทำให้ผู้เป็นพ่อถึงแกชีวิตในที่เกิดเหตุ นอนตายจมกองเลือดข้าง รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ทะเบียน กรข ยะลา 829 ถูกยิงด้วยกระสุนปืนเอ็ม 16 เข้าลำตัวพรุน และลูกน้อยเสียชีวิตในเวลาต่อมา
“ทีมบูหงารายานิวส์” ได้ลงพื้นที่บ้านกาเยาะมาตี แล้วพบกับนางแมะย๊ะ ยามา อายุ 50 ปี เธอได้ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครอบครัวของเธอเอง สามีคือนายเจ๊ะอารง ยามา และลูกสาวคนเล็ก ด.ญ.นัรมี ยามา และญาติคือนายรอนิง รอเกะ ผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านหมู่ 6 บ้านกำปงบือแน ต.จะก๊ะ....
000
เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 20.00 น. ของวันที่ 16 ธันวาคม 2552 สามีพาลูกสาวไปเติมเงินโทรศัพท์และดื่มน้ำชาที่ร้านในหมู่บ้าน หลังจากนั้นดิฉันเองก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ดิฉันตกใจมากเพราะเสียงนี้คงไม่ไกลไปจากบ้านมากนัก ก็เลยเดินออกไปดู ดิฉันเป็นลมล้มทั้งยืน เมื่อเห็นสามีถูกยิงล้มจมกองเลือด และลูกสาวที่ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ปรากฏว่าสามีของดิฉันได้หมดลมหายใจแล้ว
ส่วนลูกสาวของดิฉันยังมีลมหายใจอยู่ฉันได้โทรติดต่อนายรอนิง มาเกะ เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ซึ่งเป็นญาติให้ช่วยพาไปส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลาพร้อมกับลูกชายคือชายคือนายบัสยู ยามา โดยนั่งอยู่หลังกระบะรถยนต์
ทางเจ้าหน้าที่ทหารที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้สอบถามนายบัสยู ว่า “จะพาไปไหนกัน” ถามย้ำอยู่ 2-3 ครั้ง ก็ไม่ได้สงสัยอะไร แล้วญาติก็รีบขับรถออกไป
หลังออกจากหมู่บ้านได้ไม่นาน ก็ถึงหมู่บ้านไทยพุทธก็มีทหารประจำการที่นี่ ก็ได้เห็นไฟส่องทางมืดมิดทั้งสองฝั่ง แม้กระทั้งฐานทหารเองก็ปิดไฟหมด แต่สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น พอเข้าใกล้ฐานทหาร ดิฉันเห็นทหารออกมาจากฐานริมถนน ทันใดนั่นเอง เสียงปืนดังสนั่น ทหารเหล่านั้นกราดยิงใส่รถยนต์ที่ตนเองจะพาลูกสาวไปที่โรงพยาบาล กระสุนเหมือนห่าฝนจำนวนหลายร้อยนัด ดิฉันก็โดนยิงเฉียวแขนขวาได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนญาติที่เป็นคนขับรถคมกระสุนทะลุด้านหลังได้รับบาทเจ็บ แต่ก็ยังฝืนขับรถต่อไปเรื่อยๆ ดิฉันพยายามห้ามว่าให้หยุดรถเพราะเกรงว่าด้านหน้าอาจมีฐานเช่นนี้อีก กลัวว่าจะโดนกราดยิงเป็นครั้งที่สอง
เมื่อพ้นจากฐานทหารแล้วนายรอนิง ก็หมดแรงที่จะขับต่อไป จึงหยุดรถทันทีที่หมู่บ้านบาลูกาลูวะ นางแมะย๊ะ ได้เปิดประตูรถ แล้วก็หันมาดูลูกสาวปรากฏว่าได้เสียชีวิตแล้ว และก็ได้อุ้มลูกออกมานั่งบนตัก พร้อมกับร้องขอความช่วยเหลือส่วนลูกชายที่อยู่ด้านหลังกลับรอดตาย และไม่ถูกคมกระสุนแต่อย่างใด ชาวบ้านในละแวกนั้นก็ได้นำเอารถของเขาพาไปส่งโรงพยาบาลศูนย์ยะลานางแมะย๊ะได้รับบาทเจ็บและได้รับการปฐมพยาบาลก็สามารถกลับบ้านได้ ส่วนญาติต้องมารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเนื่องจากโดนที่ส่วนสำคัญ
ดิฉันสูญเสียสามีและลูกสาวเป็นเรื่องที่น่าเศร้าและเสียใจเป็นอย่างยิ่ง คนที่ยิงเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่เองก็ยอมรับผิดในการกระทำที่เกิดขึ้นพร้อมกับยอมชดเชยค่าเสียหายให้กับครอบครัว
ข้อสังเกตก่อนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ช่วงเวลาประมาณตอนเย็นของวันเกิดเหตุ ชาวบ้านบอกว่าเห็นกลุ่มคนสวมชุดดำคล้ายทหารพราน เดินเท้าลาดตระเวนในหมู่บ้านประมาณ 7-8 คน เมื่อชาวบ้านเข้าไปทักกลุ่มคนดังกล่าวแล้วกลับไม่ได้รับเสียงตอบรับแต่อย่างใด อีกทั้งมีการตั้งด่านตรวจ และเห็นคนแต่งดำคล้ายเจ้าหน้าที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ สร้างความข้องใจแกชาวบ้านเป็นอย่างมาก
“คิดอยู่เสมอว่าทหารที่ลงมาทำหน้าที่เพื่อปกป้องดูแลชีวิตแลทรัพย์สินของประชาชน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ทหารกกลับทำร้ายประชาชนเสียเอง จึงขอวิงวอนให้ทหารออกนอกพื้นที่นี่ และไม่ต้องการเอาทหารหน่วยอื่นมาแทนที่อีก เพราะเราสามารถดูแลตนเองได้”.....
000
นี้คือสิ่งสะท้อนถึงความเจ็บปวดที่เล่าด้วยเสียงสั่น น้ำตาคลอ ไหลพรากออกมา แสดงถึงความเจ็บปวดที่ครอบครัวและญาติได้รับในครั้งนี้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)