เมื่อวานนี้ (10 ก.ย.) ว่า เมื่อเวลา 14.00 น.ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นคำร้องขอประกันตัวนักรบศรีวิชัย ที่บุกไปปิดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษา ผู้หญิงและผู้สูงอายุ จำนวน 18 คน โดยใช้กรมธรรม์ประกันอิสรภาพของบริษัทวิริยะประกันภัย จำกัด มูลค่า 2 แสนบาทเป็นหลักทรัพย์

ศาลให้ประกันตัวเพิ่ม 9 คน เน้นนักศึกษา สตรี และผู้สูงอายุ

ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัว จำนวน 9 คน ประกอบด้วย นายยุทธนา โอชาพงค์ นักศึกษาปี 3 คณะบริหารธุรกิจ ม.เทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี, นายสัมพันธ์ อ่อนช่วย นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ม.รามคำแหง, นายนภดล เอี่ยมอุดม ปวส.ปี 1 รร.มิตรพลพาณิชยการ, น.ส.แก้วกาญ แพสุวรรณ์, น.ส.สายใจ มณีอุปถัมภ์, นายคฑาวุธ ชูศรี นักเรียน ม.6 ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน, น.ส.อนัญชญา เพ็ญพลกรัง, นายรอย บุญนิล และ น.ส.วรรณวิมล แพรสุวรรณ์

โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ทั้งหมดเป็นนักศึกษาและมีความจำเป็นต้องกลับไปศึกษาเล่าเรียนต่อ และสัญญาว่าจะไม่หลบหนีหรือไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น และจะมาตามกำหนดนัดของศาลทุกนัดแล้ว เพื่อให้โอกาสผู้ต้องหาได้มีโอกาสกลับไปศึกษาเล่าเรียนต่อ จึงเห็นควรอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 9 โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท ทำสัญญาประกัน ยึดหลักประกัน แจ้งบริษัทประกันภัยทราบ และเห็นควรมีข้อกำหนดห้ามมิให้ผู้ต้องหาทั้ง 9 ไปก่อเหตุอันตรายประการใดในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก มิฉะนั้นศาลจะมีคำสั่งเพิกถอนสัญญาประกัน

ส่วนผู้ต้องหาอีก 9 คนที่ยื่นประกันในวันนี้ด้วย คือ นายธเนศร์ คำชุม ผู้ต้องหาที่ 1 ,นายชนินทร์ อินทร์พรหม ผู้ต้องที่ 2 อายุ 42 ปีซึ่งระบุเป็นโรคเบาหวาน , นายวุฒิชัย บุญช่วย ผู้ต้องหาที่ 9 , นายธนพัฒน์ วิไลภรณ์ ผู้ต้องหาที่ 12 , นายประสงค์ ตรัยรัตน์ ผู้ต้องหาที่ 44 ,นายอดิลักษณ์ อนุชาติ ผู้ต้องหาที่ 55 ,นายประสิทธิ มากแก้ว ผู้ต้องหาที่ 62 , นายสุนทร สุวรรณ นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ม.รามคำแหง ผู้ต้องหาที่ 75 และนายธนพล แก้วเชิด ผู้ต้องหาที่ 80 ปรากฏว่าเอกสารยังไม่ครบถ้วน ศาลจึงยังไม่พิจารณาคำร้อง ซึ่งทนายความและญาติผู้ต้องหาเตรียมจัดหาเอกสารมายื่นต่อศาลเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาคำร้องต่อไป

โดยรายชื่อผู้ที่ได้รับประกันตัวใน 2 วัน 11 คน มีดังนี้ นายยุทธนา โอชาพงศ์ ผู้ต้องหาที่ 11 , นายนิติรัตน์ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้ต้องหาที่ 13 และ นายนัสเซอร์ ยีหมะ ผู้ต้องหาที่ 14 , นายสัมพันธ์ อ่อนช่วย ผู้ต้องหาที่ 17 , นายนภดล เอี่ยมอุดม ผู้ต้องหาที่ 27 , นายคฑาวุธ ชูศรี ผู้ต้องหาที่ 30 , น.ส.อนัญชญา เพ็ญพลกรัง ผู้ต้องหาที่ 35 ,น.ส.แก้วกาญ แพสุวรรณ์ ผู้ต้องหาที่ 45 , น.ส.สายใจ มณีอุปถัมภ์ ผู้ต้องหาที่ 54 , นายรอย บุญนิล ผู้ต้องหาที่ 60 และ น.ส.วรรณวิมล แพสุวรรณ์ ผู้ต้องหาที่ 69

อ้างการเมืองบีบ บ.ประกัน ไม่ให้ขายกรมธรรม์อิสรภาพ "นักรบศรีวิชัย"

ผู้จัดการออนไลน์ ยังรายงานเพิ่มด้วยว่า ปัญหาความล่าช้าในการขอปล่อยตัวชั่วคราวกลุ่มนักรบศรีวิชัย และการ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ต้องหาคดีร่วมกันใช้กำลังบุกรุกเข้าไปยึดอาคารสำนักงานสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) นั้น แหล่งข่าววงการประกันภัย เปิดเผยว่า มีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมืองไม่ให้เอกชนขายกรมธรรม์อิสรภาพ โดยสั่งการผ่านคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่กำกับบริษัทประกันภัยให้สั่งบริษัทประกันอีกทอด สร้างความอึดอัดให้บริษัทประกันภัยและกระทบต่อการขอปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหากลุ่มดังกล่าว

ทั้งนี้ หลักทั่วไปในการซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพจากบริษัทประกันภัยนั้น คดีที่บริษัทจะปฏิเสธรับทำประกันนั้นคือคดีที่ผิดศีลธรรม เช่น คดียาเสพติด และคดีกระทำชำเรา บริษัทประกันภัยในประเทศที่รับทำประกันอิสรภาพมีการห้ามแค่ 2 เงื่อนไขนี้เท่านั้น ดังนั้น การบุกเข้ายึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา ถือเป็นกรณีทั่วไป

อย่างไรก็ตาม หากเป็นประเด็นทางการเมืองตามที่ผู้มีอำนาจพยายามกล่าวอ้าง ก็ยังถือเป็นเรื่องเล็กน้อย คือ ทำลายทรัพย์สินทางราชการ บริษัทประกันภัยก็สามารถรับทำประกันอิสรภาพได้โดยไม่มีปัญหาแต่อย่างใดไม่ถือเป็นเรื่องร้ายแรง

"การบุกเข้าสถานที่ราชการในครั้งนี้ เป็นการกระทำของฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาล จึงอาจเป็นเหตุผลให้การประกันตัวล่าช้า มีการประกันได้แค่ 2 ราย ที่เหลือยังรอบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ซึ่งขายประกันตามตามหลักธุรกิจยังคงชะลอไว้ก่อน ขณะที่หลายบริษัทปฏิเสธ กลัวว่ากระทรวงการคลัง อาจใช้กรมสรรพากรมาเล่นงานเรื่องภาษี" แหล่งข่าวกล่าว

สำหรับค่าใช้จ่ายการซื้อกรมธรรม์ประกันอิสรภาพนั้น โดยปกติแล้วหากผู้ที่มีอาชีพเสี่ยงซื้อไว้ก่อนเกิดคดีความจะคิดที่อัตราร้อยละ 1% ของวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่หากซื้อหลังจากเกิดคดีความจะคิดในอัตราร้อยละ 7 ของวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งกรณีของกลุ่มนักรบศรีวิชัยนั้น ซื้อแบบกลุ่ม บริษัทอาจคิดค่าเบี้ยในอัตราส่วนลดพิเศษให้ด้วยโดยดูผู้ค้ำประกันว่ามีความน่าเชื่อถือในสังคมหรือไม่

ล่าสุด ที่ศาลอาญา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การซื้อประกันอิสรภาพของกลุ่มนักรบศรีวิชัย 80 คน ขั้นตอนอยู่ในระหว่างการดำเนินการด้านเอกสารให้เรียบร้อย โดยข้อมูลของบุคคลที่ถูกดำเนินคดีทั้งหมดอยู่ในระบบของบริษัทแล้วรอเพียงขั้นตอนการอนุมัติเท่านั้น หากไม่มีคำสั่งพิเศษที่คาดไม่ถึงเข้ามา ภายในเย็นวันที่ 10 ก.ย.น่าจะอนุมัติการซื้อกรมธรรม์ทั้งหมดได้

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รักษาการรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ในฐานะผู้ดูแลสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมและกำกับการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่กำกับบริษัทประกันภัย กล่าวว่า ตนไม่ได้สั่งการหรือห้ามบริษัทประกันภัยปฏิเสธการรับประกันอิสรภาพของกลุ่มนักรบศรีวิชัย เพราะเป็นเรื่องการทำธุรกิจของภาคเอกชนที่จะตัดสินใจรับทำประกันอิสรภาพให้กับกลุ่มผู้ถูกจับกลุ่มหรือไม่ "กระทรวงการคลังไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องหรือแทรกแซง เป็นเรื่องบริหารความเสี่ยงของภาคเอกชนในการทำธุรกิจ" นพ.สุรพงษ์ กล่าว