Skip to main content
sharethis

เครือข่ายชาวบ้านและองค์กรอิสระเข้ายื่นหนังสือต่อเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา หวั่นผลกระทบจากหากร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยแร่ พ.ศ. ... ประกาศใช้ ย้ำต้องการมีส่วนร่วมเสนอความคิดเห็น เผยพบข้อกฎหมายละเมิดสิทธิชุมชน ปิดกั้นการมีส่วนร่วม และการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชน

เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.52 เวลาประมาณ 15.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ถนนพระอาทิตย์ เครือข่ายชาวบ้านและองค์กรอิสระซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการทำกิจการเหมืองแร่หากร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยแร่ พ.ศ. ... มีการประกาศใช้ เข้ายื่นหนังสือต่อเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เนื่องด้วยต้องการให้นำความเห็นของภาคประชาชนไปประกอบการพิจารณาขององค์คณะที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตั้งขึ้น ขอให้มีตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมเป็นองค์คณะพิจารณาฯ พร้อมทั้งให้มีตัวแทนจากภาคประชาชนเสนอความคิดเห็นร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยแร่ พ.ศ. ...

เนื่องด้วยเห็นว่ามีข้อกฎหมายหลายข้อซึ่งไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 เพราะละเมิดสิทธิชุมชน ปิดกั้นการมีส่วนร่วม และการรับข้อมูลข่าวสารของประชาชน เช่น ประชาชนผู้อาจมีส่วนได้เสียการกิจการเหมืองแร่ใต้ดิน ไม่มีโอกาสรับรู้ข้อมูลและใช้สิทธิโต้แย้งคัดค้านได้ รวมทั้งยังเอื้อประโยชน์ต่อผู้ประกอบการสำรวจและทำเหมืองแร่อย่างมาก โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับนั้นคุ้มค่ากับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหรือไม่

พร้อมทั้งให้อำนาจแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐมากเกินสมควร เช่น ลดหรือปรับเปลี่ยนขั้นตอนในการขออนุญาตทำกิจการเหมือง คือ ใช้ประกาศกระทรวงแทนการออกกฎกระทรวงซึ่งทำได้ง่ายกว่า ขั้นตอนการเก็บ นำเข้า ส่งออกแร่ไม่ต้องขออนุญาต

ขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยแร่ พ.ศ. ... อยู่ในขั้นตอนการดำเนินการของคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา ก่อนที่จะนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญเพราะกฤษฎีกาเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการออกกฎหมายโดยตรง ชาวบ้านและองค์กรฯจึงอยากให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นบ้าง
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net