Skip to main content
sharethis


 


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ม.ค. ตัวแทนจากโรงเรียนสอนศาสนา องค์กรมุสลิม องค์กรคาธอลิคในประเทศไทย นักศึกษาและประชาชน เดินทางไปสำนักงานสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย เพื่อยื่นหนังสือแถลงการณ์เรียกร้องให้อิสราเอลภายใต้การบงการของขบวนการไซออนิสต์ยุติการสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ในกาซา ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค. 2551 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 600 คน


 


นายสาโรจน์ เกิดอยู่ นักเคลื่อนไหว ได้อ่านแถลงการณ์ที่เตรียมยื่นให้สหประชาชาติฉบับแปลภาษาไทย ว่า "แถลงการณ์ฉบับที่ 3 ความโหดเหี้ยมของขบวนการไซออนิสต์ที่กระทำการสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์" จากกรณีที่รัฐบาลอิสราเอลภายใต้การบงการของขบวนการไซออนิสต์ ได้เปิดฉากโจมตีไล่ล่าฆ่ากลุ่มฮามาสบริเวณฉนวนกาซาในปาเลสไตน์ ด้วยการใช้กองกำลังทางอากาศยิงถล่มใส่ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.เป็นต้นมา อิสราเอลได้ใช้กองกำลังรถถังกว่าร้อยคันบุกล้อมเมืองกาซา และถล่มอาคารบ้านเรือน ทำลายสาธารณูปโภค น้ำประปา ไฟฟ้า ระบบสื่อสาร ทำให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุดไม่น้อยกว่า 600 ราย และมีผู้บาดเจ็บมากกว่าสองพันคน โดยส่วนมากเป็นชาวบ้านธรรมดาที่อยู่อาศัยอย่างสงบในดินแดนปาเลสไตน์


 


ในเรื่องนี้ทั้งสันนิบาตอาหรับประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลาง และองค์การที่ประชุมอิสลาม (OIC) ประณามการปฏิบัติการอันโหดเหี้ยมของอิสราเอลว่าเป็นอาชญากรสงคราม รวมทั้งสหภาพยุโรประบุชัดเจนว่าการโจมตีของอิสราเอลทำให้เกิดความสูญเสียอย่างมาก ถือเป็นการขาดมนุษยธรรมโดยสิ้นเชิง


 


แถลงการณ์ ระบุว่า เสียงเรียกร้องจากประชาคมโลกให้คณะมนตรีความมั่นคง องค์กรสหประชาชาติเข้ายุติการหยุดยิงต้องล้มเหลว เพราะสหรัฐอเมริกาคัดค้านการหยุดยิง แถลงการณ์ยังได้ประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอย่างไร้มนุษยธรรมของอิสราเอล และเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการสังหารหมู่อย่างป่าเถื่อนต่อชาวปาเลสไตน์โดยทันที


 


ต่อมาแถลงการณ์ได้ประณามสหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของ นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่คัดค้านมติของคณะมนตรีความมั่นคง องค์การสหประชาชาติ หลายครั้ง และเรียกร้องให้ประชาคมโลก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเข้ายุติการกระทำของอิสราเอลโดยทันที โดยการส่งกองกำลังนานาชาติเข้ายุติสงครามของทั้งสองฝ่าย


 


นอกจากนี้ แถลงการณ์ยังได้เรียกร้องให้ประเทศไทยกดดันให้อิสราเอลยุติการโจมตีถิ่นฐานของปาเลสไตน์โดยทันที และมีข้อเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติดำเนินการแก้ไขปัญหาสันติภาพที่เกิดมาแล้ว 60 ปี ในการตั้งรัฐอิสราเอลบนแผ่นดินของชาวปาเลสไตน์ ด้วยการเจรจาและยึดมติการจัดตั้งปาเลสไตน์ตามมติที่ 181 ของสหประชาชาติอย่างจริงจัง


 


จากนั้น นายฮารูน หะยีมะ นักวิชาการมุสลิม ได้อ่านแถลงการณ์อีกรอบหนึ่งเป็นฉบับภาษาอังกฤษ เมื่ออ่านจบ เขากล่าวว่า การกระทำของรัฐบาลอิสราเอลเปิดฉากโจมตีชาวปาเลสไตน์อย่างถอนรากถอนโคน เหี้ยมโหดผิดมนุษย์ โดยผู้นำอิสราเอลหลายยุคหลายสมัยจะให้เหตุผลในการโจมตีว่ามีกลุ่มก่อการร้าย เช่น พีแอลโอในอดีต ส่วนครั้งนี้ก็คือกลุ่มฮามาส


 


นายฮารูน กล่าวอีกว่า การมาในครั้งนี้เพื่อต้องการประกาศเจตนารมณ์ในความถูกต้อง เป็นธรรมที่มนุษยชาติต้องให้แก่กันและกัน แต่เมื่อไรก็ตามที่อิสราเอลกระทำต่อปาเลสไตน์เหมือนกับที่สหรัฐฯ กระทำต่ออิรักและมติสหประชาชาติในการยุติความวุ่นวาย ยุติสงครามที่ไร้เหตุผล ไร้มนุษยธรรม สหรัฐฯ ก็จะใช้สิทธิในการวีโต้ ดังนั้น สหประชาชาติในฐานะตัวแทนในการรักษาความปลอดภัยและความสงบของมนุษยชาติจะต้องยึดหลักการเมื่อครั้งก่อตั้ง ซึ่งเป็นที่น่าเสียใจว่า มติที่ 181 และ 282 ที่มีต่อชาวปาเลสไตน์และชาวอิรักไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติ


 


นายฮารูนได้เรียกร้องให้สหประชาชาติสร้างประวัติศาสตร์ที่ยืนอยู่บนความถูกต้องยุติธรรม เป็นสหประชาชาติของประชาชาติที่แท้จริง ไม่เป็นเครื่องมือสร้างความชอบธรรมของประเทศมหาอำนาจ อย่างสหรัฐฯ หรืออังกฤษในการทำสงครามเท่านั้น


 


"บทเรียนที่นาซีทำต่อเขา (อิสราเอล) เขาไม่ได้รู้สึกแต่กลับนำสิ่งที่นาซีทำมาทำต่อมนุษยชาติด้วยกัน หวังว่ารัฐบาลไทยในฐานะสมาชิกสหประชาชาติและได้ประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่าอยากเห็นสันติภาพทั้งภายในและนอกประเทศ จะผลักดันข้อเสนอที่ยุติการทำลายล้างในปาเลสไตน์ อย่าให้โลกสิ้นหวังกับสหประชาชาติในการเป็นตัวแทนของพวกเขาและพวกเรา" นายฮารูน กล่าว


 


จากนั้นมีตัวแทนจากสหประชาชาติประจำประเทศไทยออกมาพบ นายจรัญ มะลูลีม นักวิชาการอิสลาม จึงได้เป็นตัวแทนในการยื่นหนังสือแถลงการณ์ จับมือและให้สื่อมวลชนถ่ายภาพร่วมกัน


 


นอกจากนี้ ทางกลุ่มเลี้ยวซ้ายและสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ยังได้นำแถลงการณ์ขององค์กรต่อกรณีดังกล่าวมาแจกให้แก่สื่อมวลชนและได้แสดงละครปิดท้าย


 


โดยละครของกลุ่มนักศึกษามีบุคคลสวมหน้ากากถือธงอิสราเอลที่ทับด้วยสัญลักษณ์สวัสดิกะของพรรคนาซียืนอยู่ตรงกลางวง และมีนักศึกษาคนอื่นๆ ที่สวมป้ายแทนประเทศต่างๆ ถือเชือกรายล้อมอยู่


 


นักศึกษากล่าวว่า คนสวมหน้ากากเป็นสัญลักษณ์แทนขบวนการไซออนิสต์ที่มีอำนาจมากในโลก แม้แต่ประเทศไทยก็เคยถูกจู่โจมมาแล้วโดยไม่รู้ตัว ส่วนธงนั้นเป็นสัญลักษณ์แทนสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับอิสราเอลแต่กลับกันที่ครั้งนี้อิสราเอลได้กระทำต่อคนอื่น และประเทศที่ถือเชือกเปรียบเสมือนชาวโลกที่ล้อมไซออนิสต์ที่แม้จะมีอำนาจมากแต่หากรวมพลังกันก็สามารถล้มไซออนนิสต์ได้


 


กลุ่มผู้ชุมนุมยังได้นัดรวมตัวกันอีกครั้งหน้ากระทรวงการต่างประเทศ เวลา 16.00 น. วันเดียวกันนี้ (7 ม.ค.)


 


สำหรับขบวนการไซออนิสต์ คือ ขบวนการของชาวยิวยุโรปที่ก่อตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 เป็นการรวมตัวกันของชาวยิวฝ่ายต่างๆ ที่มีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์ไปในทิศทางเดียวกัน คือ การส่งเสริมการตั้งถิ่นฐานชาวยิวขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์


 


ส่วนมติสหประชาชาติที่ 181 นั้นออกมาใน พ.ศ. 2490 โดยแบ่งปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐยิวและรัฐอาหรับ ซึ่งเดิมสันนิบาตอาหรับประกาศคัดค้านข้อมตินี้อย่างเต็มที่ ประชาชนปาเลสไตน์ได้ตั้งขบวนการขึ้นมา เช่น องค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์หรือพีแอลโอต่อสู้กับอิสราเอล อย่างไรก็ตาม พีแอลโอได้รับรองมติข้อ 181 โดยประกาศเอกราชรัฐปาเลสไตน์ขึ้นมาในปี 2531


 


ส่วนมติสหประชาชาติที่ 242 ออกมา พ.ศ. 2510 โดยสหประชาชาติเรียกร้องให้อิสราเอลถอนกำลังออกจากดินแดนที่ยึดครองในสงคราม 6 วัน ซึ่งอิสราเอลได้ทำความตกลงสันติภาพกับประเทศเพื่อนบ้านสองแห่งคือ ข้อตกลงสันติภาพแคมป์เดวิดกับอียิปต์ในพ.ศ. 2522 โดยอิสราเอลถอนตัวจากแหลมไซนายแลกเปลี่ยนกับการที่อียิปต์รับรองอิสราเอล ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากรัฐอาหรับอื่นๆ ต่อมาอิสราเอลได้ทำสัญญาสันติภาพดังกล่าวกับจอร์แดน


 


ต่อมาในการประชุมสันติภาพที่กรุงมาดริด ประเทศสเปน เมื่อปี 2534 ผู้นำอิสราเอล ซีเรีย จอร์แดน เลบานอน และปาเลสไตน์ ได้ประชุมปรึกษาหารือกันเพื่อปฏิบัติตามข้อมติสหประชาชาติที่ 242 (และ 338) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงและยั่งยืน พ.ศ. 2536 อิสราเอลและพีแอลโอได้ตกลงใน "ข้อตกลงกรุงออสโล" โดยปาเลสไตน์ยอมรับการดำรงอยู่ของอิสราเอลและยอมรับกระบวนการสันติภาพเพื่อให้ข้อมติที่ 242 (และ 338) มีผลบังคับใช้ ซึ่งอิสราเอลก็ยอมรับการกำหนดชะตาตนเองของชาวปาเลสไตน์และยอมถอนกำลังทหารออกจากฉนวนกาซาและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน (ข้อมูลประกอบจากไทยอีนิวส์)


 


 


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไซออนิสต์


ขุดรากไซออนิสต์ ถอดรหัสแนวคิดกลุ่มการเมืองอิสราเอล


 






 


แถลงการณ์ ฉบับที่ 3


ความโหดเหี้ยมของขบวนการไซออนิสต์ที่กระทำการสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์



 


 


 


จากกรณีที่รัฐบาลอิสราเอลภายใต้การบงการของขบวนการไซออนิสต์ ได้เปิดฉากโจมตีไล่ล่าฆ่ากลุ่มฮามาสบริเวณฉนวนกาซาในปาเลสไตน์ ด้วยการใช้กองกำลังทางอากาศยิงถล่มใส่ชาวปาเลสไตน์ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมเป็นต้นมา และอิสราเอลได้ใช้กองกำลังรถถังกว่าร้อยคันบุกล้อมเมืองกาซา และถล่มอาคารบ้านเรือน ทำลายสาธารณูปโภค น้ำประปา ไฟฟ้า ระบบสื่อสาร พังพินาศ ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตล่าสุดไม่น้อยกว่า 600 ราย และมีผู้บาดเจ็บมากกว่าสองพันคน โดยส่วนมากเป็นชาวบ้านธรรมดาที่อยู่อาศัยอย่างสงบในดินแดนปาเลสไตน์


 


ในเรื่องนี้ ทั้งสันนิบาตอาหรับประเทศต่างๆในตะวันออกกลาง และองค์การที่ประชุมอิสลาม(OIC) ประณามการปฏิบัติการอันโหดเหี้ยมครั้งนี้ของอิสราเอลว่าเป็นอาชญากรสงคราม รวมทั้งสหภาพยุโรประบุชัดเจนว่าการโจมตีของอิสราเอลทำให้เกิดความสูญเสียอย่างมาก ถือเป็นการขาดมนุษยธรรมโดยสิ้นเชิง และเสียงเรียกร้องจากประชาคมโลกให้คณะมนตรีความมั่นคง องค์กรสหประชาชาติเข้ายุติการหยุดยิงต้องล้มเหลว เพราะสหรัฐอเมริกาคัดค้านให้มีการหยุดยิงเพื่อเจรจาสันติภาพ


 


เราขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำอย่างไร้มนุษยธรรมของอิสราเอลในครั้งนี้


 


เราขอเรียกร้องให้อิสราเอลยุติการสังหารหมู่อย่างป่าเถื่อนต่อชาวปาเลสไตน์โดยทันที


 


เราขอประณามสหรัฐอเมริกาโดยการนำของ นายบุช ที่กระหายต่อสงครามที่คัดค้านมติของคณะมนตรีความมั่นคง องค์การสหประชาชาติ หลายครั้งที่ผ่านมา


 


เราขอเรียกร้องให้ประชาคมโลก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเข้ายุติการกระทำของอิสราเอลโดยทันที โดยการส่งกองกำลังนานาชาติเข้ายุติสงครามของทั้งสองฝ่าย


 


 


เราขอเรียกร้องให้ประเทศไทยกดดันให้อิสราเอลยุติการโจมตีถิ่นฐานของปาเลสไตน์โดยทันที


 


เราขอเรียกร้องให้องค์การสหประชาชาติดำเนินการแก้ไขปัญหาสันติภาพที่เกิดมาแล้ว 60 ปี ในการตั้งรัฐอิสราเอลบนแผ่นดินของชาวปาเลสไตน์ ด้วยการเจรจาและยึดมติการจัดตั้งปาเลสไตน์ตามมติที่ 181 ของสหประชาชาติอย่างจริงจัง


เราขอให้ประชาชนชาวไทยและประชาคมโลกร่วมกันภาวนาให้แก่ชาวปาเลสไตน์ที่ต่อสู้ดิ้นรน เพื่อความยุติธรรม เพื่อความสันติสุข และปลดปล่อยแผ่นดินปาเลสไตน์จากการยึดครองจากอิสราเอลในครั้งนี้ด้วย


 


__________________


 


 


สภาองค์การมุสลิมแห่งประเทศไทย


สมาคมสื่อสารมวลชนมุสลิม


สมาคมนิสิตนักศึกษาและเยาวชนในเอเชียแปซิฟิก (ประเทศไทย)


สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)


เครือข่ายนักศึกษาเพื่อพิทักษ์ประชาชน (คพช.)


International Movement of Catholic Students - Asia Pacific (IMCS-AP)


สมาพันธ์นิสิตนักศึกษามุสลิมแห่งประเทศไทย (สนมท.)


เครือข่ายสตรีจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อสันติภาพ


เครือข่ายนักศึกษาเยาวชนเพื่อสันติภาพ (คสตส.)


สหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สนน.จชต.)


กลุ่มเลี้ยวซ้าย


Food Not Bombs (Thailand)


กลุ่มกิจกรรมนักศึกษาเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยรามคำแหง


กลุ่มนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ มหาวิทยาลัยรามคำแหง (PNYS)


องค์การบริหารนักศึกษา องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์


คณะกรรมการกลางอิสลามประจำกรุงเทพมหานคร


สถาบันนักศึกษาผู้ใหญ่ธรรมอิสลาม


สภายุวมุสลิมโลก (ประเทศไทย)


สมาคมยุวมุสลิมแห่งประเทศไทย (ยมท.)


สมาคมนิสิตนักศึกษาไทยมุสลิม (สนท.)


สหายอิสลามสมาคม


อัลอิศละห์สมาคม


ชมรมมุสลิมสยาม


มูลนิธิโรงเรียนสหบำรุงวิทยา


โรงเรียนธรรมมิสลาม (ท่าอิฐ)


6  มกราคม  2552


 


 






Joint Communiqué No. 3


 


 


Barbaric Atrocities Committed by the Zionist Regime Against Palestine


 


Reference is made to the opening of the deadly offensive against the Hamas in the Gaza Strip.  Air bombing attacks against the Palestinian civilians in the Gaza since 26 December and the sending of hundreds of tanks to encircle Gaza City to destroy all public facilities e.g. water and electricity services have claimed nearly 600 lives and injured thousands of others.  All the victims are merely ordinary villagers who have been living peacefully in the Land of Palestine.


 


In this connection, the Organization of Islamic Conference, League of Arab Nations, and Middle East countries have condemned the barbaric air strikes against Palestinian civilians and labeled the Israeli government as war criminal.  Meanwhile, European Union has described the Israeli destructive and barbaric violence as the act completely devoid of the sense of humanity.  Unfortunately, the call from the world community for the UN Security Council to enforce an immediate ceasefire was vetoed by the United States.


 


We strongly condemn the inhumane crime committed by Israel in this regard.


 


We condemn the United States of America under the leadership of George W. Bush for having used its veto right in this connection.


 


We call on the Israeli government to immediate halt the massacre of the Palestinian people.


 


We call for the intervention by the world community and UN Security Council to put an immediate end to the Israeli aggression by sending international force to stop the ongoing fighting.


 


We call on Thailand to impose pressure on the Israeli government to force it to stop its aggression against Palestine.


 


We call on the United Nations, which has been making serious efforts to tackle Middle East peace problem for the past 60 years since the establishment of the state of Israel on the land of our Palestinian brothers and sisters, to organize negotiations to materialize the establishment of the State of Palestine in conformity with UN Security Council Resolution 181.


 


---------------------------------------------------


 


Council of Muslim Organizations of Thailand


Muslim Mass Media Association


Asia - Pacific Student and Youth Association (Thailand)


Student Federation of Thailand


Student and Youth Network for Protecting People


International Movement of Catholic Students - Asia Pacific


Muslim Student Federation of Thailand


Southern Thailand Woman Network for Peace


Youth Student for Peace Network


Student Federation of Southern Thailand


Turn - Left Group


Food Not Bombs (Thailand)


Student for Social Activity Group - Ramkhamhaeng University


The Southern Border Student Group - Ramkhamhaeng University (PNYS)


Prince of Songkhla University Student Union


Islamic Committee of Bangkok Metropolis


Young Muslim Association of Thailand


Siam Muslim Society


Thammislam Foundation School


Sahabamroongwittaya School Foundation


Thai Muslim Students Association


World Assembly of Muslim Youths (Thailand)


Islamic Brotherhood Association


Al-Islah Association


 


6 January 2009


 


 






แถลงการณ์กลุ่มเลี้ยวซ้าย


 


ร่วมกันประณามอิสราเอล!!!


สมานฉันท์กับชาวปาเลสไตน์


 


รัฐบาลไทยต้องตัดความสัมพันธ์ทางทหารกับฆาตกรอิสราเอล


 


ผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทั่วโลก ต้องประณามความป่าเถื่อนของอิสราเอลในการโจมตีฆ่าชาวปาเลสไตน์อีกครั้งหนึ่ง การโจมตีกาซาครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจักรวรรดินิยมตะวันตกอย่างสหรัฐกับอังกฤษเต็มที่ เพราะอิสราเอลเป็นสุนัขรับใช้ของรัฐบาลดังกล่าว อิสราเอลมีหน้าที่ในการสร้างความขัดแย้งในตะวันออกกลาง เพื่อเป็นอุปสรรคต่อการที่ชาวปาเลสไตน์กับชาวอาหรับจะรวมตัวกัน ยึดทรัพยากรน้ำมันมาใช้เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ แทนที่จะตกในมือของบริษัทข้ามชาติและคนรวย


 


เราหวังอะไรไม่ได้เลยจากประธานาธิบดีโอบามา เพราะเขาประกาศแต่แรกว่าจะเป็นเพื่อนที่ดีของอิสราเอล ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น เราหวังอะไรไม่ได้จากผู้นำประเทศอาหรับและประเทศมุสลิม เพราะพวกนี้ประนีประนอมกับจักรวรรดินิยม และร่วมหาผลประโยชน์จากการกดขี่ขูดรีดประชาชนของตนเอง และสื่อกระแสหลักโดยเฉพาะในตะวันตกก็มองว่าคนอิสราเอลสามสี่คนที่ตายไปจากการยิงจรวดของฮามาส ว่ามีค่าเท่ากับคนปาเลสไตน์ห้าร้อยกว่าคนที่ถูกอิสราเอลฆ่าในกาซา


 


 ดังนั้นแนวทางที่สำคัญที่สุดในการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ ไม่ใช่การพึ่งชนชั้นปกครองสากลหรือสื่อกระแสหลัก แต่เป็นการต่อสู้และการประท้วงของคนธรรมดา เช่นมวลชนในอียิปต์ เลบานอน ยุโรป อินโดนีเซีย หรือไทย


 


อิสราเอลพร้อมจะใช้ความป่าเถื่อนกับชาวปาเลสไตน์มาตลอด ตั้งแต่การก่อตั้งประเทศผ่านการขโมยที่ดินของชาวปาเลสไตน์ ผู้นำอิสราเอลหน้าด้านอ้างว่าการถล่มกาซาเป็นการ "สั่งสอน" ชาวปาเลสไตน์ "ไม่ให้รุนแรง" เป็นวิธีกดดันไม่ให้คนปาเลสไตน์เลือกผู้นำที่ "หัวรุนแรง" แต่การกระทำของอิสราเอลมีสาเหตุเฉพาะหน้ามาจากการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เพราะนักการเมืองหลายฝ่ายกำลังแข่งกันพิสูจน์ความเป็น "นักทำสงคราม" เพื่อหาคะแนนเสียง ประเด็นสำคัญคือ รัฐบาลตะวันตกต้องเลิกสนับสนุนอิสราเอล ต้องมีการลุกฮือประท้วงของประชาชนในตะวันตกและในประเทศรอบข้างของตะวันออกกลาง เพื่อบังคับให้อิสราเอลถอนตัวออกจากพื้นที่ที่เคยยึดไว้ และเพื่อให้ชาวปาเลสไตน์สามารถปกครองตนเองอย่างเสรี ในที่สุดควรมีการรื้อถอนโครงสร้างรัฐอิสราเอลที่สร้างขึ้นมาภายใต้ลัทธิ "ไซออนิสม์"


 


เราไม่ควรคล้อยตามผู้นำอิสราเอล ที่ใช้ลัทธิเหยียดเชื้อชาติและอ้างศาสนาในการล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ เราจะต้องเข้าใจว่า "คนยิว" จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับลัทธิ "ไซออนิสม์" ของพวกฆาตกรอิสราเอล ดังนั้นเราต้องต่อต้านอิสราเอลและผู้นำประเทศจักรวรรดินิยม ไม่ใช่สร้างความเกลียดชังกับคนยิวทั่วไป


 


ในประเทศไทย เราต้องเรียกร้องให้กองทัพไทยยกเลิกการร่วมมือทางทหารกับอิสราเอลอย่างที่ทำมาตลอด และเราต้องเตือนพี่น้องประชาชนไม่ให้ไปหางานทำในอิสราเอล เพราะมีผลกระทบในด้านลบกับพี่น้องชาวปาเลสไตน์อีกด้วย


 


 


ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net