Skip to main content
sharethis

 


ที่มา: ประชาไท

ที่มา: คุณ Kamkerng กระดานข่าวพันทิพ ห้องราชดำเนิน

11 ต.ค.52 เวลาประมาณ 16.00 น.ที่อนุเสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากทยอยเข้าร่วมตั้งแต่บ่ายโดยมีการปราศัยทวงคืนรัฐธรรมนูญ 40 และกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเย็นมีการถือป้ายผ้าขนาดยาวหลายร้อยเมตรเขียนข้อความว่า “กูต้องการรัฐธรรมนูญ 40 คืนมา” โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมร่วมถือและเดินไปตลอดถนนราชดำเนิน

นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การชุมนุมในครั้งนี้ เกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลจะประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในวันที่ 15 ต.ค.นี้ และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการทวงคืนรัฐธรรมนูญ 40 เนื่องจากวัน ที่ 11 ต.ค.เมื่อปี 2540 เป็นวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ซึ่งถือว่ามีความผูกพันกับประชาชนมากที่สุด นอกจากนี้ยังจะเป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการรวบรวมรายชื่อถอดถอนนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภาที่อิมพีเรียล ลาดพร้าว ในวันที่ 24 ต.ค. ซึ่งจะเป็นการอธิบายและให้เหตุผลการถอดถอนอย่างเป็นระบบและมีหลักฐานยืนยันไม่ต่างจากการอภิปรายในสภา เบื้องต้นรวบรวมได้ 7 ประเด็น ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นและการทำผิดกฎหมายของรัฐบาล

นายจตุพร กล่าวว่า รูปแบบการรวบรวมรายชื่อนั้นจะคล้ายกับการรวบรวมรายชื่อถวายฎีกา ซึ่งจะรวบรวมผู้มีสิทธิถูกต้องถามกฎหมายผ่านเครือข่ายคนเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ ที่กระจายอยู่ทั่วไป โดยคาดว่าจะรวบรวมรายชื่อได้ถึง 1 ล้านชื่อ ภายใน 1 เดือน แม้ว่าในกฎหมายจะระบุรายชื่อที่ถอดถอนนายกฯ เพียง 20,000 รายชื่อก็ตาม และยังต้องรายงานตนพร้อมส่งมอบรายชื่อกับประธานวุฒิสภา แต่คนเสื้อแดงไม่ให้ความเชื่อถือในกระบวนการดังกล่าวจึงจะรวบรวมชื่อจำนวนมากเพื่อสะท้อนกระแสสังคมว่าประชาชนไม่อาจยอมรับต่อรัฐบาลนี้ และเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ พื่อนำรัฐธรรมนูญ 40 กลับมาใช้โดยจะใช้ช่องทางรวบรวมชื่อของสมาชิกรัฐสภาที่ได้จากการเลือกตั้งใหม่มานี้เกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นช่องทางตามมาตรา 291 ของรัฐธรรมนูญ 50 ที่ใช้บังคับอยู่

เขายังกล่าวถึงข้อเสนอการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลนำเสนอว่า เป็นเพียงการยื้อเวลา และไม่สามารถแก้ปัญหาได้จริง โดยเหตุผลที่นายกฯ ต้องหาทางออกเช่นนี้เป็นเพราะในด้านหนึ่งนายอภิสิทธิ์ ยืนอยู่กับกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งไม่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่อีกด้านได้รับปากกับพรรคร่วมรัฐบาลไม่ว่ากับนายเนวิน ชิดชอบ นายบรรหาร ศิลปอาชา เมื่อครั้งจัดตั้งรัฐบาลว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าประเด็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่มีประโยชน์ต่อประชาชน เพราะยังมีเงื่อนปมความไม่ชอบธรรมในหลายประเด็นที่ไม่ถูกหยิบยกขึ้นมา

จตุพร กล่าวถึงกิจกรรมตลอดเดือนตุลาคมของคนเสื้อแดงว่า ในวันที่ 17 ต.ค.52 ซึ่งครบกำหนด 60 วัน การยื่นถวายฎีกาโดยคนเสื้อแดง จะมีการชุมนุมทวงถามการถวายฎีกาต่อสำนักราชเลขาฯ โดยอาจมีการโฟนอินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพื่อนำถวายพระพรให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวหายจากอาการประชวรด้วย วันที่ 24 ต.ค.จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนอกสภา และในวันที่ 31 ตุลาคม จะมีการจัดกิจกรรมรำลึกถึงลุงนวมทอง ไพรวัลย์ คนขับแท็กซี่ที่สละชีวิตต่อต้านการรัฐประหาร 
 

วรวรรณ พุ่มม่วง แม่บ้านอายุ 62 ปี หนึ่งในผู้ร่วมชุมนุมให้ความเห็นต่อรัฐธรรมนูญ 40 ว่า เห็นด้วยกับการเรียกร้องให้นำรัฐธรรมนูญ 40 มาใช้ เนื่องจากรัฐธรรมนูญ 50 มีที่มาที่ไม่ชอบธรรม และยังมีเนื้อหาที่เอาเปรียบประชาชน สิ่งสำคัญที่ต้องการมากที่สุดคือ ประชาธิปไตย และรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง  หากพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งก็จะยอมรับและไม่ต่อต้าน แต่นอกจากรัฐบาลนี้จะไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแล้ว ยังมีนโยบายประชานิยมที่ไร้สาระ และไม่เป็นประโยชน์แท้จริงกับคนรากหญ้า เช่น กรณีจ่าย 2,000 ให้กับคนที่มีเงินเดือนถึง 15,000 บาท ส่วนการทุจริตคอรัปชั่น รัฐบาลชุดนี้ก็มีปัญหาและถูกตรวจสอบน้อยกว่า

“ป้ามาชุมนุมตั้งแต่หลังรัฐประหารนั่นเลย ลูกเต้าเค้าก็เป็นห่วง แต่เราไม่กลัว ตายก็ตาย ตอนเมษานั่นก็วิ่งป่าราบกับเค้า ถ้าเราได้รัฐธรรมนูญ 40 ได้ประชาธิปไตยคืนมา เราจบ เราทำเพื่อลูกเพื่อหลานเรา เพราะตอนนี้นอกจากจะไม่มีประชาธิปไตยแล้วยังมีหนี้สินเต็มไปหมด” วรวรรณกล่าว
ร.อ.สุชาติ นิยมรัตน์ อดีตทหารที่เพิ่งเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดเมื่อเร็วๆ นี้ และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมชุมนุมกล่าวว่า รัฐธรรมนูญ 40 นั้นดีอยู่แล้ว ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็งและรัฐบาลมีเสถียรภาพสามารถทำประโยชน์ให้กับประชาชนได้อย่างจริงจังและต่อเนื่อง แต่การรัฐประหารทำให้บ้านเมืองแย่ลงอีกทั้งยังร่างรัฐธรรมนูญที่เข้าข้างตัวเอง โดยเฉพาะมาตรา 309 ในรัฐธรรมนูญ 50 ทั้งนี ตัวเขาเริ่มออกมาชุมนุมต่อต้านรัฐประหารที่สนามหลวงตั้งแต่มีคนไม่กี่ร้อยคน เพราะไม่เห็นด้วยกับการนำของผู้นำทหาร และทหารผู้น้อยก็มีจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วยกับบรรดาผู้นำแต่ที่ยังอยู่กันได้เพราะรักษาวินัยเท่านั้น 
 

หมายเหตุ - เพิ่มเติมเนื้อหา 16.50 น. (12 ต.ค.52)

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net