Skip to main content
sharethis

มาร์คหวิดเจอ "เท้าตบ" งานรำลึก 14 ตุลา


เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 14 ตุลาคม ที่บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 2516 สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง กลุ่มญาติวีรชน 14 ตุลา ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ 35 รูป เนื่องในวันรำลึก 14 ตุลา ประจำปี 2551 หลังจากนั้น เวลา 09.00 น. มีตัวแทนองค์กรประชาธิปไตยร่วมวางพวงมาลาบริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา


 


ทั้งนี้ นายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำพวงมาลาในนามนายกรัฐมนตรี ไปร่วมในพิธีด้วย นอกจากนี้ ยังมีนักการเมืองหลายคน อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน นายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายนิคม ไวยรัชพานิช รองประธานวุฒิสภา นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นางสุนีย์ ไชยรส ผู้แทนกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และตัวแทนญาติวีรชน 14 ตุลา ร่วมพิธี จากนั้นได้มีพิธีกล่าวคำรำลึกถึงวีรชนประชาธิปไตย โดยนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินแห่งชาติ ร่วมขับบทกวีรำลึก 35 ปี 14 ตุลา


 


 


สุนีย์ ไชยรสจับแยก หญิงเท้าตบเผยน้อยใจอภิรักษ์เลือกปฏิบัติไม่ดูแล นปช.


ผู้สื่อข่าวรายงาน ระหว่างพิธีกรรมทางศาสนา นายอภิสิทธิ์ ได้นั่งรออยู่บริเวณภายในอนุสรณ์สถาน โดยมีนายอภิรักษ์ นั่งเยื้องไปข้างหลัง ได้มีผู้หญิงวัยกลางคน อ้างว่าเป็นญาติวีรชน มาจาก จ.สระแก้ว ในมือถือรองเท้าทั้งสองข้างปรี่เข้ามาบริเวณที่นายอภิสิทธิ์และนายอภิรักษ์นั่งอยู่ เหมือนจะเข้ามาทำร้ายบุคคลใดบุคลหนึ่งภายในงาน แต่นางสุนีย์ ไชยรส กรรมการสิทธิฯ และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ได้เข้าระงับเหตุ และนำตัวหญิงคนดังกล่าวออกมาสงบสติอารมณ์ด้านนอก


 


แต่หญิงคนดังกล่าวได้ตะโกนด่านายอภิรักษ์ ด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด และถ้อยคำหยาบคาย ต่อว่าที่นายอภิรักษ์ ที่เลือกปฏิบัติ นำรถสุขาของ กทม. ไปช่วยอำนวยความสะดวก ให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย บริเวณทำเนียบรัฐบาล แต่ไม่เคยดูแลผู้ชุมนุมกลุ่มกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) บริเวณท้องสนามหลวง นอกจากนี้ ยังกล่าวได้ประกาศเรียกร้องให้ญาติ วีรชน รำลึก ถึงเหตุการณ์ 14 ตุลาคม ออกมาร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย เนื่องจากบ้านเมืองแตกแยก


 


ด้านนายอภิรักษ์ กล่าวว่า กทม.ไม่ได้เลือกปฏิบัติ เพราะไม่ว่าหน่วยงานหรือกลุ่มองค์กรใดขอบริการรถสุขา ของ กทม. ก็พร้อมจะให้ความร่วมมือ ขึ้นอยู่กับว่าจะขอมากขอน้อย โดยส่วนราชการกำกับดูแลกันได้อยู่แล้ว และช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ตนไม่มีอำนาจในการอนุญาตหรือไม่อนุญาตสั่งการกทม. เนื่องจากอยู่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.


 


 


ประธานมูลนิธิ 14 ตุลา หวังทุกฝ่ายยึดสันติวิธี เชื่อถึงเวลาจะพบการเมืองใหม่ที่เหมาะสังคมไทย


ขณะที่ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานมูลนิธิ 14 ตุลา กล่าวว่า เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 คล้ายสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันตรงที่ประชาชนตื่นตัวเรื่องประชาธิปไตย แต่ 14 ตุลา มีความชัดเจนว่า ประชาชนต่อสู้กับระบอบเผด็จการทหารที่มีการสืบทอดอำนาจมาหลังเปลี่ยนการปกครอง ขณะที่ปัจจุบันเป็นการต่อสู้เชิงความคิดและนามธรรม ทางออกที่จะทำให้สังคมไม่ต้องสูญเสียเลือดเนื้อเหมือน 14 ตุลา คือ ทุกฝ่ายต้องยึดแนวทางสันติวิธี โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจอยู่ในมือ


 


นพ.วิชัยยังกล่าวว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นการต่อสู้ของภาคประชาชน ซึ่งจิตวิญญาณในการต่อสู้ไม่เคยจางหาย เสียดายรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่ได้มาทำประโยชน์ให้กับประชาชนอย่างแท้จริง ทำให้เกิดปัญหาซ่อนเร้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเหตุการณ์ 7 ตุลา 2551 สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอีกระดับหนึ่ง โดยเป็นการต่อสู้กับปัญหาที่ซับซ้อนและเข้าใจยากขึ้น ซึ่งจะต้องพัฒนาไปสู่หนทางที่ดีขึ้น ทางออกของการเมืองไทยในปัจจุบันพบแล้วว่าระบอบการเมืองโดยกลไกปัจจุบันทำให้ประเทศมีปัญหาซับซ้อนขึ้น จึงต้องหาระบอบการเมืองใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลาในการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงเพื่อให้พบกับระบบใหม่ที่เหมาะสมกับสังคมไทย



 


จาตุรนต์เมินร่วมงาน14ตุลา ซัดบ้านเมืองไม่เป็นประชาธิปไตย


ด้านนายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ได้แถลงข่าวถึงวันรำลึก 14 ต.ค.ว่า ตนตั้งใจไม่ไปร่วมงาน เนื่องจากผู้จัดงานในปีนี้ เป็นผู้ที่ไม่ได้เชื่อถือ หรือยึดมั่นในเจตนารมณ์ของ 14 ต.ค.อยู่แล้ว การไปร่วมงานกับผู้ที่มีความเห็นตรงข้ามกับเจตนารมณ์ของ 14 ตุลา นอกจากจะไม่เป็นประโยชน์แล้ว ยังจะเป็นการสร้างความสับสนให้กับสังคม ทั้งนี้เหตุการณ์นี้ผ่านมาถึง 35 ปีแล้ว แต่พบว่าเจตนารมณ์ยังไม่ปรากฏขึ้นจริง เพราะบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตย และมีแนวโน้มที่จะถูกผลักดันให้ล้าหลังไปอีกมาก จนย้อนกลับไปก่อนปี พ.ศ.2475เสียอีก เพราะการยึดอำนาจในวันที่ 17 พ.ย.251 มีการฉีกรัฐธรรมนูญ คณะผู้ยึดอำนาจใช้อำนาจนิติบัญญัติ บริหาร ตุลากรอย่างเบ็ดเสร็จ สามารถสั่งประหารชีวิตคนได้ โดยไม่ผ่านศาล สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนทั้งประเทศ เศรษฐกิจเสียหายร้ายแรง


 


นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อเกิดการต่อสู้ในวันที่ 14 ต.ค.2516 คือการต่อสู้เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เคลื่อนไหวให้เศรษฐกิจพัฒนามากขึ้น แต่ขณะนี้การเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เผด็จการ มีแนวคิดตรงข้ามการเคลื่อนไหว 14 ต.ค.ชัดเจน เพราะมีแนวทางแบบอนาธิปไตยและคณาธิปไตย คือไม่มีความเคารพในกติกาทำให้บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป ทำให้รัฐบาลใดๆไม่สามารถบริหารประเทศได้ คนไม่กี่คนสามารถกำหนดความเป็นไปของบ้านเมือง ชี้นำให้คนในสังคมต้องทำตาม และมีการใช้กำลังและมีอาวุธเข้าล้มล้างรัฐบาล ขัดขวางการทำงานของรัฐบาล และรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้ง มีการสร้างเงื่อนไข ที่จะทำให้เกิดความรุนแรง และใช้สถานการณ์เป็นข้ออ้างในการทำรัฐประหาร ล้มล้างรัฐธรรมนูญ


 


 


เชื่อการเมืองใหม่พันธมิตรเกิดไม่ได้ ยกเว้นจะมีรัฐประหารช่วย


นายจาตุรนต์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ มีข้อเสนอการเมืองใหม่ ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นแนวทางที่ล้าหลังอย่างยิ่ง ไม่เคารพเชื่อถือในระบอบประชาธิปไตย ไม่เคารพ ดูถูกประชาชน โดยเรื่องการเมืองใหม่ ไม่มีทางปรากฏขึ้นได้ ยกเว้นจะเกิดการรัฐประหารขึ้นก่อน เพราะฉะนั้นพันธมิตรฯ จึงสร้างเงื่อนไข ที่จะให้เกิดความรุนแรง เพื่อนำไปสู่การรัฐประหาร แต่มีคนอ้างว่าเป็นกลาง แสดงความเห็นว่าถ้านองเลือด ต้องมีนายกฯคนกลาง ซึ่งหมายถึงรัฐบาลนี้ต้องออกไป และฉีกรัฐธรรมนูญ เป็นการเคลื่อนไหวอย่างล้าหลัง และคนในสังคมวิตกว่า วิกฤติที่เกิดจากการยึดทำเนียบฯ การบุกปิดรัฐสภา การจะไปล้มสถานที่ราชการ ล้วนเป็นเงื่อนไขที่ทำให้เกิดความรุนแรง และเป็นวิกฤติที่ให้กลไกตามระบอบประชาธิปไตยทำงานไม่ได้


 


นายจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกรุนแรงมากในรอบ 10 ปีแต่ประเทศไทยอ่อนแอ รัฐบาลทำงานไม่ได้ ไม่มีสมาธิคิดแก้ปัญหาเศรษฐกิจ คิดแต่จะแก้ปัญหาบ้านเมืองอย่างไร แต่ตนคิดว่าทางออกไม่ใช่การยุบสภา หรือนายกฯลาอออก เพราะทำเช่นนั้นวิกฤติและความพยายามให้มีการรัฐประหารยังคงอยู่ เพราะฉะนั้นทางออกของสังคมไทยคือต้องให้สังคมยึดหลักนิติธรรมให้ได้ กฎหมายต้องเป็นธรรม มีที่มาอย่างถูกต้องชอบธรรม กฎหมายใดไม่ถูกต้อง ต้องแก้ไข แต่ระหว่างที่มีกฎหมาย ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตามโดยเท่าเทียมกัน ต้องส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่รัฐรักษากฎหมายได้ เพราะหากมีคนมีอภิสิทธิ์ต่อไปจะมีคนเอาอย่าง และนำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงขึ้น


 


 


เรียกร้องทุกฝ่ายต้านรัฐประหาร รัฐธรรมนูญเผด็จการต้องแก้ไข


นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายออกมาต่อต้านการรัฐประหาร ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด เพราะจะทำให้ประเทศอ่อนแอ ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้ารัฐธรรมนูญไม่เป็นประชาธิปไตย ต้องแก้ไข เพราะฉะนั้นการตั้งส.ส.ร. 3 ควรเดินหน้าต่อไป นอกจากนี้ต้องสร้างรัฐบาลและสภาให้เข้มแข็ง แต่ตรวจสอบได้ และอำนาจตุลากร ควรเชื่อมโยงกับประชาชนให้มากขึ้น และตรวจสอบได้โดยประชาชน ลดบทบาทการของอำนาจตุลาการ เพราะตุลาการเข้ามาจัดการกับการเมืองมาก ทั้งที่ไม่ได้มาจากประชาชน แต่เข้ามาตัดสินฝ่ายบริหาร นอกจากนี้การที่ข้อเสนอของพันธมิตรฯที่ทำให้ประเทศถอยหลังไป ปี 2475 จึงขอให้นักวิชาการติดถึงการเมืองปี 2575 ว่าควรจะเป็นอย่างไร เป็นการคิดทางออกก้าวหน้าไปกว่ากลุ่มพันธมิตรฯ 100 ปี


 


ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่ารัฐบาลยังมีศักยภาพในการแก้ปัญหาบ้านเมืองหรือไม่ นายจาตุรนต์ ตอบว่า มีอยู่บ้าง แต่ไม่มากนัก เพราะขณะนี้การรักษากฎหมายยังทำไม่ได้ การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯล่อแหลมต่อการเกิดความสูญเสียมากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากคนจำนวนหนึ่ง ที่มีผลต่อการเมืองมาก เพราะฉะนั้นหวังจากรัฐบาลฝ่ายเดียวคงยาก ทุกฝ่ายต้องช่วยกันคิด


 


 


7 ต.ค. การรับผิดชอบต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง


เมื่อถามถึงความเห็นต่อท่าทีของผบ.เหล่าทัพ ที่จี้ให้นายกฯรับผิดชอบเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.นายจาตุรนต์ ตอบว่า สามารถแสดงความเห็นได้ แต่การรับผิดชอบต้องรับตามข้อเท็จจริง เช่น หากพบว่ามีการใช้แก๊สน้ำตาที่ไม่ได้มาตรฐาน ต้องตรวจสอบว่าใครสั่งซื้อและเหตุใดจึงไม่ทดสอบก่อน แต่กรณีที่มีคนยึดทำเนียบ บุกสภา เป็นความผิดอาญาข้อหากบฏ เจ้าหน้าที่ต้องทำอย่างไร ดังนั้นต้องดูว่าเหตุของปัญหาอยู่ที่ไหน การบุกสภาฯและมีการเตรียมทำร้ายคนในสภาด้วย อย่างนี้จะให้รัฐบาลรับผิดชอบคงไม่ใช่


 


"ถ้าผบ.ทบ.คนปัจจุบันต้องพ้นไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ ไม่รู้ว่าคนที่มาใหม่จะทำการยึดอำนาจหรือไม่ แต่ตอนนี้ประชาชนไม่กลัว ประชาชนต้องออกมาคัดค้าน หากถึงวันนั้น ต้องอารยะขัดขืน ไม่ยินยอมให้คณะยึดอำนาจทำการรัฐประหาร ส่วนผู้นำเหล่าทัพ คงมีบทเรียนจากการยึดอำนาจครั้งที่แล้ว เพราะไม่สามารถปกครองประเทศได้ ทำประเทศเสียหายยับเยิน ดังนั้นใครอยากยึดอำนาจ ต้องรับผิดชอบ และจะพบจุดจบที่อัปยศที่สุด" นายจาตุรนต์กล่าว


 



 



 



ที่มาของภาพ: คุณ CraZyBMW  กระดานข่าวพันทิพ ราชดำเนิน
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P7102717/P7102717.html


 


 


นปช.รำลึก 14 ตุลาวันสุดท้าย


ส่วนที่ท้องสนามหลวง แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้ตั้งเวทีที่บริเวณสนามหลวงฝั่งสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า จัดงานรำลึก "35 ปี 14 ตุลา ประชาธิปไตยอยู่ใต้อุ้งเท้าใคร เมื่อกบฏได้รับการปกป้อง" เป็นวันสุดท้าย ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ได้มีประชาชนสวมเสื้อแดงนับพันคนเดินทางมาร่วมชุมนุมกันอย่างคึกคัก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดจาก กลุ่มอาสาสมัครที่ใช้ชื่อว่า "นักรบพระเจ้าตาก" ที่พกไม้ด้ามจอบเดินตรวจตราการชุมนุมตลอดเวลา


 


ต่อมาเวลา 18.30 น. บรรดาแกนนำ นปช. และอดีตคนเดือนตุลาฯ ที่เป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล อาทิ นายวีระ มุกสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ น.พ.เหวง โตจิราการ นายอดิศร เพียงเกษ นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ และนายวิสา คัญทัพ ฯ ได้ผลัดเปลี่ยนขึ้นเวทีปราศรัยรำลึกเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 โดยเนื้อหาส่วนใหญ่โจมตีกระบวนการศาลยุติธรรมไทยที่ปล่อยให้มีการแทรกแซงจากกลุ่มอำมาตยาธิปไตย ที่เป็นการทำลายเจตนารมณ์วีรชนเดือนตุลาฯ และทำลายระบอบประชาธิปไตยพร้อมทั้งเรียกร้องให้ประชาชนที่ร่วมชุมนุมได้ช่วยกันต่อต้านระบอบอำมาตยาประชาธิปไตยอย่างถึงที่สุด


 


 


จตุพรชี้ทำ "ตีนตบ" เตือนสติแกนนำพันธมิตร คนไม่เห็นด้วยก็มี


ทั้งนี้นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวยืนยันว่า กิจกรรมในวันนี้ (14 ต.ค.) เป็นการจัดงานครบรอบ 35 ปี 14 ตุลา ของ นปช. และกลุ่มคนผู้รักในระบอบประชาธิปไตย ที่ประกาศตนว่า จะไม่เข้าร่วมกับมูลนิธิ 14 ตุลา ที่มีกรรมการหลายคนไปรับใช้เผด็จการรัฐประหาร โดยอยากเรียกร้องให้ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันต่อสู้กับ ป.ป.ช. องค์กรเถื่อนที่ไม่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ตามกฎหมาย และทำตัวอารยะขัดขืนไม่อาจปล่อยให้องค์กรเถื่อนแห่งนี้มีอำนาจเหนือว่า องค์กรที่มาจากการตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้


 


ด้านนายจตุพร ยังได้กล่าวถึงการรณรงค์จัด "ม็อบตีนตบ" ตอบโต้กลุ่มพันธมิตร ว่า เรื่องนี้แค่ต้องการเตือนสติบรรดาแกนนำกลุ่มพันธมิตรว่า ไม่ใช่พันธมิตรจะเป็นผู้มีสิทธิรุกไล่แต่ฝ่ายเดียว ประชาชนคนทั่วไปที่ไม่เห็นด้วยกันกลุ่มพันธมิตรก็มีสิทธิตอบโต้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าในการรณรงค์นี้จะไม่มีการจัดตั้งมวลชน สุดแต่ว่าประชาชนคนไหนมีปัญญา ที่จะกระทำได้ก็ทำไป อย่างน้อยก็จะทำให้พวกพันธมิตรเคารพในสิทธิมนุษยชนของผู้อื่นบ้าง ไม่ใช่ทุกคนต้องเคารพสิทธิ์ของพันธมิตรเพียงฝ่ายเดียว


 


นอกจากนี้นายจตุพร ยังกล่าวต่อว่า การจัดรายการ "ความจริงวันนี้" ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน และแขกรับเชิญพิเศษที่ได้กล่าวทิ้งท้ายไว้เมื่อวันที่ (13 ต.ค.) คือนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้นายสมัครยังได้กล่าวฝากนายจตุพรมาว่า จะพยายามหายให้ทันเพื่อมาร่วมรายการดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังมีแขกพิเศษที่จะเข้าร่วมรายการด้วยอีกคนคือ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย


 


 


สมยศบอกกลุ่ม 24 มิ.ย. จะเผยข้อเท็จจริง 7 ต.ค. อีกมุม


ด้านนายสมยศ กล่าวว่า ตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป ตนพร้อมด้วยเครือข่าย 24 มิถุนาประชาธิปไตย จะเคลื่อนไหวรณรงค์เอาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ 7 ต.ค. ในส่วนที่ยังไม่มีการเปิดเผยคือการใช้อาวุธของกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรที่บริเวณหน้ารัฐสภา และบริเวณหน้าลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อให้สังคมได้ทราบข้อเท็จจริงทั้งสองด้าน วันนี้พวกเรากำลังต่อสู้กับทรราชสายพันธุ์ใหม่ ที่มาในคราบการเมืองภาคประชาชนส่วนการยื่นหนังสือร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนสภาผู้แทนราษฎร ที่นัดหมายไว้ในเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ต.ค. นั้น คงต้องเลื่อนออกไปก่อนเนื่องจากรัฐสภาปิดทำการ


 


 


วีระไม่ร่วมสังฆกรรมมูลนิธิ 14 ตุลา เหตุเป็นทาสรับใช้เผด็จการ 19 กันยา


ขณะที่นายวีระ มุสิกพงศ์ได้ขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวถึงสาเหตุที่ไม่อาจเข้าร่วมงานรำลึกครบรอบ 35 ปี 14 ตุลา ว่า ตนจะไม่ร่วมสังฆกรรมร่วมกับมูลนิธิ 14 ตุลา เด็ดขาด เพราะเนื่องจากได้เป็นทาสรับใช้ให้กับเผด็จการ 19 ก.ย. 49


 


โดยนายวีระ ได้มาขยายความเรื่องนี้ในรายการ "ความจริงวันนี้" ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีทีคืนวันที่ 14 ต.ค. โดยระบุว่าที่ น.พ.วิชัย โชควิวัฒน์ ประธานมูลนิธิได้แสดงสุนทรพจน์ด้วยจุดยืนแปลกแปร่งเพราะโจมตีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งว่าไม่สู้ทำประโยชน์กับประชาชน แม้แต่รัฐบาลชุดนี้ก็คิดแก้รัฐธรรมนูญแบบมีวาระแฝงเร้น ไม่ได้มีเจตนาแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง ผมซึ่งไม่ได้ไปร่วมงานและได้อ่านแต่ข่าว


 


จึงต้องเถียงหน่อยว่าที่กล่าวว่าคนที่ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 มีเจตนาแฝงเร้นแอบอิงผลประโยชน์ แก้ไขเพื่อตัวเอง หมู่คณะ หรือ พ.ต.ท.ทักษิณ ผมบอกได้เลยว่าคนที่พูดแบบนี้ พูดไปตามเพลง หรือเต้นไปตามจังหวะกลองที่เผด็จการตีให้เต้น


 


 


จตุพรแนะลาออกให้หมด ให้วีรชน ญาติวีรชนมาทำแทน


นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้ดำเนินรายการ กล่าวว่า กรรมการมูลนิธิวีรชน 14 ตุลา น่าจะให้บรรดาวีรชนที่ได้รับบาดเจ็บ ญาติวีรชนเข้ามาบริหารแทน เพราะมูลนิธิได้ส่งนายประสาน มฤคพิทักษ์ ระบบสรรหา ซึ่งในช่วงที่รัฐบาลถูกยึดอำนาจ ตัวคุณประสาร ก็เข้าไปอยู่ในวอร์รูมของนายธีรภัทร เสรีรังสรรค์ จึงขอถามว่ามูลนิธิซึ่งคัดค้านเผด็จการ เสนอคนไปทำงานรับใช้เผด็จการ ไปเป็น ส.ว. ได้อย่างไร


 


โดยนายวีระ ได้กล่าวว่า ขอความกรุณาให้กรรมการของมูลนิธิทั้งหมดลาออก แล้วให้วีรชนและญาติวีรชนทำเอง คงไม่ทำให้มูลนิธิเจ๊งไปหรอกครับ เขาคงทำกันเป็น


 


 


การ์ดพันธมิตรเตรียมพร้อมเกรง นปช.บุก สนธิป้ายข้อหา นปช. คิดล้มสถาบัน


ขณะที่ เวลา 22.15 น. บรรดาการ์ดพันธมิตรได้มีการระดมคนประมาณ 100-200 คน เพื่อเตรียมความพร้อมหากกลุ่ม นปช.มาบุกที่ทำเนียบ นอกจากนี้ ยังมีการกระจายกำลังตามจุดต่างๆ นอกบริเวณทำเนียบ เช่น สะพานมัฆวานรังสรรค์ แยก จปร. เพื่อสกัดกลุ่ม นปช. โดยแต่ละคนถือไม้พลอง ไม้เบสบอล หนังสติ๊กที่ใช้ลูกแก้ว ลูกหิน ตัวน็อตเป็นกระสุน โดยการ์ดแต่ละคนจะผูกผ้าเหลืองไว้ที่แขนข้างซ้ายเป็นสัญลักษณ์ สวมหมวกกันน็อค


 


อย่างไรก็ตาม กลุ่ม นปช.ที่อยู่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อเสร็จพิธีรำลึกวีรชน 14 ตุลาได้เคลื่อนขบวนกลับไปชุมนุมที่สนามหลวงเหมือนเดิม


 


ขณะที่บนเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัยตอนหนึ่งว่า "ให้พวกเราคิดสักนิดว่า ตั้งแต่ปี 2544 จนถึงวันนี้ พวกมันยังไม่หยุดจาบจ้วง วันนี้ที่เวทีสนามหลวง ยังจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ วันนี้มันเปิดหน้าชกแล้ว" นายสนธิระบุและว่า ที่มันเอาเงินไปซื้อรากหญ้า ซื้อตำรวจ และทหารที่มีอำนาจบางคน ซึ่งตอนนี้เรารู้แล้วว่าเป็นใคร เพราะแม้ประชาชนถูกฆ่ามันก็ไม่ออกมา เห็นเกมของพวกมันแล้วหรือยัง วันนี้ชัดเจนแล้วว่าเป็นการต่อสู้ระหว่างคนที่เอาพระมหากษัตริย์กับฝ่ายที่ไม่เอาสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เลือกเอา และนี่คือ สงครามครั้งสุดท้ายเราถอยไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว


 


 


ที่มาของข่าวบางส่วน: มติชนออนไลน์ กรุงเทพธุรกิจ แนวหน้า และประชาทรรศน์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net