เมื่อวันที่ 20 มี.ค.52 ที่กรุงเจนีวา จูลิโอ มอนเทเนอร์ ประธานสมาคมเอดส์นานาชาติ (IAS) กล่าวว่า การที่พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 วิจารณ์การส่งเสริมให้ประชาชนใช้ถุงยางอนามัยการนั้น ถือเป็นการไม่รับผิดชอบและเป็นเรื่องอันตราย

ทั้งนี้ เนื่องจากวันที่ 17 มี.ค. พระสันตะปาปาได้กล่าวกับสื่อมวลชนระหว่างเดินทางเยือนแคเมอรูน ถึงเรื่องเอดส์ว่า "เป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่สามารถเอาชนะ ได้ด้วยเงินอย่างเดียว ไม่สามารถเอาชนะด้วยการแจกจ่ายถุงยางอนามัย ซึ่งยิ่งจะทำให้เพิ่มปัญหา" โดยพระองค์เห็นว่า ตามหลักของคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก เชื่อว่าการซื่อสัตย์ต่อคู่ครองและการรักษาความบริสุทธิ์ก่อนแต่งงาน ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคเอดส์ ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงยางอนามัยแต่อย่างใด เพราะถุงยางอนามัยจะช่วยส่งเสริมให้คนทั่วไปกล้าที่จะมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้ามากขึ้น และอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ได้

นี่เป็นครั้งแรกที่ประสันตะปาปาเบเนดิกต์ออกมาพูดต่อต้านการใช้ถุงยางอนามัย ขณะที่ในประวัติศาสตร์ จุดยืนของคริสตจักรโรมัน คาทอลิก ก็เป็นที่รู้กันดีว่าต่อต้านการคุมกำเนิด  อย่างไรก็ตาม สันตะปาปาคนก่อน คือจอห์นปอลที่ 2 ไม่เคยพูดในที่สาธารณะต่อต้านการใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อเอชไอวี

"มันไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อยที่จะบ่งชี้ว่าถุงยางอนามัยทำให้เชื้อ HIV แพร่กระจายเพิ่มขึ้น แต่กลับมีหลักฐานยืนยันในทางตรงกันข้ามว่าการใช้ถุงยางอนามัยทั้งของผู้ชายและผู้หญิงอย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ สามารถลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ HIV ผ่านเพศสัมพันธ์ได้ถึง 80-90%" ดร.มอนเทเนอร์กล่าว

กรรมการบริหารของ IAS อีกคนหนึ่ง ครีก แม็คเคลอร์ ให้ความเห็นว่า นี่เป็นครั้งแรกของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ในการเยือนแอฟริกา ซึ่งเป็นทวีปที่มีปัญหาเกี่ยวกับการแพร่กระจายของเอดส์อย่างหนัก ขณะเดียวกัน ก็มีประชาการที่นับถือคาทอลิกถึง 17% และเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี ดังนั้น ผู้นำสูงสุดของคริสตจักรจึงไม่ควรให้ความเห็น ซึ่งนอกจากจะตรงกันข้ามกับฉันทามติที่ทั่วโลกโดยปราศจากหลักฐานยืนยันแล้ว ยังอาจจะทำให้การเกิดการขยายตัวการแพร่ระบาดของเอดส์ ความเจ็บป่วยและความตายได้

ทั้งนี้ IAS เป็นองค์กรที่มีผู้เชี่ยวชาญด้าน HIV เป็นลำดับต้นๆ ของโลก มีสมาชิกกว่า 13,000 คนจาก 188 ประเทศที่ทำงานในทุกระดับในการต่อสู้กับการแพร่กระจายของ HIV/AIDS และกำลังจะมีการจัดประชุมใหญ่เกี่ยวกับเรื่องการรักษาการป้องกันเอดส์ที่ประเทศแอฟริกาใต้ในเดือนกรกฎาคมนี้

ต่อกรณีนี้ กระทรวงต่างประเทศฝรั่งเศสต้องรีบออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ถุงยางอนามัยยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโรคเอดส์ ด้านรัฐมนตรีสาธารณสุขและรัฐมนตรีการพัฒนาของเยอรมนีก็เห็นว่า การใช้ถุงยางอนามัยจะทำให้การวางแผนครอบครัวในกลุ่มคนยากจนได้ผล ส่วนรัฐมนตรีการพัฒนาของเนเธอร์แลนด์ มองว่าเป็นเรื่องอันตรายมากทีเดียวที่สมเด็จพระสันตะปาปาฯ ทรงห้ามผู้คนไม่ให้ใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ การทำเช่นนั้นจะยิ่งทำให้การแพร่ระบาดของเอดส์ทวีความรุนแรงมากขึ้น

--------------------------------
ที่มาบางส่วน : เว็บไซต์แนวหน้า