Skip to main content
sharethis

องอาจ เดชา : เรื่องและภาพ


 


 


 


 




 



 




 




 


 






  





 


 


"ชนเผ่าพื้นเมืองเองก็ไม่ควรจะประมาท ควรเฝ้าระวังผลกระทบที่เกิดจากนโยบายป่าไม้และกฎหมายป่าไม้ให้มากอย่างใกล้ชิด...และต้องจดจำไว้เสมอว่า ชนเผ่าไม่เคยได้รับประโยชน์ใดๆ จากพรรคการเมืองใดที่ขึ้นมาเป็นรัฐบาล"


 


วิวัฒน์  ตามี่


ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนบนพื้นที่สูง (ศปส.)


 


 


นี่คือคำสัมภาษณ์ของ "วิวัฒน์ ตามี่" ศูนย์ปฏิบัติการร่วมเพื่อแก้ไขปัญหาประชาชนบนพื้นที่สูง(ศปส.) ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ทำงานเป็นตัวเชื่อมประสานระหว่างชาวบ้านกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรสิทธิมนุษยชน กรณีการปางแดง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่


 


 


ในฐานะที่ทำงานด้านสิทธิของกลุ่มชาติพันธุ์ในประเทศไทย มองว่าการแก้ไขปัญหาปางแดงครั้งนี้(โครงการบ้านมั่นคงชนบทชุมชนบ้านปางแดง)จะได้ผลหรือไม่?


โครงการฯนี้เชื่อว่าสามารถสร้างหลักประกันให้แก่ชาวบ้านด้านปัจจัย 4 หลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน หมายถึงว่า ชาวบ้านได้รับการปกป้องคุ้มครองด้านสิทธิขั้นพื้นฐาน สามารถใช้เป็นฐานยกระดับการพัฒนาไปสู่เรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินวิถีชีวิต อาศัยโครงการนี้ทำความคิดกับสาธารณะหรือสังคมไทยได้เข้าใจถึงประเด็นปัญหาผลกระทบที่เกิดจากนโยบายป่าไม้ที่ผิดพลาด และทำให้สังคมทั่วไปรับรู้ว่าที่ผ่านมา กลุ่มชาติพันธุ์ชายขอบได้ถูกเลือกปฏิบัติจากรัฐและเจ้าหน้าที่รัฐอย่างไรบ้าง


 


จะเห็นว่า หลังจากเริ่มดำเนินการ โครงการฯนี้ได้รับการตอบสนองที่ดีจากสาธารณะและภาคประชาสังคมอื่นพอสมควร เห็นได้จากมีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน นักวิชาการ นักศึกษา ให้ความสนใจในการศึกษาดูงาน เรียนรู้งานที่เราทำ ล่าสุดเมื่อวันที่ 5-6 ธันวาคม 2551ที่ผ่านมา ก็มีการทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อระดมทุนสร้างบ้านและซื้อที่ดิน ซึ่งปรากฏว่าได้รับความสนใจและได้รับความร่วมมือจากประชาชนและคนทำงานกลุ่มต่างๆ ทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี


 


สรุปก็คือโครงการฯจัดพื้นที่และสร้างบ้าน สามารถสร้างหลักประกันความมั่นคงด้านชีวิตให้แก่ชาวบ้านปางแดง เพราะเป็นโครงการที่จัดทำร่วมกันระหว่างหลายหน่วยงาน มีทั้งภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนและผู้แทนชาวบ้านที่เดือดร้อน มีองค์กรพัฒนาเอกชนระดับท้องถิ่นหลายองค์กรอยู่เกาะติดให้ความช่วยเหลือพัฒนา เชื่อว่า แนวทางดังกล่าวสามารถแก้ไขปัญหาชาวบ้านได้ผลและชาวบ้านมีหลักประกันในการแก้ไขปัญหา


 


 


แล้วมั่นใจหรือไม่ว่าในอนาคต ชาวบ้านปางแดงจะไม่ถูกจับกุมซ้ำซากอีก?


ตอบได้เลยว่าไม่ค่อยมั่นใจมากนัก เพราะว่าเขตพื้นที่ปางแดงและหมู่บ้านต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ถูกกฎหมายป่าอนุรักษ์หลายฉบับประกาศทับพื้นที่อยู่ เช่น ป่าสงวนแห่งชาติเชียงดาวและอุทยานแห่งชาติเชียงดาว (ผาแดง) ส่งผลทำให้ที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินกลายเป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ชาวบ้านอาศัยทำกินผิดกฎหมาย จึงมีโอกาสถูกจับกุมข้อหาบุกรุกป่าได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละรัฐบาลด้วยว่า มีความเข้มงวดในการใช้กฎหมายอย่างไร 


 


ต่อกรณีที่ชาวบ้านปางแดงถูกจับกุมอย่างซ้ำซากถึงสามครั้งที่ผ่านมานั้น บอกได้เลยว่าเป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลและทัศนะคติต่อชนเผ่าของรัฐมนตรีที่รับผิดชอบเรื่องป่าไม้ กรณีการจับกุมชาวบ้านปางแดงครั้งที่สาม เมื่อปี พ.ศ.2547 นั้น บอกได้เลยว่าเกิดจากฝีมือของนายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในรัฐบาลพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งรัฐมนตรีท่านนี้มีอคติกับชนเผ่าและกลุ่มชาติพันธุ์ค่อนข้างมาก ไม่เฉพาะเพียงพื้นที่ปางแดงเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐมนตรีท่านนี้ แต่มีชนเผ่าที่อาศัยอยู่ในจังหวัดต่างๆ หลายจังหวัด ที่ได้รับผลกระทบถูกดำเนินคดีและพื้นที่ทำกินถูกยึดไปปลูกป่า อย่างกรณีพื้นที่ในเขตจังหวัดแม่ฮ่องสอน ชนเผ่าถูกดำเนินคดีเป็นคดีแห้งกว่า 3,000 คดี  ซึ่งตอนนี้นายสุวิทย์ ก็กลับมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ฯ อีก เลยไม่แน่ใจว่าชาวบ้านปางแดงจะไม่ถูกจับกุมอีกหรือไม่


 


อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าพื้นที่ปางแดง ณ ขณะนี้ คงไม่เหมือนอดีตแน่นอน กล่าวคือ ชาวบ้านรวมตัวกันได้อย่างเข้มแข็ง มีความรู้มีการศึกษามากขึ้น หลายหน่วยงานให้ความสนใจเอาใจใส่ ชาวบ้านมีพื้นที่ทางสังคมหรือได้รับการยอมรับที่มากขึ้นจากสาธารณะ แต่ก็ประมาทไม่ได้เช่นกันว่าจะไม่ถูกกลั่นแกล้งอีก ทั้งนี้เราคงต้องมองเงื่อนไขปัจจัยอื่นเป็นองค์ประกอบในการประเมินสถานการณ์ด้วย เช่นว่าการจัดการภายในของชุมชนปางแดงเองมีปัญหาความขัดแย้งหรือไม่ มีความสมัครสมานสามัคคีกันมากน้อยแค่ไหน จัดการไม่ให้เกิดปัญหากระทำผิดกฎหมายอย่างไร เช่น บุกรุกป่า ค้ายาเสพติด  ชาวบ้านปางแดงมีพื้นที่ทางสังคมมากน้อยแค่ไหน ทำกิจกรรมทำความคิดกับสาธารณะอย่างต่อเนื่องเพื่อให้รับข้อมูลข่าวสารเป็นที่รับรู้และเข้าใจหรือไม่   


 


 


อยากให้ช่วยสรุปสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนชนเผ่าในปีที่ผ่านมา และมองว่ารัฐบาลชุดใหม่นี้ จะก่อให้เกิดสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนชนเผ่าใน 2552 นี้ รุนแรงหรือไม่อย่างไร?


โดยภาพรวมภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบันไม่น่าจะรุนแรง ไม่น่าจะมีเหตุการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนชนเผ่าที่รุนแรงเหมือนรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เพราะรัฐบาลชุดนี้ไม่มีนโยบายประชานิยมฆ่าตัดตอนชนเผ่าหรือชนกลุ่มน้อย ไม่มีนโยบายอพยพหมู่บ้าน ปลูกป่ายึดพื้นที่ทำกินเพื่อสร้างคะแนนนิยมให้แก่ตนเอง  แต่ก็คงไม่ได้รับการดูแลดีไปกว่าเดิมมากนัก


 


รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายหลายเรื่องที่เอื้อต่อหลักประกันสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองหลายเรื่องเช่นว่า รับปากว่าสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองจะได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียมสากล และคิดจะแก้ไขปัญหาที่ดินในเขตป่าด้วยการยอมรับแนวคิดโฉนดชุมชน เหตุผลที่สนับสนุนเพิ่มเติมว่าจะไม่มีการละเมิดสิทธิชนเผ่าพื้นเมืองมากขึ้นก็คือ รัฐบาลชุดนี้คงไม่มีเวลาไปละเมิดสิทธิชนกลุ่มอื่นแน่ เพราะลำพังแก้ไขปัญหาตนเองเพื่อให้รอดจากปัญหาแวดล้อมที่เผชิญอยู่ทุกวันนี้ก็ลำบากแล้ว จึงไม่น่าจะมีเวลาไปสนใจกลุ่มอื่นและคิดว่าคงไม่คุ้มในการสร้างความขัดแย้งหรือสร้างศัตรูเพิ่มขึ้น


 


แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ชนเผ่าพื้นเมืองเองก็ไม่ควรจะประมาท ควรเฝ้าระวังผลกระทบที่เกิดจากนโยบายป่าไม้และกฎหมายป่าไม้ให้มากอย่างใกล้ชิด   เพราะว่ารัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมคนปัจจุบัน ชื่อนายสุวิทย์ คุณกิตติ ดังที่กล่าวไปแต่ต้น ชนเผ่าต้องระวังไว้ให้มาก เพราะบุคคลคนนี้มีอคติกับชนเผ่าพื้นเมืองมาก แม้ว่าสมัยเข้าป่าเคยอยู่กับชนเผ่า  แต่เขาไม่เคยมีสำนึกอะไรหรอก กลับสร้างประวัติจับกุมชาวบ้านปางแดงครั้งที่สามเมื่อปี 2547 และยังทำให้ชนเผ่าจำนวนมากต้องคดีกว่าสามพันกว่าคดีและสูญเสียที่ดินทำกินจำนวนมาก ดังนั้นชนเผ่าพื้นเมืองไม่ควรประมาท...และต้องจดจำไว้เสมอว่า ชนเผ่าไม่เคยได้รับประโยชน์ใดๆ จากพรรคการเมืองใดที่ขึ้นมาเป็นรัฐบาล


 


 


 


……………...........


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


รายงาน: ปางแดง...ชาติพันธุ์ การดำรงอยู่ กับความหวังครั้งสุดท้าย !? (ตอน 1)


รายงาน: ปางแดง...ชาติพันธุ์ การดำรงอยู่ กับความหวังครั้งสุดท้าย!? (ตอน2)


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net