Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis


โดย สมุดบันทึกสีแดง


 


 


 


ก่อนอื่นต้องขอบอกดังๆ ว่า การสร้างความเสมอภาคทางเพศระหว่างหญิงชายหรือคนรักเพศเดียวกันในสังคม มันไม่ใช่งานอดิเรกหรืองานสังคมสงเคราะห์ของคุณหญิงคุณนายคนชั้นสูง เพราะพวกนี้ไม่เคยมีอุดมการณ์ที่ต้องการปลดปล่อยผู้หญิงอย่างแท้จริง พวกนี้เชิดชูคุณค่าของการเป็นผู้หญิงไทยๆ สะเทือนใจอย่างโรแมนติกกับความยากจนของเพื่อนร่วมชาติ แต่พวกนี้ลืมไปว่าพวกเธอนั่งอยู่บนคราบเหงื่อและน้ำตาของหญิงยากจนและหญิงทำงานมานานแค่ไหน ผู้หญิงไทยโดยส่วนใหญ่ต้องทำงานตลอดชีวิตไม่ว่าแก่ชราแค่ไหน แล้วพวกนี้จะมาเป็นหัวหอกในการเรียกร้องสิทธิสตรีได้อย่างไร


 


ในทางกลับกันเมื่ออุดมการณ์นี้มันถือกำหนดขึ้นมาจากคนจน จากคนงาน คนชนชั้นล่างของสังคมเพื่อเรียกหาสิทธิเสรีภาพ คนส่วนใหญ่เหล่านี้ในยุคปัจจุบันนี้แหละที่จะต้องมาผลักดันการต่อสู้นี้ต่อไป คำถามสำคัญของเราวันนี้เราจะสืบทอดอุดมการณ์ของสิทธิสตรีของเราอย่างไร โดยเฉพาะสังคมไทยในยามมืดบอดต่อประชาธิปไตยเช่นนี้ และก็ขอให้กำลังใจ คุณจีรนุช เปรมชัยพร webmaster ของประชาไท หรือ อีกท่านหนึ่งคือ คุณจิตรา คชเดช อดีตประธานสหภาพแรงงานไทรอัมพ์ คนที่ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ เธอเป็นคนเชิดหน้าถกเถียงและเรียกร้องเรื่องสิทธิทำแท้งตามความต้องการของผู้หญิง เธอสู้กับพวกที่อ้างศีลธรรมเน่าไทยๆ อย่างกล้าหาญ เพราะรู้ว่าศีลธรรมมันคือเครื่องมือในการควบคุมผู้หญิง อย่างชนิดที่ผู้หญิงชนชั้นกลางผู้มากการศึกษาไม่กล้าเอาอย่าง ภายใต้คำอธิบายว่าแนวทางแบบนี้ปะทะกับสังคมไทยมากเกินไป สังคมยังไม่พร้อมหรืออีกอย่างหนึ่งอาจจะเพราะเค้าไม่กล้าเป็นผู้นำความก้าวหน้ามาสู่สังคมนั่นเอง ทัศนะทางเพศที่ก้าวหน้าเช่นนี้ของจิตรา สอดรับกับทัศนะที่ก้าวหน้าด้านอื่น เธอไปออกทีวีเรื่องสิทธิทำแท้ง แต่เธอใส่เสื้อรณรงค์ "ไม่ยืนไม่ใช่อาชญากร คิดต่างไม่ใช่อาชญากรรม" เพื่อให้สิทธิเสรีภาพกับ คุณ โชติศักดิ์ อ่อนสูง ซึ่งโดนคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เพราะเธอมองว่ามันไม่เป็นธรรม ถ้าฝ่ายรัฐละเมิดสิทธิเสรีภาพด้านนี้ได้ ทำไมพวกนั้นมันจะละเมิดเสรีภาพด้านอื่นๆ ไม่ได้ ผู้หญิงธรรมดาเช่นนี้แหละที่จะเป็นผู้สืบทอดอุดมการณ์ของสิทธิสตรี ความเสมอภาคทางเพศ และประชาธิปไตย ผู้หญิงเช่นนี้แหละที่เราควรและต้องเคารพสรรเสริญ


 


ข้อเสนอเรียกร้องให้ผู้หญิงมีบทบาทในทางการเมืองก็ดี แต่บางทีเราต้องทบทวนกันหนักๆหน่อยๆ ว่าเราอยากได้ผู้หญิงแบบไหนเป็นตัวแทนของเรา เพราะบางทีผู้หญิงในรัฐสภานั่นแหละตัวดีในการทำลายประชาธิปไตย เช่น ส.ว.รสนา โตสิตระกูล ที่มีส่วนในการสนับสนุนเพิ่มโทษร่างกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และเธอก็ไม่ทำอะไร นอกจากกล่าวอ้างกับคนใกล้เคียงว่า ไม่รู้เรื่อง พวก ส.ว. 40 ซึ่งหนึ่งในนั้นมีสามีเธอร่วมวงอยู่ด้วย ฉะนั้นข้อแก้ตัวว่าพวกกลุ่ม 40 ส.ว.ชอบเอาชื่อเค้าไปอ้างจึงไม่มีเหตุผล คำถามคือทำไมคุณไม่ออกมามีจุดยืนเพื่อสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตย ผู้หญิงแบบนี้เราคงไม่สามารถให้เป็นผู้นำในการปลดแอกสตรี เพราะนิ่งดูดายต่อการทำลายเสรีภาพด้านอื่นๆ ฉะนั้นการเรียกร้องให้ผู้หญิงมีบทบาททางการเมืองนั้น ต้องพูดต่อไปว่าต้องเป็นผู้หญิงที่มาจากคนรากหญ้าคนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง และต้องดูจุดยืนทางการเมืองอีกด้วย


 


สองมือของเราสามารถทำอะไรได้บ้างในยามนี้ มือหนึ่งของเราต้องเรียกร้องประชาธิปไตย ความเสมอภาคไม่สามารถเกิดขึ้นได้ถ้าสังคมไร้ประชาธิปไตย การเคารพสิทธิทางเพศไม่สามารถงอกเงยออกมาจากศีลธรรมจารีตโบราณของเผด็จการได้ อนึ่ง อย่าลืมว่าหญิงชนชั้นสูงนั้นมีส่วนร่วมมากเพียงไรในการทำลายประชาธิปไตย เราต้องหาทางลงโทษและกำจัดบทบาทของหญิงชั้นสูงพวกนี้อย่าให้ไประรานคนอื่น มือที่สองของเราต้องสร้างโมเดลของสังคมใหม่ขึ้นมาแทนโมเดลสังคมเก่าที่เน่าเฟะ ท่ามกลางการเรียกร้องประชาธิปไตยคือช่วงเวลาหนึ่งที่ดีที่สุดในการพัฒนาสิทธิเสรีภาพในทุกๆด้าน สิ่งหนึ่งที่สำคัญในองค์ประกอบของโมเดลใหม่คือกรอบความสัมพันธ์ระหว่างเพศต่างๆในสังคม ที่แต่ละเพศมีความเคารพซึ่งกันและกัน คนเสื้อแดงต้องเปิดกว้างต่อความเสมอภาคในรูปแบบต่างๆ เช่น คนรักเพศเดียวกัน สิทธิทำแท้งเสรีสำหรับสตรี เราต้องเรียกร้องให้ผู้หญิงธรรมดาๆ เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้นอีก ในระดับต่างๆ จริงๆ แล้วคนเสื้อแดงหลายกลุ่มนำโดยผู้หญิงอยู่แล้ว เราควรเรียกร้องประเด็นที่เป็นประโยชน์ดังต่อไปนี้


 


 





























ประเด็น


ข้อเสนอ


ข้อโต้แย้งของฝ่ายรัฐ


ความจริงที่แย้งเหตุผลฝ่ายรัฐ


สิทธิทำแท้ง


ให้ผู้หญิงสามารถทำแท้งได้ตามความต้องการ ภายใต้การดูแลของหมอ และค่าใช้จ่ายต้องมาจากรัฐ


-เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ ฆ่าคนมันบาป


-ทำให้ผู้หญิงสำส่อนมากขึ้น ทำลายวัฒนธรรมอันดีงามของไทย


- ประเทศไทยยังคงมีโทษประหารชีวิต


- นายพลของประเทศไทย ฆ่าประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยยังไม่ถูกลงโทษ


-คนที่มีส่วนร่วมในการสั่งปราบปรามนักศึกษาที่เรียกร้องประชาธิปไตย ยังมีหน้ามีตาในสังคม


- การเลือกทำแท้งโดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงที่มีครอบครัวแต่ไม่มีเงินพอที่จะเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีจึงตัดสินใจทำแท้ง


-ผู้หญิงปลอดภัยที่สุดจากการทำแท้งถูกกฎหมาย การห้ามทำแท้งเพียงแต่ทำให้ผู้หญิงไปทำแท้งอันตราย


-ในประเทศที่มีสิทธิทำแท้ง การมีเพศสัมพันธ์ก็เป็นไปตามความต้องการปกติ ไม่ได้เพิ่มขึ้นหรือลดลง


-คนที่มีเมียเยอะที่สุดในสังคม ก็คือชนชั้นปกครอง


สองมาตรฐาน


 


ผู้ชายต้องมีสิทธิในการลาคลอด


 


ผู้หญิงต้องการกำลังใจหลังคลอดลูกและต้องการให้สามีช่วยเลี้ยงลูก ทั้งผู้หญิงและผู้ชายควรจะมีสิทธิลาคลอดในระยะเวลาที่เท่าเทียมกัน และควรจะขยายเวลาในการลาคลอด เพราะเด็กคือทรัพยากรต่อไปของสังคมที่สำคัญ


-สังคมไทยยังไม่พร้อม


-ไม่รู้มีเงินจ่าย


-ยังไม่เคยมีแนวความคิดเรื่องนี้


- พวกผู้มีอำนาจในสังคมไม่เคยกลุ้มใจเมื่อไม่มีใครช่วยเลี้ยงลูก เพราะพวกนี้มีพี่เลี้ยงเต็มไปหมด และมีเงินเหลือเฟือ


-พวกนี้เอาเงินไปใช้ทางอื่นเช่น งบประมาณทางการทหารและพิธีกรรม


-เด็กบางส่วนในสังคมมีทรัพยากรใช้อย่างเหลือเฟือในขณะที่เด็กกำพร้ามีจำนวนเป็นแสนๆ


ต้องลดชั่วโมงในการทำงานในแต่ละสัปดาห์ลง และ ต้องมีสถานที่รับเลี้ยงเด็กอ่อนใกล้สถานที่ทำงาน อย่างทั่วถึง


เพื่อให้พ่อกับแม่มีเวลาให้ลูกๆ ร่วมพัฒนาความสัมพันธ์กับลูกๆ


และเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตโดยทั่วไป


-ส่งเสริมให้เด็กกินนมแม่


-สร้างศีลธรรมและบอกว่าหน้าที่ของพ่อแม่ต้องดูแลลูกให้ดีๆ โดยไม่มีนโยบายที่เป็นรูปธรรมรองรับ


-เรามีแม่ของแผ่นดิน? แต่ชีวิตเขาไม่เหมือนเรา


 


-แรงงานหญิงสามารถลาคลอดได้ 3 เดือนเท่านั้น ฉะนั้นการให้นมลูกในช่วงระยะเวลาที่สำคัญๆอย่างต่ำ 6 เดือน จึงไม่สามารถทำได้


-ค่าแรงขั้นต่ำของไทยต่ำมาก ทำให้ไม่พอค่าใช้จ่าย ทั้งสามีภรรยาต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อให้เงินพอกับรายจ่ายที่จำเป็น


-แม่ของแผ่นดินไม่มี แต่ถ้าหากมีแล้วปล่อยให้เด็กๆอดอยาก มีคุณภาพชีวิตไม่ดีก็ควรถูกประณามไม่ควรมีเสียดีกว่า แต่ควรมีแม่ของเด็กที่สุขภาพดี มีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน


ต้องท้าทายกระแสแนวความคิดอนุรักษ์นิยมทางด้านเพศของกระทรวงวัฒนธรรม ที่เน้นครอบครัวจารีต ซึ่งไม่ตรงกับโลกจริงของสังคมปัจจุบัน


เพื่อเพิ่มบรรยากาศเสรีภาพโดยทั่วไป


ปลุกกระแสอนุรักษ์นิยมอยู่ตลอดเวลา อ้างถึงความดีของครอบครัวจารีต แต่คนชั้นสูง นายพล นักการเมืองก็ไม่สามารถมีวิถีชีวิตตามที่เขาอ้าง


แนวจารีตทำให้ปัญหาการกดขี่ทางเพศ มีเพิ่มมากขึ้น ทำให้คนในสังคมประณามผู้หญิงที่ทำแท้ง, คนรักเพศเดียวกัน, หญิงบริการทางเพศ แทนที่จะตั้งคำถามว่าเงื่อนไขอะไรที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์นี้ อะไรธรรมชาติ อะไรไม่เป็นธรรมชาติ


 


 


การเฉลิมฉลองการเรียกร้องสิทธิสตรีทั้งในไทยและในระดับสากล ไม่สามารถและไม่เคยแยกออกจากการเรียกร้องร้องประชาธิปไตย และสิทธิเสรีภาพทางด้านอื่นๆได้ ที่มาของวันดังกล่าวคือคนงานหญิงเป็นแกนนำแต่คนงานชายก็ร่วมสนับสนุนด้วย เพราะทั้งหญิงและชายชนชั้นล่างได้ประโยชน์ที่หนุนเสริมซึ่งกันและกัน ฉะนั้นศัตรูของผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชาย และเป้าหมายในการเรียกร้องสิทธิสตรีไม่ใช่เพื่อให้ถูกกดขี่เหมือนผู้ชาย หรือ ได้รับค่าแรงต่ำๆ เท่ากับผู้ชาย มีความเสี่ยงในชีวิตเท่ากับผู้ชาย ปัญหาหลักอยู่ที่ความเหลื่อมล้ำทางสังคม เรื่องชนชั้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ปัญหาการกดขี่ทางเพศรุนแรงขึ้น คำขวัญของเราควรจะเป็น ปลดปล่อยทุกคนออกจากความอดอยาก ความกลัว และต้องมีการกระจายทรัพยากรอย่างเป็นธรรม เพื่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ว่าจะเพศอะไรหรือรสนิยมอย่างไร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net