"หมูแฮม" กัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ ถูกศาลตัดสินจำคุก 15 ปี 2 เดือนฐานขับรถชนกระเป๋ารถเมล์ตายและคนบาดเจ็บหลายคน อ้างสติฟั่นเฟือนควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันฟังไม่ขึ้น แต่ศาลปรานีที่คำสารภาพเป็นประโยชน์บ้างและเชยผู้บาดเจ็บไปบ้างแล้ว ลดโทษเหลือจำคุก 10 ปี 1 เดือน ยื่นหลักทรัพย์ 6 ล้าน ประกันตัวสู้อุทธรณ์

เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 51 ที่ศาลจังหวัดพระโขนง ถนนสรรพาวุธ เมื่อเวลา 09.30 น. คณะผู้พิพากษาออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาในคดีขับรถชนคนตายที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 7 (พระโขนง) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายกัณฑ์พิทักษ์ ปัจฉิมสวัสดิ์ หรือหมูแฮม อายุ 21 ปี ลูกชายของนายกัณฑ์เอนก ปัจฉิมสวัสดิ์ กับนางสาวิณี ปะการะนัง อดีตนางสาวไทยปี 2527 เป็นจำเลยในความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ทำร้ายร่างกาย ผู้อื่นทำให้ได้รับบาดเจ็บเป็นอันตรายแก่กาย ตามฟ้องโจทก์ระบุความผิดจำเลยสรุปว่า

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. 50 เวลา 22.50 น. จำเลยใช้ก้อนหินทุบหน้านายสถาพร อรุณศิริ พนักงานขับรถโดยสารปรับอากาศ ขสมก. สาย ปอ. 513 เนื่องจากไม่พอใจที่เกิดขับรถปาดหน้า จากนั้นจำเลยยังขับรถเบนซ์พุ่งชนผู้โดยสารที่ยืนอยู่บนทางเท้าทำให้นางสายชล หลวงแสง พนักงาน เก็บเงินรถโดยสาร ขสมก. เสียชีวิต แล้วพยายามขับรถหลบหนี กระทั่งมีรถเมล์ขับปาดหน้ารถของจำเลยให้หยุดบริเวณหน้าป้อมตำรวจจราจรปากซอยสุขุมวิท 26 แยกอารีย์ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา จำเลยให้การปฏิเสธอ้างว่า มีอาการทางประสาท สติฟั่นเฟือนบังคับตัวเองไม่ได้

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยาน หลักฐานที่โจทก์และจำเลยนำสืบแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจำเลยมีสติฟั่นเฟือน ที่จำเลยอ้างว่าต้องได้รับการรักษาอาการป่วย และมีอาการเกร็งขณะเกิดเหตุนั้น เพราะจำเลยมีความเครียดอันเกิดจากการก่อเหตุ ส่วนที่จำเลยอ้างว่าบังคับตัวเองไม่ได้ มีสภาพจิตแปรปรวนนั้น เป็นข้ออ้างลอย ๆ ฟังไม่ขึ้น เพราะจำเลยไม่มีพยานหลักฐานยืนยันทางการแพทย์ชัดเจน และจำเลยได้รับการเลี้ยงดูอย่างตามใจมาตลอด เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จึงพิพากษาให้ลงโทษจำคุกจำเลย 15 ปี แต่คำ ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ประกอบกับจำเลยได้บรรเทาผลร้ายให้แก่ผู้เสียหายหลายคนเป็นเงินจำนวนพอสมควร เมื่อคำนึงถึงสุขภาพแห่งจิตจึงลดโทษให้หนึ่งในสาม ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ให้จำคุก 10 ปี ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่น จำคุก 2 เดือน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 เดือน รวมจำคุกจำเลยไว้ 10 ปี 1 เดือน และให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายที่ 7 จำนวน 1 แสนบาท ผู้เสียหายที่ 9 จำนวน 8 แสนบาท และให้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นางทองคำ หลวงแสง มารดาของ นางสายชล หลวงแสง ผู้เสียชีวิต จำนวน 2,158,500 บาท โดยให้คำนวณดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับตั้งแต่วันเกิดเหตุ

หลังฟังคำพิพากษา นายกัณฑ์เอนก พ่อของหมูแฮม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หมูแฮม รู้สึกไม่สบายใจ และรู้สึกสำนึกผิดที่ได้กระทำไป ซึ่งครอบครัวได้เยียวยาค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายไปแล้วจำนวนมาก ส่งผลกระทบด้านการเงินของครอบครัวเหมือนกัน ส่วนด้านคดีความนั้นจะขอยื่นอุทธรณ์ต่อไป

ต่อมานายกัณฑ์เอนก พ่อและครอบครัวของหมูแฮมได้มอบอำนาจให้ทนายความยื่นขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินแปลงหนึ่งในกรุงเทพฯ ราคาประเมิน 6 ล้านกว่าบาท ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวในระหว่างยื่นอุทธรณ์ โดยตีราคาประกัน 5 ล้านบาท