Skip to main content
sharethis

ที่ประชุม ผบ.เหล่าทัพ มีมติเสนอเลื่อนประชุมสภา-ย้ายที่ ลดเงื่อนไขการเผชิญหน้า


(21 พ.ย.) พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ร่วม ที่มีผู้บัญชาการทุกเหล่าทัพหรือผู้แทนเข้าร่วมประชุม โดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นประธาน มีมติเสนอความเห็นไปยังนายกรัฐมนตรีให้ประสานฝ่ายนิติบัญญัติเลื่อนการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ย.ออกไปก่อน หรือย้ายสถานที่ประชุม เพื่อลดเงื่อนไขการเผชิญหน้าที่อาจก่อให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนเมื่อวัน ที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา


 


"ที่ประชุมฯ มีมติให้นำเสนอผ่านเลขาฯ สมช.(สภาความมั่นคงแห่งชาติ) ถึงท่านนายกฯ ว่า ถ้าท่านจะประสานงานติดต่อกับฝ่ายนิติบัญญัติให้เลื่อนการประชุมสภาออกไปได้ ก็จะเป็นสิ่งที่ดี หรือจะย้ายสถานที่ประชุมก็สุดแท้แต่เห็นเหมาะสม ส่วนท่าน (นายกฯ) จะตกลงใจอย่างไรก็เป็นดุลพินิจ" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว


 


ส่วนการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์การชุมนุมนั้น โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า กองทัพได้รับการประสานจากทางตำรวจในการปฏิบัติภารกิจกรณีที่เกิดการปะทะ ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุม โดยจัดเตรียมกำลังพลไว้จำนวน 21 กองร้อยรักษาความสงบ ประกอบด้วย ทหารเรือ 2 กองร้อย ทหารอากาศ 2 กองร้อย ที่เหลือเป็นทหารบก ซึ่งมีแม่ทัพภาคที่ 1 เป็นผู้ประสานการปฏิบัติภารกิจ  โดยกำลังกองร้อยรักษาความสงบจะสามารถเคลื่อนออกจากที่ตั้งไปปฏิบัติภารกิจ ได้ภายใน 15 นาที เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเกิดการปะทะกันและดูแลบริเวณโดยรอบทำเนียบ รัฐบาล รัฐสภา และเขตพระราชฐานทั้งหมด ส่วนบริเวณด้านในอาคารรัฐสภาจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ขณะเดียวกันจะมีการส่งกำลังสารวัตรทหารเข้าไปร่วมกับตำรวจตั้งจุดตรวจในบริเวณโดยรอบที่เกรงว่าสุ่มเสี่ยงจะเกิดการปะทะรวม 14 จุด โดยกำลังพลจะใช้อุปกรณ์ป้องกันเพียงโล่กับกระบอง


 


"นัดหมายกันไว้ว่าเย็นวันเสาร์ (22 พ.ย.) กำลัง 2 กองร้อยสามารถเข้าถึงพื้นที่ภายใน 15 นาทีหลังจากได้รับทราบข้อมูล ที่เหลือทยอยเข้าพื้นที่ได้ทันทีที่มีการแจ้งภารกิจเข้ามาตามสถานการณ์" พ.อ.สรรเสริญ กล่าว และว่า สำหรับพื้นที่บริเวณลานพระราชวังดุสิต ฝั่งสวนอัมพร ซึ่งมีการสร้างพลับพลาพิธีเพื่อใช้ในงานวันสวนสนามทหารราชวัลลภ จะปิดการจราจร ห้ามไม่ให้ใครผ่านเข้า-ออกทั้งสิ้น เนื่องจากผ่านขั้นตอนการตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อถวายความปลอดภัยเรียบร้อยแล้ว


 


 


"ชัย" ไม่สนคำเตือน ทบ. ยืนกรานประชุมที่สภา
บอกพันธมิตรฯ จะทำอะไรเสนอมาตามขั้นตอน อย่าใช้กฎหมู่


ด้านนายชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ยังไม่เห็นเรื่อง แต่ถ้าเขาเสนอมาจริง เขาก็ต้องจัดสถานที่ รวมถึงเครื่องมือ คอมพิวเตอร์ ให้เหมือนกับห้องประชุมสภาให้พร้อมหมด และตามข้อบังคับการประชุมสภาซึ่งถือเป็นระเบียบในราชกิจจานุเบกษา เทียบเท่ากฎหมายฉบับหนึ่ง ก็กำหนดให้ประชุมที่รัฐสภา ดังนั้นตนในฐานะประธานรัฐสภาไม่มีอำนาจในการสั่งให้ย้ายสถานที่ แต่หากที่ประชุมรัฐสภาเห็นโดยจะต้องมีการประชุมพิจารณาร่วมกันของสมาชิกรัฐสภา เพราะคำว่ารัฐสภาไม่ได้หมายถึงประธานรัฐสภา แต่อย่างไรตนก็พร้อมปฏิบัติตาม


 


ผู้สื่อข่าวถามว่าตามปกติเมื่อจะแจ้งเลื่อนหรือประชุมสภา จะมีการแจ้งเป็นข้อความผ่านทางโทรศัพท์มือถือก็ได้ นายชัย กล่าวว่า สามารถแจ้งได้ แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นการประชุมร่วมกัน ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 24 พ.ย.นี้ ยังคงมีการประชุมร่วมรัฐสภาตามปกติ เพราะวาระที่จะพิจารณาเป็นกรอบข้อตกลงระหว่างประเทศ ซึ่งต้องให้รัฐสภาพิจารณาตามรัฐธรรมนูญมาตรา 190 จึงอยากให้ช่วยกันบอกกล่าวว่าการประชุมที่จะเกิดขึ้นเป็นการต้องการให้อำนาจกระทรวง ทบวง กรมไปดำเนินการในเรื่องข้อตกลงระหว่างประเทศ


 


ประธานรัฐสภา กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 24 พ.ย. ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง อยากให้เห็นแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพราะขณะนี้ท่านทรงไม่สบายพระทัย เนื่องจากเพิ่งผ่านงานพระราชพิธีถวายเพลิงพระศพสมเด็จพระพี่นางเธอฯ ดังนั้นประชาชนและพันธมิตรฯควรเคารพในหลวงของเรา ต้องช่วยกันประคับประคองบ้านเมือง และเคารพกติกาบ้านเมือง


 


"โดยในส่วนของพันธมิตรฯ หากต้องการอะไรก็ขอให้เสนอมาตามขั้นตอน สภาในฐานะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติก็จะพิจารณาให้ ไม่ใช่จะใช้กฎหมู่มาบังคับฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่อย่างนั้นบ้านเมืองจะไม่มีขื่อมีแป เรื่องไม่ให้แก้รัฐธรรมนูญเราก็ทำตาม แล้วจะเอาอะไรอีก ถ้ายังจะมาล้อมเราก็ต้องเลื่อนการประชุมออกไป กฎหมายก็จะไม่ผ่านสภา ความเดือดร้อนก็จะเกิดกับประชาชน" นายชัย กล่าว


 


ต่อมาเวลา 16.00 น. นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ได้โทรศัพท์หารือกับนายชัย ที่ติดภารกิจอยู่ในต่างจังหวัดแล้ว โดยนายชัย ยังคงยืนยันให้มีการประชุมรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ย. ตามเดิม เพราะเตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยเอาไว้แล้ว โดยได้ประสานกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาคอยดูแล อย่างไรก็ตามตนยังไม่ทราบเรื่องที่กองทัพบกทำหนังสือสมช. ให้สภาเปลี่ยนสถานที่การประชุมร่วมรัฐสภา แต่หากเป็นอย่างนั้นจริง ประธานรัฐสภาสามารถพิจารณาเปลี่ยนสถานที่ประชุมได้โดยไม่ต้องเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อสอบถามความเห็น เพียงแต่ต้องแจ้งให้สมาชิกรัฐสภาทราบล่วงหน้าเท่านั้น


 


 


นครบาลเตือนพันธมิตรฯ ชุมนุม 23 พ.ย. "โดยสงบ" เท่านั้น


พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวถึงกรณีกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นัดชุมนุมในวันที่ 23 พ.ย. ว่า ขอเรียกร้องว่าให้ชุมนุมภายใต้กรอบของกฎหมาย โดยสงบและปราศจากอาวุธ โดยไม่มีการปิดล้อมทางเข้าออกรัฐสภา  ตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองกลาง ลงวันที่ 9 ต.ค.  ระบุไว้ชัดเจน ดังนั้นการชุมนุมที่มิใช่การชุมนุมอย่างสงบ จะไม่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีอำนาจสลายการชุมนุมได้ จึงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมตระหนักว่า หากมีการเคลื่อนกำลังไปหน้ารัฐสภา และมีพฤติกรรมใดๆ ที่ส่อเค้าความรุนแรง ตำรวจมีอำนาจควบคุมการชุมนุมได้ตามลำดับขั้นตอนเท่าที่จำเป็น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง


 


รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวด้วยว่า จะมีการประเมินสถานการณ์การชุมนุมทุกระยะ เนื่องจากเห็นว่า เงื่อนไขการแก้รัฐธรรมนูญหมดไปแล้ว เพราะวันที่ 24 พ.ย. จะไม่มีการบรรจุญัตติเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พร้อมกันนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้แจกจ่ายประกาศ เรื่อง แจ้งเตือนการชุมนุมในทางการเมืองภายใต้กรอบแห่งรัฐธรรมนูญ เพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบและปฏิบัติตามด้วย


 


"สุริยะใส" ชี้ 23 พ.ย. สงครามครั้งสุดท้าย "ม้วนเดียวจบ" ไม่ชนะไม่กลับ ย้ำไม่ต้องการเห็นความรุนแรง


นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ กล่าวถึงการเตรียมการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 23 พ.ย.ซึ่งจะมีการนัดหมายในช่วย 14.00น.ที่ทำเนียบรัฐบาล เชื่อว่าผู้ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมในครั้งนี้มีจำนวนมาก อาจทำให้ต้องใช้พื้นที่ถึงแยกถนนมิสกวัน หรืออาจร้นไปทางสนามม้านางเลิ้ง และคาดว่าปริมาณผู้ชุมนุมจะไม่น้อยกว่า 3แสนคน เพราะว่าทางพันธมิตรฯ ได้ทิ้งช่วงในการเป่านกหวีดระดมพลนานเกือบ 2 เดือน ซึ่งจะทำให้ประชาชนเกิดความฮึกเหิมสุดขีด  และเป็นการประกาศเป็นสงครามครั้งสุดท้ายที่เรียกว่า "ม้วนเดียวจบ" และจะใช้ยุทธวิธีสงครามพระเจ้าตากไม่ชนะไม่กลับแต่จะจบลงที่วันใดต้องออกแบบอีกที วิงวอนสื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชน ว่าการรวมตัวครั้งนี้ไม่ใช่การระดมคนเพื่อทุบตีกับใครแต่เป็นสงครามสัจจะความจริงเพื่อพิทักษ์ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่ต้องการเห็นความรุนแรงยังยึดมั่นสันติอหิงสา และมั่นใจว่าสามารถควบคุมมวลชนได้


 


นายสุริยะใส กล่าวว่าตนไม่ห่วงเรื่องของมือที่ 3แต่อย่างใดเพราะในประวัติศาสร์การเมืองไทยเรื่องของมือที่ 3 เกี่ยวโยงกับอำนาจรัฐทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเหตุการพฤษภาทมิฬ, 6ตุลา, 14ตุลา  ทุกครั้งเกี่ยวข้องกับอำนาจรัฐ นายกฯ อย่าได้พยายามโน้มว่าเป็นเรื่องของมือที่ 3 หากมีความรุนแรงก็เพราะรัฐเปิดไฟเขียวหรือบงการเสียเอง ส่วนหากมีการลักไก่การเสนอร่างรัฐธรรมนูญ ทางแกนนำจึงจะหารือกันอีกทีว่าจะปิดล้อมสภาหรือไม่ ยุทธศาสตร์ครั้งนี้คือการหยุดใช้อำนาจรัฐ ฉะนั้นเมื่อเห็นว่ารัฐบาลหมดความชอบธรรม  เราก็มีความชอบธรรมที่จะขัดขวางการใช้อำนาจรัฐ ไม่ว่าจะผ่าน คณะรัฐมนตรี หรือฝ่ายบริหาร หรือทางสภา เราต้องขัดขวางแต่ต้องอยู่ในกรอบที่ไม่เกิดเหตุความรุนแรงใดๆทั้งสิ้น เมีบทเรียนเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 51 เราจะไม่ประมาท โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อ้างว่าไม่มีนโยบายสลายการชุมนุม เราก็ไม่ได้ประมาท นายสุริยะใส ยังกล่าวว่า ตนมั่นใจว่าในวันที่ 23 พ.ย.นั้นม้วนเดียวจบและได้มีการแจ้งไปยังเครือข่ายพันธมิตรฯทุกจังหวัด


 


"การชุมนุมครั้งนี้จะต่างจากทุกครั้งเป็นการวัดกำลังของทางพันธมิตรฯ ว่าการที่เราออกมาสู้คนในสังคมเห็นว่าเป็นภารกิจที่ต้องอกมาร่วมด้วยหรือไม่ หากไม่เข้าร่วมเราก็ต้องยอมรับสภาพว่าทำได้เพียงเท่านี้ เป็นการลุกขึ้นสู้"  นายสุริยะใส กล่าว


 


ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่อาจจะปิดเกมการเมืองโดยทหาร นายสุริยะใส กล่าวว่า ตนคิดว่าสถานการณ์ออกได้ทุกทางแต่ทางพันธมิตรฯไม่ต้องการการทำรัฐประหาร ต้องรอดูของจริงในวันนั้น ตนจับได้ว่าอารมณ์ของมวลชนได้ว่ามาครั้งนี้ทุบหม้อข้าวมา คือยุทธการพระเจ้าตาก แต่ไม่ใช่แบบของเสธ.แดง อย่างนั้นคือนักรบจอมปลอม


 


 


............................


เรียบเรียงจาก โพสต์ทูเดย์ แนวหน้า และเดลินิวส์


แก้ไขเพิ่มเติมล่าสุด เมื่อ 22 พ.ย.51 เวลา 0.25น.


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net